วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

ไม่มีระบบแฟนในอิสลาม




ไม่มีระบบแฟนในอิสลาม
 
มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่พระเจ้าสร้างผู้ชายกับผู้หญิง เป็นสิ่งคู่กัน ต่างฝ่ายต่างมีแรงปรารถนาแก่กันและกัน และ มีความต้องการที่จะหาความสุขจากกันและกัน ,อิสลามจึงสอนให้มีการสู่ขอและแต่งงาน ตามหลักศาสนา เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างครอบครัวและผลิตสมาชิกที่เป็นอุมมะฮอิสลามออกสู่สังคม และผลิตคนดีให้มาเป็นสมาชิกของสังคม อิสลามไม่มีระบบแฟน และการอยู่กันก่อนแล้วทำพิธีแต่งงานทีหลังเมื่อต่างฝ่ายต่างพอใจที่จะอยู่กันนั้น ไม่ใช่ระบบอิสลาม คำสอนอิสลามห้ามสตรีอยู่ต...ามลำพังกับชายที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน
อิบนุอับบาส เล่าว่า นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
 
لاَ يَخْلُوَنَّ رَجُلٌ بِامْرَأَةٍ، وَلاَ تُسَافِرَنَّ امْرَأَةٌ إِلاَّ وَمَعَهَا مَحْرَمٌ
 
"บุรุษ(อัตญ์นะบี)จงอย่าอยู่ร่วมกับสตรี(อัจญ์นะบียะฮฺ)เพียงลำพังเป็นอันขาด และสตรีจงอย่าเดินทางเพียงลำพังคนเดียวเป็นอันขาดนอกจากว่าจะมีมะหฺร็อมของนางร่วมอยู่ด้วย" (อัลบุคอรีย์,กิตาบอันนิกาหฺ, หะดีษที่ 2784, 4832, มุสลิม, กิตาบอัลหัจญ์, หะดีษที่ 2391)
 
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
 
لأَنْ يَطْعَنَ فِي رَأْسِ أَحَدِكُمْ بِمَخِيْطٍ مِنْ حَدِيْدٍ خَيْرٌ لَهُ مِنْ أَنْ يَمَسَّ امْرَأَةً لاَ تَحِلُّ لَهُ
“ การที่จะถูกเหล็กแหลมแทงเข้าไปในหัวของคนใดในหมู่พวกท่านนั้นยังเป็นการดีกว่าการที่เขาจะไปแตะต้องผู้หญิงที่ไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้อง (หมายถึงยังไม่ได้แต่งงาน)”
أخرجه الطبراني في " الكبير " (20/ 211ـ 212) رقم (486 ، 487) ، والروياني في " مسنده " (2/ 323) رقم (1283
والله أعلم بالصواب

มุสลิมได้เข้าสวรรค์เพราะเมตตาต่อสุนัข



 
มุสลิมได้เข้าสวรรค์เพราะเมตตาต่อสุนัข
 
 
ยังมีมุสลิมจำนวนไม่น้อย เข้าใจว่า เมื่อสุนัขเป็นสัตว์ที่ห้ามบริโภค และน้ำลายของมันเมื่อเลียภาชนะ จำเป็นจะต้องล้างให้สะอาดด้วยน้ำ ๗ ครั้ง และครั้งแรกจากเจ็ดครั้งจะต้องล้างด้วยน้ำผสมดิน จากกรณีนี้ จึงเข้าใจผิดไปว่า อิสลามสอนให้เกลียดสุนัข จนบางคนทำร้ายและรังแกสุนัข ซึ่งเป็นการเข้าใจไม่ถูกต้อง เพราะอิสลามสอนให้มีความเมตตาต่อสัตว์ การให้ทานแก่สัตว์ถือเป็นความดีงามที่ส่งผลให้ผู้กระทำได้เข้าสวรรค์ แม้สัตว์นั้นจะเป็นสุนัขก็ตาม ดังรายงานจากคำสอนศ...าสดามุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมดังต่อไปนี้
 
