วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ละหมาดกุซูฟ(สุริยุปราคา)อ่านเบ่าหรืออ่านดัง (ภาค 2)


ละหมาดกุซูฟ(สุริยุปราคา)อ่านเบ่าหรืออ่านดัง (ภาค 2)

มีพี่น้องถามมาว่า มีคนบอกว่า ละหมาดคุซูฟ(สุริยุปราคา)อ่านเบา และมองว่าอ่านดังเป็นเรืองแปลก แปลก อาจจะเพราะการตักลิดแต่ไม่ศึกษาข้อเท็จจริง จึงมองว่าแปลก จึงขอนำรายละเอียดชี้แจงดังนี้
การละหมาดสุริยุปราคา มีสุนนะฮให้อ่านดังด้วยหลักฐานต่อไปนี้

صلاةُ كُسوفِ الشَّمسِ صَلاةٌ جهريَّة، وهذا مذهبُ الحَنابِلَة (1) ، والظاهريَّة (2) ، وقولُ أبي يُوسفَ ورِواية عن محمَّد بن الحسنِ من الحَنَفيَّة (3) ، وقول للمالكيَّة (4) ، وهو قولُ طائفةٍ من السَّلف (5) ، واختاره ابنُ خُزَيمةَ (6) ، وابنُ المنذرِ (7) ، وابنُ 
العربيِّ (8) ، والشوكانيُّ (9) ، وابنُ عُثَيمين (10) ، وابنُ باز
ละหมาดสุริยุปราคา คือ การละหมาดอ่านเสียงดัง นี้คือ มัซฮับ อัลหะนาบะละฮ(1) อัซซอฮิรียะฮ(2) และเป็นทัศนะของอบียูซุฟ และรายงานหนึ่ง จากมุหัมหมัด บิน อัลหะซัน เป็นส่วนหนึ่งจากปราชญ์หะนะฟียะฮ(3) และทัศนะของปราชญ์มัซฮับมาลิกียะฮ (4) และเป็นทัศนะกลุ่มหนึ่งจากสะลัฟ (5) และ อิบนุคุซัยมะฮ (6) อิบนุอัลมุนซีร (7) อิบนุอัลอะเราะบีญ์(8) อัชเชากานีย์ (9) อิบนุอุษัยมีน (10) และอิบนุบาซ(10)ได้เลือกมัน(หมายถึงเลือกทัศนะอ่านดัง)
........
แหล่งอ้างอิง
1.((كشاف القناع)) للبُهوتي (2/62)، وينظر: ((المغني)) لابن قدامة (2/313).
2.قال ابنُ حزم: (قَطْعُ عائشةَ، وعُروةَ، والزُّهريِّ، والأوزاعيِّ بأنَّه عليه السَّلام جهَر فيها أَوْلى من ظُنونِ هؤلاء) ((المحلى)) (3/319)، ونقلَه النوويُّ عن داود الظاهريِّ. يُنظر: ((المجموع)) للنووي (5/52
3.قال ابنُ عابدين: (وقال أبو يوسف: يَجهَر، وعن محمَّد رِوايتان) ((حاشية ابن عابدين)) (2/182). ويُنظر: ((بدائع الصنائع)) للكاساني (1/281).
4.قال ابنُ المنذر: (ممَّن رُوِّينا عنه أنه جهَر بالقراءة في صلاة الكسوف: عليُّ بن أبي طالب، وفَعَل ذلك عبدُ الله بن يزيد، وبحضرته البَراءُ بن عازب وزيدُ بن أرقمَ، وبه قال أحمدُ، وإسحاق) ((الإشراف)) (2/304). وقال ابنُ قدامة: (وأمَّا الجهر فقد رُوي عن علي رضي الله عنه، وفَعَله عبدُ الله بن زيد وبحضرته البَراءُ بن عازب وزيد بن أرقم، وبه قال أبو يوسف، وإسحاق، وابن المنذر) ((المغني)) (2/314). وقال النوويُّ: (قال الخطَّابي: الذي يجيء على مذهب الشافعي أنَّه يَجهَر في كسوف الشمس، كذا نقلَه الرافعيُّ عن الخطابي، ولم أرَه في كتاب الخطَّابي) ((المجموع)) (5/52).
