แปดรอ็กอัต ไม่ใช่ละหมาดตารอเวียะจริงหรือ
Re: จำนวนรอกาอัตในการละหมาดตารอเวี๊ยะ By: al-azhary Date: ก.ย. 17, 2007, 06:42 AM
การละหมาดตะรอวิห์
การละหมาดตะรอวิห์
คำว่าอัตตะรอวิหฺ (التراويح ) หมายถึง การหยุดพัก ในเชิงภาษาอาหรับ คือ เป็นพหูพจน์จากคำว่า อัตตัรวีหะฮ์ (الترويحة ) ท่านอิบนุ มันซูร (إبن منظور ) ให้คำนิยามไว้ว่า "อัตตัรวิหะฮ์ (الترويحة ) ในเดือนรอมะฏอน ซึ่งที่ถูกเรียกแบบดังกล่าว เพราะผู้คน(ที่ละหมาด)จะทำการหยุดพักทุก ๆ สี่ร่อกะอัต , ในการพูดว่า ละหมาดตะรอวิหฺนั้น เพราะว่า พวกเขาจะทำการหยุดพัก(ละหมาด)ระหว่างการให้สะลามทุก ๆ สองครั้ง (คือทุกสี่รอกะอัต) และคำว่า อัตตะรอวิหฺ (التراويح ) เป็นพหูพจน์จากคำว่า อัตตัรวิหะฮ์ (الترويحة ) ซึ่งหมายถึง พักหนึ่งครั้ง..." ดู หนังสือ ลิซาน อัลอาหรับ เล่ม 1 หน้า 615
หากพิจารณาคำนิยามในเชิงภาษา ก็ปรากฏชัดแล้วว่าการละหมาดตะรอวิห์นั้นมีมากกว่า 8 รอกะอัต เพราะการหยุดพักหนึ่งครั้ง(الترويحة )หลังจากละหมาด 4 ร่อกะอัต หากหยุดพัก 2 ครั้ง ( الترويحتان ) หลังจากละหมาดมาแล้ว 8 ร่อกะอัต ดังนั้น การละหมาด 8 ร่อกะอัต จึงไม่เรียกว่าละหมาด (التراويح ) ในเชิงของคำนิยามละหมาดตะรอวิหฺ เนื่องจากคำว่าตะรอวิหฺ(التراويح )นั้น ต้องหยุดพักหลาย ๆ ครั้ง หรือมากกว่าสองครั้งขึ้นไป
......................
@@@
......................
@@@
ข้างต้น เป็นข้อเขียนของ ผู้มีนามว่า al-azhary ในเว็บสะติวเด้น ที่ถูกนำมาเป็นข้ออ้างของหลายๆคนว่า "ละหมาด 8 รอ็กอะฮ ที่ท่านนบีปฏิบัตินั้น ไม่ใช่ละหมาดตารอเวียะ จึงขอนำมาชี้แจงอีกครั้งว่า เท็จจริงอย่างไร เพราะถูกนำมาอ้างอยู่ร่ำไป มิได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่เพื่อให้ความจริงปรากฏ เท่านั้น
เช็คบินบาซ กล่าวว่า
أما التراويح : فهي تطلق عند العلماء على قيام الليل في رمضان أول الليل ، مع مراعاة التخفيف وعدم الإطالة ، ويجوز أن تسمى تهجدا ، وأن تسمى قياما لليل ، ولا مشاحة في ذلك ، والله الموفق "
สำหรับ ละหมาดตะรอเวียะนั้น ในทัศนะนักวิชาการ มันถูกให้หมายถึง การละหมาดกิยามุลลัยลฺ(ละหมาดยามค่ำคืน) ในเดือนเราะมะฎอน ในช่วงแรกของกลางคืน พร้อมกับ ให้ละหมาดสั้นๆ และไม่อ่านยาวๆ และอนุญาตให้เรียกว่า “ตะฮัจญุด” และให้เรียกว่า กิยามุลลัยลฺ” ก็ได้ และไม่ได้มีความแตกต่างในดังกล่าว วัลลอฮุลมุวัฟฟิก
"فتاوى الشيخ ابن باز" (11/ 317
"فتاوى الشيخ ابن باز" (11/ 317
ในหะดิษเรียก เรียกการละหมาดในยามคำคือเดือนเราะมาฏอนว่า “กิยามุเราะมะฏอน” ดังหะดิษ
ท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إِيْمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَلَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
“ผู้ใดยืน(นมาซยามค่ำคืน)ในเดือนรอมะฎอน ด้วยความศรัทธาและแสวงหาผลบุญจากอัลลอฮ์ เขาก็จะถูกอภัยโทษให้ในบาป(เล็ก)ของเขาที่ผ่านมาแล้ว”
(บันทึกโดย ท่านบุคอรีย์, ท่านมุสลิมและท่านอื่นๆ โดยรายงานมาจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ.) ...