عَنْ أَبِيْ ذَرٍّ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ أَنَّ رسولَ اللهِ صلى اللهُ عليه وسلم قَالَ : بَيْنَمَا رَجُلٌ يَمْشِيْ بِطَرِيْقٍ اِشْتَدَّ عَلَيْهِ الْعَطَشُ فَوَجَدَ بِئْرًا فَنَزَلَ فِيْهَا فَشَرِبَ ثُمَّ خَرَجَ فَإِذَاكَلْبٌ يَلْهَثُ يَأْكُلُ الثَّرَى مِنَ الْعَطَشِ ، فَقَالَ الرَّجُلُ : لَقَدْ بَلَغَ هَذَا الْكَلْبُ مِنَ الْعَطَشِ مِثْلَ الَّذِيْ كَانَ قَدْ بَلَغَ مِنِّيْ ، فَنَزَلَ الْبِئْرَ فَمَلأَ خُفَّهُ مَاءً ثُمَّ أَمْسَكَهُ بِفِيْهِ ، حَتَّى رَقِيَ فَسَقَى الْكَلْبَ ، فَشَكَرَ اللهُ لَهُ فَغَفَرَ لَهُ قَالُوْا : يَارسولَ اللهِ إِنَّ لَنَا فِي الْبَهَائِمِ أَجْرًا ؟ فَقَالَ : " فِي كُلِّ كَبِدٍ رَطْبَةٍ أَجْرٌ " متفق عليه وَفِيْ رِوَايَةٍ ِللبُخَارِيِّ : فَشَكَرَ اللهُ لَهُ فَغَفَرَ لَهُ فَأَدْخَلَهُ الْجَنَّةَ
 
เล่า จากอะบี ซัรร์ ว่า : ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล) ได้กล่าวว่า :“ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางอยู่ ความกระหายได้เกิดขึ้นกับเขาอย่างรุนแรง เขาพบบ่อน้ำหนึ่ง เขาลงไปในบ่อ ดื่มน้ำ แล้วขึ้นจากบ่อพบสุนัขตัวหนึ่งกำลังเลีย กินดินเปียก เนื่องจากความกระหาย ชายคนนั้นรำพึงว่า : สุนัขตัวนี้คงกระหายน้ำถึงขั้นที่ฉันกระหาย เขาจึงลงไปในบ่อ และเติมน้ำจนเต็มรองเท้าของเขา แล้วใช้ปากคาบมัน จนขึ้นจากบ่อและเอาน้ำให้สุนัขได้ดื่ม อัลเลาะห์ขอบคุณเขา และอภัยโทษให้เขา “พวกเขา(ซอฮาบะห์) กล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ พวกเราจะได้ผลบุญในการทำความดีกับสัตว์ด้วยหรือ ?ท่านตอบว่า : ในทุกสิ่งที่มีชีวิต ย่อมได้รับผลบุญ “รายงานโดยบุคอรี และมุสลิม และในรายงานของบุคอรีว่า : “อัลเลาะห์ขอบคุณเขา อภัยโทษให้เขาและให้เขาเข้าสวรรค์”
>>>>>>
อิสลามสอนให้มีเมตตาธรรม การกระทำทารุณโหดร้ายต่อมนุษย์และสัตว์อย่างไม่เป็นธรรม หรือการละเมิดสิทธิผู้อื่นอย่างอยุติธรรมนั้น ไม่ใช่คำสอนอิสลาม
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม

โลกนี้เป็นแค่ความฝัน หลุมศพนั้นคือความจริง






โลกนี้เป็นแค่ความฝัน หลุมศพนั้นคือความจริง
 
สมบัติมากมายก่ายกองที่ท่านทุ่มเทมาทั้งชีวิต อดหลับอดนอน อาบเหงื่อต่างน้ำเพื่อให้ได้มันมา มันไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่ได้ในความฝัน เพราะเมื่อท่านตื่นขึ้นมาอีกครั้งในหลุพศพ ทุกอย่างกลับอัตรธานหายไป จดหมดสิ้น เหลื่อเพียงผ้าขาวสามชิ้นที่ห่อหุัมกาย พร้อมผลกรรมที่ทำไว้ ที่เป็นผลกรรมดีและชั่ว ที่ติดตัวมาเท่านั้น
รายงานจากท่านอะนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่าท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
...
«يَتْبَعُ الْمَيِّتَ ثَلَاثَةٌ، فَيَرْجِعُ اثْنَانِ وَيَبْقَى مَعَهُ وَاحِدٌ، يَتْبَعُهُ أَهْلُهُ وَمَالُهُ وَعَمَلُهُ، فَيَرْجِعُ أَهْلُهُ وَمَالُهُ، وَيَبْقَى عَمَلُهُ» [البخاري برقم 6514، ومسلم برقم 2960]
ความว่า “สิ่งที่ตามผู้ตายไป(ที่หลุมศพ)นั้นมีสามสิ่ง สองสิ่งจะกลับมาและคงเหลือสิ่งเดียว(ที่อยู่กับผู้ตาย) ครอบครัว ทรัพย์สิน และการงาน(ที่ดีและชั่วที่เขาเคยปฏิบัติ)จะตามเขาไป แล้วครอบครัวและทรัพย์สินก็จะกลับมา เหลือเพียงการงาน(ที่อยู่กับเขาในหลุม)” (อัล-บุคอรีย์ เล่มที่ 4 หน้าที่ 194 หะดีษหมายเลข 6514 และมุสลิม เล่มที่ 4 หน้าที่ 2273 หะดีษหมายเลข 2960)
น้ำทะเลในมหาสมุทร มากมายมหาศาล หากเอานิ้วชี้จุ่มลงไป น้ำที่ติดมากับนิ้วยังไมถึงหนึ่งหยดเลย ฉันใดก็ฉันนั้น ทรัพย์สมบัติอันมากมายก่ายกองมันไม่ได้ติดตัวท่านไปเลย มีมีแค่ผ้าขาวสามชิ้นเท่านั้น
ท่านนบี ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า
«وَالله، ما الدُّنْيا فِي الآخِرَةِ إلَّا مِثْلُ مَا يَـجْعَلُ أَحَدُكُمْ إصْبَـعَهُ هَذِهِ (وأشارَ يَـحْيَى بالسَّبَّابَةِ) فِي اليَـمِّ فَلْيَنْظُرْ بمَ تَرْجِعْ؟
ความว่า “ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ โลกดุนยานี้เมื่อเทียบกับอาคิเราะฮฺแล้วมันไม่มีค่าอะไรเลยนอกจากอุปมาคนหนึ่งใดในกลุ่มพวกท่านเอานิ้วมือ(ท่านยะห์ยา-ผู้รายงานหะดีษชี้ไปที่นิ้วชี้)จุ่มลงในน้ำทะเลแล้วจงดูว่ามีอะไรติดอยู่บ้าง” (บันทึกโดยมุสลิม เล่มที่ 4 หน้า 1293 หมายเลข 2858)
ทำไม่ต้องฆ่ากันเพราะทรัพย์สิน ทำไมต้องทำลายและทำร้ายกัน เพราะทรัพย์สิน ทำไม่ต้องตัดญาตขาดมิตร เพราะทรัพย์สิน และเพราะทรัพย์สินทำไมต้องเอาคำสอนศาสนาทิ้งไว้ข้างหลัง
ทั้งๆที่การศรัทธาและการประกอบการดี คืออาหารทางวิญญานที่ชุบเลี้ยงชีวิตไปตลอดชั่วนิจนิรันคร์
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

ความหมายบรรดาถ้อยคำตะชะฮุดและเศาะลาตุลนบี






                                      
    ความมายบรรดาถ้อยคำตะชะฮุดและเศาะลาตุลนบี

อัตตะชะฮุด

اَلتَّحِيَّاتُ الْمُبَارَكَاتُ الصَّلَوَاتُ الطَّيِّبَاتُ ِللهِ اَلسَّلَامُ عَلَيْكَ أَيُّهَا النَّبِيُّ وَرَحْمَةُ اللهِ وَبَرَكَاتُهُ اَلسَّلَامُ عَلَيْنَا وَعَليَ عِبَادِ اللهِ الصَّالِحِيْنَ أَشْهَدُ أَنَّ لَا إِلَهَ إِلاَّ اللهُ وَأَشْهَدُ أَنَّ مُحَمُّداً رَسُوْلُ اللهِ

 "คำคารวะต่าง ๆ ที่มีมงคลและการขอพรต่าง ๆ ที่ดีนั้น เป็นสิทธิ์แด่อัลเลาะฮ์ ขอความสันติของมีแด่ท่าน โอ้ ท่านผู้เป็นนบี รวมทั้งความเมตตาของอัลเลาะฮ์ และความเพิ่มพูนของพระองค์ ขอความสันติจงมีแด่เรา แด่บ่าวของอัลเลาะฮ์ที่มีคุณธรรม ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกกราบไว้โดยเที่ยงแท้เว้นแต่อัลเลาะฮ์ และข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า แท้จริงมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะฮ์"
ซอลาวาต