5.قال الشوكانيُّ: (إلَّا أنَّ الجهر أَوْلى من الإسرار؛ لأنَّه زيادة، وقد ذهب إلى ذلك أحمد وإسحاق، وابن خزيمة وابن المنذر، وغيرهما من محدِّثي الشافعية، وبه قال صاحبَا أبي حنيفة، وابنُ العربيِّ من المالكيَّة) ((نيل الأوطار)) (3/395).
6.قال ابنُ المنذر: (بالقول الأوّل «أي: الجهر» أقول؛ لحديثِ النبيِّ صلَّى اللهُ عليه وسلَّم أنه جهَر بالقِراءة) ((الإشراف)) (2/304).
7.قال ابن العربي: (والجهرُ عندي أَوْلى؛ لأنَّها صلاةُ الجماعة، يُنادي لها كما يُنادي للصبح: الصلاة جامعة، ويَخطُب لها كما في بعضِ الرِّوايات) ((عارضة الأحوذي)) (3/42).
8.قال الشوكانيُّ: (الجهر أَوْلى من الإسرار؛ لأنَّه زيادة) ((نيل الأوطار)) (3/395).
9.قال ابنُ عثيمين: (السُّنَّة في صلاة الكسوف الجهرُ، سواء في الليل أو في النهار، وهو كذلك؛ لحديث عائشةَ) ((الشرح الممتع)) (5/183).
10.قال ابنُ باز: (السُّنةُ الجهرُ في صلاة الكسوف؛ لأنَّ الرسول صلَّى اللهُ عليه وسلَّم جهَر فيها عند حصولِ الكسوف، وصلَّى بالناس) ((فتاوى نور على الدرب)) (13/393).
หลักฐานคือ
1.จากอัสสุนนะฮ
عن عائشةَ رَضِيَ اللهُ عنها: ((أنَّ النبيَّ صلَّى اللهُ عليه وسلَّم جهَرَ في صلاةِ الخُسوفِ))
รายงานจากอาอีฉะฮ (ร.ฏ) แท้จริง ท่านนบี ศ็อลฯ อ่านเสียงดังในละหมาดสุริยุปราคา
رواه البخاري (1065)، ومسلم (901).
2.เหตุผลที่อ่านดัง
أنَّها نافلةٌ شُرِعتْ لها الجماعة، فكان مِن سُننها الجهرُ، كصلاةِ الاستسقاءِ، والعيد، والتَّراويح
แท้จริงมัน(ละหมาดสุริยุปราคา )คือละหมาดอาสา(สุนัต) ถูกบัญญัติให้ละหมาดญะมาอะฮสำหรับมัน และส่วนหนึ่งจากแบบอย่างของมันคือ การอ่านดัง เช่น ละหมาดขอฝน ,ละหมาดอีดและละหมาดตารอเวียะ -
((المغني)) لابن قدامة (2/314)، ((الاستذكار)) لابن عبد البر (2/415). قال ابنُ عبد البَرِّ: (ومِن حُجَّة مَن قال بالجهر في صلاة الكسوف: إجماعُ العلماء على أنَّ كلِّ صلاة سُنَّتها أن تُصلَّى في جماعةٍ من الصلوات المسنونات، فسنتها الجهرُ كالعيدين والاستسقاء، قالوا: فكذلك الكسوف) ((الاستذكار)) (2/415).
............
กล่าวคือการละหมาดสุนัตสุริยุปราคานั้น เป็นละหมาดที่มีบัญญัติให้ปฏิบัติในรูปของญะมาอะฮ ซึ่งทุกๆละหมาดสุนัตที่มีบัญญัติให้ปฏิบัติในรูปแบบญะมาอะฮนั้นแบบอย่างของมัน คือ การอ่านดัง
......
หลักฐานการอ่านดังในละหมาดสุริยุปราคา นั้น มีน้ำหนัก -ดูเพิ่มเติมจากหนังสือ มันฮัจญ์ อัตเตาฟิก วัตตัรเญียะ บัยนะมุคตะละฟิลหะดิษ ของ ดร. อับดุลมะญีด มุหัมหมัด บิน อิสมาอีล อัสสูสูต หน้า 491 (ดูสำเนา หนังสือที่แนบมา)