คำว่า قَامَ رَمَضَانَ กับคำว่า قِيَامُ رَمَضَانَ มีที่มาจากรากศัพท์เดียวกันและมีความหมายอย่างเดียวกัน .. คือ การยืนนมาซยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอน ...
ส่วน ชื่อคำว่า ละหมาดตะรอเวียะ เป็นการเรียก ในยุคหลัง
และอัลหาฟิซ อิบนุหะญัร กล่าว ถึงหะดิษที่นบีละหมาดกิยามุเราะมะฎอน กับเหล่าเศาะหาบะฮ ว่า
ท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إِيْمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَلَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
“ผู้ใดยืน(นมาซยามค่ำคืน)ในเดือนรอมะฎอน ด้วยความศรัทธาและแสวงหาผลบุญจากอัลลอฮ์ เขาก็จะถูกอภัยโทษให้ในบาป(เล็ก)ของเขาที่ผ่านมาแล้ว”
(บันทึกโดย ท่านบุคอรีย์, ท่านมุสลิมและท่านอื่นๆ โดยรายงานมาจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ.) ...
คำว่า قَامَ رَمَضَانَ กับคำว่า قِيَامُ رَمَضَانَ มีที่มาจากรากศัพท์เดียวกันและมีความหมายอย่างเดียวกัน .. คือ การยืนนมาซยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอน ...
ส่วน ชื่อคำว่า ละหมาดตะรอเวียะ เป็นการเรียก ในยุคหลัง
และอัลหาฟิซ อิบนุหะญัร กล่าว ถึงหะดิษที่นบีละหมาดกิยามุเราะมะฎอน กับเหล่าเศาะหาบะฮ ว่า
، وَلَمْ أَرَ فِي شَيْءٍ مِنْ طُرُقِهِ بَيَانَ عَدَدِ صَلَاتِهِ فِي تِلْكَ اللَّيَالِي ، لَكِنْ رَوَى ابْنُ خُزَيْمَةَ ، وَابْنُ حِبَّانَ مِنْ حَدِيثِ جَابِرٍ ، قَالَ : صَلَّى بِنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي رَمَضَانَ ثَمَانِ رَكَعَاتٍ ، ثُمَّ أَوْتَرَ
และข้าพเจ้า ไม่พบ ในสิ่งใดๆจากบรรดาสายรายงานของมัน อธิบายจำนวนเราะกะอัตของการละหมาดของท่านนบี ในคืนดังกล่าวนั้น แต่ อิบนุคุซัยมะฮ ,อิบนุหิบบาน ได้รายงานจากญาบีร ว่า เขากล่าวว่า “รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ได้ละหมาดกับพวกเราในเดือนเราะมะฏอน 8 รอ็กอะฮ หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาด วิตร فتح الباري : 3 / 12
>>>>>>>>
ท่านอัลหาฟิซอิบนุหะญัร ระบุเองว่า ท่านนบี ศอ็ล ฯ ละหมาดในเดือนเราะมะฏอน กับ เศาะหาบะฮ 8 รอ็กอัต และหลังจากนั้น ก็ละหมาดวิตรฺ ถ้า ละหมาดนั้น ไม่ใช่กิยามุเราะมะฎอน หรือละหมาดตะรอเวียะ แล้วมีละหมาดอะไรอีกหรือ
>>>>>>>>
