วาทกรรมโกหกบิดเบือนหะดิษเกี่ยวกับพ่อแม่นบี
อับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์
7 มกราคม เวลา 16:06 น.
พ่อเเม่นบี(ซล) ไม่ใช่กาเฟร และไม่ใช่ชาวนรก โดยมีหลักฐานระบุชัดเจน จากอัลกุรอ่าน อัลหะดีส อิจมาอ์ และคำอธิบายของอุละมาอ์ในยุคสะลัฟและค่อลัฟ
.
1.หะดีสบทที่วะฮาบีย์ยกมาแล้วอ้างว่าหมายถึงพ่อแม่ของท่านนบี(ซล)นั้น ขัดกับข้อมูลความจริงจากอัลกุรอ่าน ซึ่งบ่งชี้ถึงว่า พ่อแม่ของท่านนบี(ซล) อยู่ในอะห์ลุ้ลฟัตเราะห์ ซึ่งในหะดีสบุคอรีย์ 7/277ระบุไว้ว่า จากซัยยิดินาซัลมาน อัลฟาริซี่ย์กล่าวว่า
.
"ฟัตเราะห์นั้น อยู่ในช่วงระหว่างนบีอีซา และนบีมุฮำมัด(ซล) 600 ปี"
.
2.และอะห์ลุ้ลฟัตเราะห์ คือ ผู้ที่ไม่มีนบีท่านใดถูกส่งไปยังพวกเขาก่อนการถูกแต่งตั้งนบีมุฮำมัด(ซล) อันได้เเก่ ชาวมักกะห์มะดีนะห์ และรอบๆ ซึ่งอัลเลาะห์ได้กล่าวไว้ในอัลกุรอ่านว่า
.
وَمَا كُنَّا مُعَذِّبِينَ حَتَّىٰ نَبْعَثَ رَسُولًا
.
และเรามิเคยลงโทษผู้ใด จนกว่าเราจะแต่งตั้งร่อซูลมา
@@@@@
ชี้แจง
ความจริง ประเด็นนี้ไม่ควรจะนำมาถกเถียงกันเลย เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่บังควร แต่เมื่อมีคนบางคนบิดเบือนทางวิชาการ จึงขอชี้แจงดังนี้
หะดีษเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีดังนี้ ...
(1). มีรายงาน จากท่านหัมมาด บินสะละมะฮ์, จากท่านษาบิต อัล-บุนานีย์, จากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. ว่า ...
أَنَّ رَجُلاَ قَالَ : يَا رَسُوْلَ اللهِ! أَيْنَ أَبِىْ ؟ .. قَالَ : فِى النَّارِ، فَلَمَّا قَفَّى دَعَاهُ فَقَالَ : إِنَّ أَبِىْ وَأَبَاكَ فِى النَّارِ ...
“ชายผู้หนึ่งกล่าวว่า .. โอ้ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ บิดาของฉันอยู่ที่ไหน?, ท่านนบีย์ตอบว่า .. อยู่ในนรก, แล้วเมื่อเขาผินหลังให้ท่านนบีย์ก็เรียกเขา แล้วกล่าวว่า .. แท้จริง ทั้งบิดาของฉันและบิดาของท่านอยู่ในนรก” ...
(บันทึกโดยท่านมุสลิม หะดีษที่ 347/203, ท่านอบูอะวานะฮ์ เล่มที่ 1 หน้า 99, ท่านอบูดาวูด หะดีษที่ 4718, ท่านอะห์มัด เล่มที่ 3 หน้า 268, ท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 7 หน้า 190, ท่านอัล-ญูซะกอนีย์ในหนังสือ “อัล-อะบาฏิล วัลมะนากีรฺ” เล่มที่ 1 หน้า 233 และท่านอบูยะอฺลา 6/229/3516) ...
.............
นายอับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์ ทำตัวเป็นอุลามาอฺนั่งเทียนบอกว่า
" พ่อเเม่นบี(ซล) ไม่ใช่กาเฟร และไม่ใช่ชาวนรก โดยมีหลักฐานระบุชัดเจน จากอัลกุรอ่าน อัลหะดีส อิจมาอ์ และคำอธิบายของอุละมาอ์ในยุคสะลัฟและค่อลัฟ"
......
ขอบตอบว่า "เป็นการนั่งเทียนโกหก ใหนหรือ อัลอิจญมาอฺ ที่นั่งเทียนโกหกข้างต้น
ก่อนจะชี้แจง ขอเรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า นี่คือการนำเสนอทางวิชาการที่ปราชญ์ในอดีตได้ชี้แจงไว้ ไม่ใช่การดูหมิ่นตระกูลของท่านนบี ศอ็ลฯ แต่อย่างใด มันเป็นข้อมูลทางงวิชาการ เท่านั้น
อิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ (ฮ.ศ ๓๘๔ –๕๔๘) กล่าว หลังจากได้วิจารณ์หะดิษนี้(หะดิษเกี่ยวกับพ่อแม่นบี)ว่า
وكيف لا يكون أبواه وجدُّه بهذه الصفة في الآخرة ، وكانوا يعبدون الوثن حتى ماتوا ، ولم يدينوا دين عيسى ابن مريم عليه السلام ، وأمرُهم لا يقدح في نسب رسول اللَّه صلى الله عليه وسلم ؛ لأن أنكحة الكفار صحيحة ، ألا تراهم يسلمون مع زوجاتهم ، فلا يلزمهم تجديد العقد ، ولا مفارقتهن ؛ إذ كان مثلُه يجوز في الإسلام . وباللَّه التوفيق
จะไม่ให้พ่อแม่และปู่ของท่าน(รซูลุลลอฮ)อยู่ด้วยลักษณะนี้ในวันอาคีเราะฮได้อย่างไรเล่า โดยที่ปรากฏว่า พวกเขาได้เคารพรูปปั้น จนกระทั้งเสียชีวิต และ โดยที่พวกเขาไม่ได้นับถือศาสนา ของ อีซา บุตร มัรยัม และเรื่องของพวกเขานั้นมิได้ถูกตำหนิในเรื่องการเป็นเผ่าตระกูลของรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เพราะว่า การแต่งงานของเหล่ากาเฟรนั้นใช้ได้ ท่านไม่เห็น พวกเขาหรือว่า พวกเขารับอิสลาม พร้อมกับคู่ครองของพวกเขา โดยที่ไม่จำเป็นต้องอะกัดนิกะหฺใหม่แต่อย่างใด และพวกเขาก็ไม่ได้ถูกให้แยกกัน เพราะในทำนองนั้น เป็นที่อนุญาตในอิสลาม – วะบิลลาฮิตเตาฟิก – อัลดะลาออีล เล่ม 1 หน้า 192
.......