اَللَّهُمَّ صَلِّ عَليَ مُحَمَّدٍ وَعَليَ أَلِ مُحَمَّدٍ كَمَا صَلَّيْتَ عَليَ إِبْرَاهِيْمَ وَعَليَ أَلِ إِبْرَاهِيْمَ وَبَارِكْ عَليَ مُحَمَّدٍ وَعَليَ أَلِ مُحَمَّدٍ كَمَا بَارَكْتَ عَليَ إِبْرَاهِيْمَ وَعَليَ أَلِ إِبْرَاهِيْمَ فِى الْعَالَمِيْنَ إِنَّكَ حَمِيْدٌ مَجِيْدٌ

ขอพรแด่อัลเลาะฮ์ จงมีแด่แก่มุฮำมัด แก่วงศ์วานของมุฮัมมัด เหมือนกับที่พระองค์ได้ประทานพรแก่อิบรอฮีม และแก่วงศ์วานของอิบรอฮีม , และได้โปรดประทานความเพิ่มพูนแก่มุฮัมมัดและแก่วงศ์วานของมุฮัมมัดเหมือนกับที่พระองค์ได้ประทานความเพิ่มพูนแก่อิบรอฮีมและวงศ์วานของอิบรอฮีมในสากลโลก แน่แท้พระองค์นั้นควรแก่การสรรเสริญและให้เกียรติ"

                                        อธิบายคำศัพท์ในตะชะฮฮุดและเศาะลาตุลนบี

๑.التحيات لله : أنواع التعظيم له.[ فتح الباري (2/445

อัตตะฮียาตุลิลฮ : บรรดาชนิดของการให้ความเคารพเทิดทูนเป็นสิทธิของพระองค์

๒. الصلوات : العبادات كلها. [ فتح الباري (2/445)

อัศเศาะละวาต : บรรดาอิบาดะฮ(การเคารพภักดี)ทั้งหมด

๓. الطيبات : الأعمال الصالحة. [ فتح الباري (2/446)

อัตฏัยยิบาตร : บรรดาการงานที่ดี                                                                     

๔. السلام عليك أيها النبي : هو دعاء بمعنى : سَلِمْتَ من المكاره.[ فتح الباري (2/447)

อัสสะลามุอะลัยกะอัยยุฮัลนบี : มันคือการขอพร ด้วยความหมายว่า “ขอให้ท่านปลอดภัยจากบรรดาสิ่งที่ทำให้น่ารังเกียจ

๕. رحمة الله : إحسانه. [ فتح الباري (2/448

เราะหฺมะตุลลอฮ :  ความเมตตาของพระองค์

๖.عباد الله الصالحين : الأشهر في تفسير " الصالح " : أنه القائم بما يجب عليه من حقوق الله، وحقوق عباده، وتتفاوت درجاته

อิบาดิลลาฮิศศอลิฮีน : ที่แพร่หลายที่สุดในการอธิบายความหมาย “อัศศอลิกฮ คือ ผู้ที่ดำรงการปฏิบัติสิ่งที่เป็นวาญิบเหนือเขา จากบรรดาสิทธิแห่งอัลลอฮ และบรรดาสิทธิบ่าวของพระองค์ และบรรดาระดับของคนศอลิหฺมีความแตกต่างกัน – ที่มาอ้างอิงแล้วจากข้อ ๕

๗. اللهم : يا الله.[ فتح الباري (11/216) ].

อัลลอฮุมมะ : โอ้อัลลอฮ

๘. صلِّ : معنى صلاة الله على نبيه : ثناؤه عليه عند ملائكته، ومعنى صلاة الملائكة عليه : الدعاء له. [ فتح الباري (11/216

ศอ็ลลิ : ความหมายเศาะลาตุลลอฮ แก่นบีของพระองค์คือ การสรรเสริญของพระองค์ต่อนบี ณ บรรดามลาอิกะฮของพระองค์และความหมายของการเศาะลาตุลมะลาอิกะฮแก่ท่านนบี คือ การดุอาให้แก่ท่านนบี

๙. حميد : مَنْ حصل له مِنْ صفات الحمد أكملها. [ فتح الباري (11/226)

หะมีด : ผู้ที่ได้รับบรรดาคุณลักษณะแห่งการสรรเสริญที่สมบูรณ์

๑๐. مجيد : من كمل في الشرف. [ فتح الباري (11/226)