ท่านอัลหาฟิซอิบนุหะญัร ระบุเองว่า ท่านนบี ศอ็ล ฯ ละหมาดในเดือนเราะมะฏอน กับ เศาะหาบะฮ 8 รอ็กอัต และหลังจากนั้น ก็ละหมาดวิตรฺ ถ้า ละหมาดนั้น ไม่ใช่กิยามุเราะมะฎอน หรือละหมาดตะรอเวียะ แล้วมีละหมาดอะไรอีกหรือ
มุหัมหมัด บิน อับดุลบากีย์ บิน ยูซูฟ อัซซัรกอนีย์ อัลมิศรีย์ อัลอัซฮะรีย์ ได้กล่าวไว้ใน หนังสือของเขา ในเรื่อง ละหมาดในเดือนเราะมะฎอน(كِتَابُ الصَّلَاةِ فِي رَمَضَانَ )ว่า
وَأَمَّا عَدَدُ مَا صَلَّى فَفِي حَدِيثٍ ضَعِيفٍ عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ : " أَنَّهُ صَلَّى عِشْرِينَ رَكْعَةً وَالْوِتْرَ " أَخْرَجَهُ ابْنُ أَبِي شَيْبَةَ .
وَرَوَى ابْنُ حِبَّانَ عَنْ جَابِرٍ : " أَنَّهُ صَلَّى بِهِمْ ثَمَانَ رَكَعَاتٍ ثُمَّ أَوْتَرَ " وَهَذَا أَصَحُّ .
وَقَالَ الْحَافِظُ : لَمْ أَرَ فِي شَيْءٍ مِنْ طُرُقِهِ أَيْ حَدِيثِ عَائِشَةَ بَيَانَ عَدَدِ صَلَاتِهِ فِي تِلْكَ اللَّيَالِي ، لَكِنْ رَوَى ابْنُ خُزَيْمَةَ وَابْنُ حِبَّانَ عَنْ جَابِرٍ : " صَلَّى بِنَا رَسُولُ اللَّهِ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - فِي رَمَضَانَ ثَمَانَ رَكَعَاتٍ ثُمَّ أَوْتَرَ فَلَمَّا كَانَتِ الْقَابِلَةُ اجْتَمَعْنَا فِي الْمَسْجِدِ وَرَجَوْنَا أَنْ يَخْرُجَ إِلَيْنَا حَتَّى أَصْبَحْنَا ثُمَّ دَخَلْنَا فَقُلْنَا : يَا رَسُولَ اللَّهِ " الْحَدِيثَ
และสำหรับจำนวนของสิ่งที่เขา(นบี)ได้ละหมาดนั้น ในหะดิษเฎาะอีฟ จากอิบนุอับบาส ว่า "แท้จริง ท่านนบีได้ละหมาด 20 รอ็กอัต และละหมาดวิตร - บันทึกโดยอิบนุอบีชัยบะฮ
และอิบนุหิบบาน ได้รายงานจากญาบีร ว่า นบีละหมาดกับพวกเขา 8 รอ็กอัต หลังจากนั้นท่านนบีได้ละหมาดวิตร และหะดิษนี้ถูกต้องกว่า
และอัลหาฟิซ(หมายถึงอิบนุหะญัรอัลอัสเกาะลานีย์) กล่าวว่า "และข้าพเจ้า ไม่พบ ในสิ่งใดๆจากบรรดาสายรายงานของมัน อธิบายจำนวนเราะกะอัตของการละหมาดของท่านนบี ในคืนดังกล่าวนั้น แต่ อิบนุคุซัยมะฮ ,อิบนุหิบบาน ได้รายงานจากญาบีร ว่า เขากล่าวว่า “รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ได้ละหมาดกับพวกเราในเดือนเราะมะฏอน 8 รอ็กอะฮ หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาด วิตร ,เมื่อคืนถัดมา พวกเรารวมตัวกันที่มัสยิด และพวกเราหวังว่า ท่านนบีจะออกมาหาเรา จนกระทั้งรุ่งอรุณ หลังจากนั้น เราได้เข้ามา แล้วเรากล่าวว่า "โอ้ท่านรซูลุลลอฮ ...จนจบหะดิษ - ดูชัรหฺอัซซัรกอนีย์ อะลัลมุวัตเฏาะอิหม่ามมาลิก เรื่อง การส่งเสริมให้ละหมาดเดือนเราะมะฎอน (بَابُ التَّرْغِيبِ فِي الصَّلَاةِ فِي رَمَضَانَ )