ท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ก็วิเคราะห์ไปตามเนื้อหา และสภาพความเป็นจริงของหะดิษ จะไปกล่าวหาว่า อิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ ใส่ร้ายบิดานบีอย่างนั้นหรือ คนที่เข้าใจหะดิษเขาจะไม่พูดเช่นนั้น
อิบนุกะษีร (ร.ฮ) ได้ยืนยันคำพูดอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ใน อัลบิดายะฮ วัลนิฮายะฮ เล่ม ๓ หน้า ๔๒๙ ว่า
وَقَدْ قَالَ الْبَيْهَقِيُّ بَعْدَ رِوَايَتِهِ هَذِهِ الْأَحَادِيثَ فِي كِتَابِهِ دَلَائِلِ النُّبُوَّةِ : وَكَيْفَ لَا يَكُونُ أَبَوَاهُ وَجَدُّهُ عَلَيْهِ الصَّلَاةُ وَالسَّلَامُ بِهَذِهِ الصِّفَةِ فِي الْآخِرَةِ وَقَدْ كَانُوا يَعْبُدُونَ الْوَثَنَ حَتَّى مَاتُوا ، وَلَمْ يَدِينُوا دِينَ عِيسَى ابْنِ مَرْيَمَ عَلَيْهِ السَّلَامُ ، وَكُفْرُهُمْ لَا يَقْدَحُ فِي نَسَبِهِ عَلَيْهِ الصَّلَاةُ وَالسَّلَامُ; لِأَنَّ أَنْكِحَةَ الْكُفَّارِ صَحِيحَةٌ أَلَا تَرَاهُمْ يُسْلِمُونَ مَعَ زَوْجَاتِهِمْ فَلَا يَلْزَمُهُمْ تَجْدِيدُ الْعَقْدِ وَلَا مُفَارَقَتُهُنَّ إِذَا كَانَ مِثْلُهُ يَجُوزُ فِي الْإِسْلَامِ ، وَبِاللَّهِ التَّوْفِيقُ انْتَهَى كَلَامُهُ
และแท้จริง อัลบัยฮะกีย์ ได้กล่าว หลังจากเขารายงานหะดิษเหล่านี้ในหนังสือของเขา คือ ดะลาอิลุลนุบูวะฮ ว่า ….(ดูความหมายภาษาไทยข้างต้น)
แล้วท่าน อัลบัยฮะกีย์ได้กล่าวอีก ใน สุนันอัลกุบรอ เล่ม 7 หน้า 190 ว่า
وأبواه كانا مشركين, بدليل ما أخبرنا
และบิดามารดาของท่านนบี เป็นมุชริกีน ด้วยหลักฐานที่ท่านนบีได้บอกเรา
อิบนุกะษีร ( ร.ฮ) ได้ชี้แจงในอัลบิดายะฮวัลนิฮายะฮว่า
وأخباره صلى الله عليه وسلم عن أبويه وجده عبد المطلب بِأَنَّهُمْ مِنْ أَهْلِ النَّارِ ، لَا يُنَافِي الْحَدِيثَ الْوَارِدَ عَنْهُ مَنْ طُرُقٍ مُتَعَدِّدَةٍ أَنَّ أَهْلَ الْفَتْرَةِ وَالْأَطْفَالَ وَالْمَجَانِينَ وَالصُّمَّ يُمْتَحَنُونَ فِي الْعَرَصَاتِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ ، كَمَا بَسَطْنَاهُ سَنَدًا وَمَتْنًا فِي تَفْسِيرِنَا عِنْدَ قَوْلِهِ تَعَالَى وَمَا كُنَّا مُعَذِّبِينَ حَتَّى نَبْعَثَ رَسُولًا [ الْإِسْرَاءِ : 15 ] فَيَكُونُ مِنْهُمْ مَنْ يُجِيبُ وَمِنْهُمْ مَنْ لَا يُجِيبُ فَيَكُونُ هَؤُلَاءِ مِنْ جُمْلَةِ مَنْ لَا يُجِيبُ فَلَا مُنَافَاةَ وَلِلَّهِ الْحَمْدُ وَالْمِنَّةُ
.