อะสัน หมัดอะดั้ม
27/12/62








เอกสารอ้างอิง





 ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จงทิ้งสามประการแล้วท่านจะได้รับความหวานของอิบาดะฮ




ในภาพอาจจะมี ข้อความ


จงทิ้งสามประการแล้วท่านจะได้รับความหวานของอิบาดะฮ
อบูอับดุลลอฮ อันนัยสะบูรีย์ ,อะหมัด บิน หัรบิน (เสียชีวิตปี ฮ.ศ 192) กล่าวว่า
عَبَدْتُ اللَّهَ خَمْسِينَ سَنَةً ، فَمَا وَجَدْتُ حَلَاوَةَ الْعِبَادَةِ حَتَّى تَرَكْتُ ثَلَاثَةَ أَشْيَاءَ : تَرَكْتُ رِضَا النَّاسِ حَتَّى قَدَرْتُ أَنْ أَتَكَلَّمَ بِالْحَقِّ ، وَتَرَكْتُ صُحْبَةَ الْفَاسِقِينَ حَتَّى وَجَدْتُ صُحْبَةَ الصَّالِحِينَ ، وَتَرَكْتُ حَلَاوَةَ الدُّنْيَا حَتَّى وَجَدْتُ حَلَاوَةَ الْآخِرَةِ .
ข้าพเจ้าทำอิบาดะฮต่ออัลลอฮมา 50 ปี ข้าพเจ้าไม่เคยได้พบกับความหวานของอิบาดะฮเลย จนกระทั่ง ข้าพเจ้าได้ทิ้ง 3 สิ่ง คือ
1.ข้าพเจ้าทิ้งความพอใจของมนุษย์ จนกระทั้่งข้าพเจ้าสามารถพูดความจริงได้
2. ข้าพเจ้าละทิ้งบรรดาเพื่อนที่เลว จนกระทั้งข้าพเจ้าได้พบบรรดาเพือนที่ดี
3. ข้าพเจ้าได้ทิ้งความหวานของดุนยา จนกระทั่งข้าพเจ้า พบกับความหวานของอาคีเราะฮ - สิยัรเอียะลามอัลนุบะลาอฺ ของอิหม่ามอัซซะฮะบีย์ 11/34
..........
ทุกวันนี้ ผู้รู้ส่วนหนึ่ง เป็นเตมีย์ใบ้ ไม่กล้าพูดความจริงให้สังคมรับรู้ ก็เพราะยังต้องการความนิยมและความพอใจของสังคมอยู่ จึงไม่เป็นอิสระ ถูกครอบด้วยกะลาของคนญาเฮล
อะสัน หมัดอะดั้ม
26/12/62

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เอาเงินซะกาตมาสร้างและบูรณะมัสยิดได้ไหม