อิหม่ามอัชเชากานีย์ ได้ระบุ 2 หะดิษต่อไปนี้ไว้ในเรื่อง ละหมาดตะรอเวียะ โดยตั้งชื่อเรื่องว่า
باب صلاة التراويح
แล้วท่านได้ระบุหะดิษต่อไปนี้ไว้ในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า
باب صلاة التراويح
แล้วท่านได้ระบุหะดิษต่อไปนี้ไว้ในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า
، وَأَمَّا الْعَدَدُ الثَّابِتُ عَنْهُ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي صَلَاتِهِ فِي رَمَضَانَ ، فَأَخْرَجَ الْبُخَارِيُّ وَغَيْرُهُ عَنْ عَائِشَةَ أَنَّهَا قَالَتْ { مَا كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً } .
และสำหรับจำนวนรอ็กอะฮ ที่ยืนยันรายงานจาก ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในการละหมาดของท่านในเดือนเราะมะฏอน ,อัลบุคอรีย์และคนอื่นจากเขา ได้รายงานจาก อาอีฉะฮว่า นางกล่าวว่า “ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์
และอีกหะดิษที่อิหม่ามเชากานีย์ ระบุคือ
และอีกหะดิษที่อิหม่ามเชากานีย์ ระบุคือ
وَأَخْرَجَ ابْنُ حِبَّانَ فِي صَحِيحِهِ مِنْ حَدِيثِ جَابِرٍ { أَنَّهُ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ صَلَّى بِهِمْ ثَمَانِ رَكَعَاتٍ ثُمَّ أَوْتَرَ } .
และอิบนุหิบบาน ได้บันทึกในเศาะเฮียะของเขา จากหะดิษญาบีรว่า “แท้จริง “ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ละหมาดกับพวกเขา 8 รอ็กอะฮ หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร - ดู นัยลุลเอาฏอร เล่ม 3 หน้า 66
>>>>>>>>>>>
โต๊ะครูบางคน ที่อ้างว่า 8 รอ็กอะฮ ไม่ใช่ละหมาดตะรอเวียะ แล้วไปถ่ายทอด ชาวบ้านสับสน วัลอิยาซุบิลละฮ
และอิบนุหิบบาน ได้บันทึกในเศาะเฮียะของเขา จากหะดิษญาบีรว่า “แท้จริง “ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ละหมาดกับพวกเขา 8 รอ็กอะฮ หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร - ดู นัยลุลเอาฏอร เล่ม 3 หน้า 66
>>>>>>>>>>>
โต๊ะครูบางคน ที่อ้างว่า 8 รอ็กอะฮ ไม่ใช่ละหมาดตะรอเวียะ แล้วไปถ่ายทอด ชาวบ้านสับสน วัลอิยาซุบิลละฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
อะสัน หมัดอะดั้ม
12/5/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น