ข้าพเจ้า(หมายถึงอิบนุกะษีร) กล่าวว่า “การบอกเล่าของนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับพ่อแมของท่านและปู่ของท่าน อับดุลมุฏลิบ ว่า แท้จริงพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งจากชาวนรก ไม่ได้ขัดแย้งกับหะดิษที่รายงานจากท่านนบี จากหลายๆสายรายงานจำนวนมาก ว่าแท้จริง อะฮลุลฟิตเราะฮ,บรรดาเด็กเล็ก,คนบ้า และคนหูหนวก พวกเขาถูกทดสอบ ใน ที่โล่ง ณ วันกิยามะฮ ดังที่เราได้ ขยายความมัน ทั้งที่เป็นสายรายงานและตัวบท ไว้ในตัฟสีรของเรา เกี่ยวกับคำตรัสของอัลลอฮที่ว่า
وَمَا كُنَّا مُعَذِّبِينَ حَتَّى نَبْعَثَ رَسُولًا
และเรามิเคยลงโทษผู้ใด จนกว่าเราจะแต่งตั้งร่อซูลมา – อัลอิสรออฺ/15
แล้วส่วนหนึ่งจากพวกเขา เป็นผู้ที่ตอบรับ (เชื่อฟัง) และส่วนหนึ่งจากพวกเขา ไม่ตอบรับ(ไม่เชื่อฟัง) แล้วพวกเขาเหล่านี้ จึงเป็นส่วนหนึ่ง จากผู้ที่ไม่ตอบรับ ดังนั้น จึงไม่ได้ขัดแย้งกัน –วะลิลลาฮิลหัมดุ วัลมินนะฮ – ดู อัลบิดายะฮวัลนิฮายะฮ ของอิบนุกะษีร เล่ม 3 หน้า 429
..........
อิหม่ามอิบนุกะษีร(ร.ฮ) ยืนยันว่า หะดิษ เกี่ยว พ่อแม่นบี และปู่ของท่านที่ระบุว่า เป็นชาวนรก ไม่ได้ขัดแย้ง กับอัลกุรอ่าน อย่างที่นาย
อับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์
อิหม่ามนะวาวีย์ (ร.ฮ)ปราชญมัซฮับชาฟิอี เอง ได้อธิบายหะดิษเกี่ยวกับพ่อแม่นบี ว่า
อิหม่ามนะวาวีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
فيه أن من مات في الفترة على ما كانت عليه العرب من عبادة الأوثان فهو من أهل النار ، وليس هذا مؤاخذة قبل بلوغ الدعوة ، فإن هؤلاء كانت قد بلغتهم دعوة إبراهيم وغيره من الأنبياء صلوات الله وسلامه عليهم "
ในหะดิษนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่อยู่ในยุคฟัตเราะฮ(ยุคที่ไม่มีนบีถูกส่งมาหรือขาดช่วงต่อระหว่างนบี)) ได้เสียชีวิต บนสิ่ง(ความเชื่อ)ที่ชาวอาหรับเป็นอยู่จากการบูชาเทวรูป เขาคือส่วนหนึ่งจากชาวนรก และ กรณีนี้ ไม่ใช่เป็นการเอาผิดก่อนการดะฮวะฮ(เชิญชวนสู่อิสลาม)มาถึง เพราะพวกเขาเหล่านี้ การดะฮวะฮของนบีอิบรอฮีมและอื่นจากท่าน จากบรรดานบี (ขอให้บรรดาพรและความสันติสุขของอัลลอฮ จงประสบแด่พวกเขา) ได้ถึงมายังพวกเขาแล้ว " - ชัรหุมุสลิม เล่ม 3 หน้า 79
.....
จึงถามนาย อับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์ ว่า
1.ที่อ้างว่าอิจญมาอฺ ยืนยันว่า พ่อแม่นบีไม่ใช่ชาวนรก ท่านมีหลักฐานยืนยันหรือนั่งเทียนโกหก
2.อิหม่ามนะวาวีย ,อัลบัยฮะกีย์ และอิบนุกะษีร มีความเห็นขัดแย้งกับอัลอิจญมาอฺหรือไม่
3. ปราชญสามท่านข้างต้น เป็นวะฮบีย์ในประเด็นนี้หรือไม่
.......
หวังว่าคงจะได้รับคำตอบจากนาย อับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์และขอเรียนพี่น้องผู้อ่านว่า ประเด็นนี้ ผมจำใจต้องมาตอบ ตามหลักวิชาการ ที่นักวิชาการได้อธิบายเอาไว้และไม่ปรารถนาที่จะดูมิ่นดูแคลนท่านนบีแม้แต่เท่าปีกริ้น
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/1/60