เอาเงินซะกาตมาสร้างและบูรณะมัสยิดได้ไหม
ยุคหลังๆ การสร้างมัสยิด การบูรณะมัสยิด มีกระแสแรงมาก แต่ละปีงานการกุศุลสร้างมัสยิด บูรณะมัสยิด ตบแต่งมัสยิด มีมาไม่ขาดสาย จึงนำเสนอบทความนี้ให้พี่น้องอ่านและพิจารณาว่า มันสมควรหรือหากเราเอาเงินซะกาตไปสร้างหรือบูรณะมัสยิด
السؤال
هل يجوز لي أن أستخدم مال الزكاة في بناء مسجد؟.
คำถาม
อนุญาตให้ข้าพเจ้าใช้ทรัพย์สินซะกาต ในการสร้างมัสยิดไหม?
نص الجواب
الحمد لله
سئلت اللجنة الدائمة هل يجوز صرف الزكاة على المسجد لترميمه وفرشه ونحو ذلك من الزكاة فأجابت :
คำตอบ
อัลหัมดุลิลละฮ
คณะกรรมการถาวร(เพื่อการวิจัยวิชาการและตอบปัญหา) ได้ถูกถาม ว่า "จายซะกาตให้แก่มัสญิด เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมมัสยิดและปูพื้นมัสยิด และในทำนองนั้นจากซะกาตได้ไหม แล้วอัลลุจญะนะฮดาอิมะฮตอบว่า
أما الزكاة فهي مخصوصة لثمان جهات عينها الله تعالى بقوله : ( إنما الصدقات للفقراء والمساكين والعاملين عليها والمؤلفة قلوبهم وفي الرقاب والغارمين وفي سبيل الله وابن السبيل ) التوبة ، ومن ذلك يتضح أن المساجد ليست من الجهات الثمان المذكورة في الأية ، والمحصور إخراج الزكاة فيها . وبالله التوفيق
สำหรับ ซะกาตนั้น มันถูกเจาะจงเฉพาะ 8 ด้านเท่านั้น ซึ่งอัลลอฮตาอาลาได้เจาะจงเป็นการเฉพาะด้วยคำตรัสของพระองค์ที่ว่า ( “ ความจริงซะกาตนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของคนยากไร้ คนขัดสน เจ้าหน้าที่ซะกาต ผู้ที่ศรัทธาใหม่ สำหรับการไถ่ตัว คนมีหนี้สิน สำหรับวิถีทางแห่งอัลเลาะห์ และคนที่เดินทาง..) ซูเราะอัตเตาบะฮ /” และจากดังกล่าวนั้น มันทำให้ชัดเจนว่า แท้จริง มัสยิด ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาด้านทั้งแปด(ผู้มีสิทธิ์รับซะกาตทั้งแปด) ที่ถูกระบุในอายะฮ และสิ่งที่ถูกจำกัด การจ่ายซะกาตอยู่ในมัน -วะบิลลาฮิตเตาฟิก -ฟะตาวาอิสลามียะฮ 2/91
ในฟิกฮอัลอิสลามีย์ ของ ดร.วะฮบะฮอัซซุหัยลีย์ระบุว่า
اتفق جماهير فقهاء المذاهب على أنه لا يجوز صرف الزكاة إلى غير من ذكر الله تعالى، من بناء المساجد والجسور والقناطر والسقايات وجري الأنهار وإصلاح الطرقات، وتكفين الموتى والتوسعة على الأضياف، وبناء الأسوار، .........ونحو ذلك من القرب التي لم يذكرها الله تعالى مما لا تمليك فيه؛ لأن الله سبحانه وتعالى قال: {إنما الصدقات للفقراء....} [التوبة: 60]، وكلمة إنما للحصر والإثبات، تثبت المذكور وتنفي ما عداه
บรรดาปราชญ์ฟิกฮมัซฮับต่างๆส่วนใหญ่(ญุมฮูร) เห็นฟ้องกันว่า ไม่อนุญาตให้จ่ายซะกาต แก่อื่นจากผู้ที่อัลลอฮตาอาลาได้ระบุไว้ เช่น การสร้างมัสยิด ,สร้างสะพาน ,สร้างเขื่อน สร้างแอ่งน้ำ, ขุดคลอง ,ปรับปรุงถนนหนทาง,การห่อศพ ,การให้ความสะดวกบรรดาแขกมาเยือน ,การสร้างกำแพง........ และในทำนองนั้น จากการอิบาดะฮที่อัลลอฮตาอาลาไม่ได้ระบุมันเอาไว้ จากสิ่งที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในมัน เพราะ เพราะแท้จริงอัลลอฮ (ซ.บ) ตรัสวา( ความจริงซะกาตนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของบรรดาคนยากไร้....) และคำว่า "อินนะมา"(انما ) เพื่อการจำกัดความและการยืนยัน ,ยืนยันสิ่งที่ถูกระบุไว้ และปฏืเสธสิ่งที่อื่นจากนั้น - ดูฟิกฮอัลอิสลามมีย์ เล่ม 2 หน้า 876 (ดูสำเนาที่แนบมา)
..........
สรุปคือ มัสยิด หรือการสร้างมัสยิดไม่ได้ระบุไว้ในประเภทของผู้มีสิทธิ์รับซะกาต ในทัศนะปราชญ์ฟิกฮมัซฮับส่วนใหญ่จึงไม่อนุญาตให้นำทรัพย์สินซะกาต มาสร้างมัสยิด
อะสัน หมัดอะดั้ม
17/12/62

 ในภาพอาจจะมี ข้อความ