มะญีด :  ผู้ที่มีความสมบูรณ์ในเกียรติ

>>>>>>>> 

อะสัน หมัดอะดั้ม https://www.facebook.com/asanmadadam

 

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

กว่าจะรู้ตัวว่าผิดก็สายเสียแล้ว







กว่าจะรู้ตัวว่าผิดก็สายเสียแล้ว
อัลลอฮ ตาอาลา ได้ตรัสเกี่ยวกับบุคคล เมื่อความตายมาประสบกับเขาว่า
حَتَّى إِذَا جَاءَ أَحَدَهُمُ الْمَوْتُ قَالَ رَبِّ ارْجِعُونِ
จนกระทั่งเมื่อความตายได้มาหาคนใดในพวกเขา      เขาก็จะกล่าวขึ้นว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กลับไปมีชีวิตอีกครั้งหนึ่งเถิด
لَعَلِّي أَعْمَلُ صَالِحًا فِيمَا تَرَكْتُ كَلاَّ إِنَّهَا كَلِمَةٌ هُوَ قَائِلُهَا وَمِن وَرَائِهِم بَرْزَخٌ إِلَى يَوْمِ يُبْعَثُونَ
เพื่อข้าพระองค์จะได้กระทำความดีในสิ่งที่ข้าพระองค์ปล่อยทิ้งไว้เปล่าเลย ! มันเป็นเพียงถ้อยคำที่เขากล่าวมันไว้เท่านั้น และเบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีโลกบัรซัค จนกระทั่งถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา- อัลมุอมินูน /99-100
อิบนิกะษีรได้อธิบายว่า
يُخْبِر تَعَالَى عَنْ حَال الْمُحْتَضَر عِنْد الْمَوْت مِنْ الْكَافِرِينَ أَوْ الْمُفَرِّطِينَ فِي أَمْر اللَّه تَعَالَى وَقِيلهمْ عِنْد ذَلِكَ وَسُؤَالهمْ الرَّجْعَة إِلَى الدُّنْيَا لِيُصْلِح مَا كَانَ أَفْسَدَهُ فِي مُدَّة حَيَاته وَلِهَذَا قَالَ " رَبّ اِرْجِعُونِ لَعَلِّي أَعْمَل صَالِحًا فِيمَا تَرَكْت
อัลลอฮตะอาได้บอกเกี่ยวกับสภาพของผู้ที่ความตายมาถึง จากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา หรือ บรรดาผู้ที่ฝ่าฝืน คำสั่งของอัลลอฮ ตะอาลา และเกี่ยวกับคำพูดของพวกเขา ในขณะนั้น และเกี่ยวกับการขอกลับไปยังโลกอีกครั้ง เพื่อปรับปรุง สิ่งที่พวกเขาได้ทำให้เสียหาย ในขณะที่มีชีวิตอยู่ และเพราะเหตุนี้ เขากล่าวว่า "ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กลับไปมีชีวิตอีกครั้งหนึ่งเถิด เพื่อข้าพระองค์จะได้กระทำความดีในสิ่งที่ข้าพระองค์ปล่อยทิ้งไว้ - ตัฟสีรอิบนิกะษีร อรรถาธิบายอายะฮที่ 99-100 ซูเราะฮอัลมุอฺมินูน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 
จากอายะฮอัลกุรอ่านและคำอรรถาธิบายข้างต้นสอนให้รู้ว่า    ให้ปฏิบัติสิ่งศาสนาใช้และละทิ้งในสิ่งทีศาสนาห้าม ในตอนที่มีชีวิตอยู่   และไม่ว่าเรื่องอะกีดะฮ หรือเรื่องอิบาดะฮ ก็ให้ศึกษาและตรวจสอบเสียตอนมีชีวิตอยู่  ว่า อะไรผิด อะไรถูก  เพราะถ้าผิดจะได้ปรับปรุงแก้ไข ก่อนความตายจะมาถึง  ไม่ใช่ อ้างว่า  “ตายแล้วจะรู้เอง ว่าใครผิดใครถูก”  แล้วถ้ารู้ว่าผิดตอนที่ความตายมาถึง   มันจะมีความหมายอะไรหรือ  ลองคิดและพิจารณาดูกันเถอะครับ
والله أعلم بالصواب