


การบิดเบือนว่าท่านอุมัรทำบิดอะฮ ภาค 2
อิจมาอีย์ บินกิยะซีย์
ท่านอิบนุ อัล-อะษีรกล่าวว่า "บิดอะฮ์ มี 2 ประเภท คือบิดอะฮ์ที่อยู่ในทางนำ และบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงดังนั้น สิ่งที่ขัดแย้งกับสิ่งที่อัลเลาะฮ์และร่อซูล(ซ.ล.) ทรงใช้นั้นย่อมอยู่ในกรอบของการตำหนิและปฏิเสธและสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การครอบคลุมสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงใช้และส่งเสริมหรือสิ่งที่ร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) เรียกร้องและส่งเสริมก็ย่อมอยู่ในกรอบแห่งการสรรญเสริญ" จากนั้น ท่านอิบนุ อัล-อะษีรทำการยกตัวอย่างบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ด้วยคำกล่าวของท่านอุมัร เกี่ยวกับละหมาดตะรอวิหฺว่า
نعمت البدعة هذه
"เป็นบิดอะฮ์ที่ดี คือ(ตะรอวิหฺ) อันนี้"
จากนั้นท่านอิบนุ อัล-อะษีร กล่าวว่า " บิดอะฮ์(จากคำกล่าวของท่านอุมัรนี้) แก่นแท้แล้วคือซุนนะฮ์ เพราะท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า
فعليكم بسنتى وسنة الخلفاءالراشدين
"จำเป็นบนพวกท่าน ด้วยซุนนะฮ์ของฉันและซุนนะฮ์ของบรรดาคอลิฟะฮฺผู้ทรงธรรม"
และท่านร่อซุล กล่าวอีกว่า
إقتدوابالذين من بعدى أبى بكر وعمر
نعمت البدعة هذه
"เป็นบิดอะฮ์ที่ดี คือ(ตะรอวิหฺ) อันนี้"
จากนั้นท่านอิบนุ อัล-อะษีร กล่าวว่า " บิดอะฮ์(จากคำกล่าวของท่านอุมัรนี้) แก่นแท้แล้วคือซุนนะฮ์ เพราะท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า
فعليكم بسنتى وسنة الخلفاءالراشدين
"จำเป็นบนพวกท่าน ด้วยซุนนะฮ์ของฉันและซุนนะฮ์ของบรรดาคอลิฟะฮฺผู้ทรงธรรม"
และท่านร่อซุล กล่าวอีกว่า
إقتدوابالذين من بعدى أبى بكر وعمر
" และพวกเจ้าจงดำเนินตามด้วยกับทั้งสองหลังจากฉัน(เสียชีวิตแล้ว) คือ อบูบักรและอุมัร"
@@@@
ชี้แจง
จากหะดิษสองบทข้างต้น ชี้ให้เห็นชัดเจน โดยไม่ต้องอธิบายว่า ผู้อ้าง บิดเบือน เพราะการปฏิบัติตามแบบอย่างของบุคคลที่ท่านนบี ศอ็ลฯ สั่งให้ปฏิบัติตามนั้น ไม่ใช่บิดอะฮในศาสนา
เพราะการปฏิบัติเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน คือการปฏิบัติตามแบบอย่างนบี ศอ็ลฯ
อัศอ็นอานีย์กล่าวว่า
فَإِنَّهُ لَيْسَ الْمُرَادُ بِسُنَّةِ الْخُلَفَاءِ الرَّاشِدِينَ إِلَّا طَرِيقَتَهُمُ الْمُوَافِقَةَ لِطَرِيقَتِهِ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- مِنْ جِهَادِ الْأَعْدَاءِ وَتَقْوِيَةِ شَعَائِرِ الدِّينِ وَنَحْوِهَا ، فَإِنَّ الْحَدِيثَ عَامٌّ لِكُلِّ خَلِيفَةٍ رَاشِدٍ لَا يَخُصُّ الشَّيْخَيْنِ .
แท้จริง ไม่ใช่จุดประสงค์ด้วยคำว่า"สุนนะฮเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน" นอกจาก แนวทางของพวกเขา สอดคล้องกับแนวทางของท่านนบี ศอ็ลฯ จากการต่อสู้บรรดาศัตรู และการสร้างความเข้มแข็งแก่สัญลักษณ์แห่งศาสนา และในทำนองนั้น เพราะแท้จริงหะดิษ นั้น มีความหมายครอบคลุม ทุกๆเคาะลิฟะฮรอชิด ไม่ได้เจาะจงแก่ผู้อวุโสสองท่าน(หมายถึงไม่ได้เจาะจงเฉพาะอบูบักร์และอุมัร) -สุบุลุสสลาม เล่ม 1 หน้า 493 และตุหฟะตุลอะหวะซีย์ 3/50
และอัศศอนอานีย์ กล่าวอีกว่า
ومعلوم من قواعد الشريعة أنه ليس لخليفة راشد أن يُشَرِّع طريقة غير ما كان عليها النبي صلى الله عليه وسلم...".
และเป็นที่รู้กันจากบรรดาหลักการแห่งชะรีอัต คือ ไม่มีสิทธิ์ สำหรับเคาะลิฟะฮรอชิด การที่เขาจะบัญญัติแนวทางของเขาเอง อื่นจากสิ่ง(แนวทาง)ที่ท่านนบี ศอ็ลฯ ได้ดำเนินอยู่บนมัน -
อัลมุบาเราะกะฟูรีย์ (ร.ฮ) กล่าวว่า
فَإِذَا عَرَفْتَ أَنَّهُ لَيْسَ الْمُرَادُ بِسُنَّةِ الْخُلَفَاءِ الرَّاشِدِينَ إِلَّا طَرِيقَتَهُمُ الْمُوَافَقَةَ لِطَرِيقَتِهِ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
เมื่อท่านได้รู้แล้ว ว่าแท้จริง ไม่ใช่จุดประสงค์ด้วยคำว่า สุนนะฮเคาะลิฟะฮรอชิดีน นอกจาก แนวทางของพวกเขา สอดคล้องกับแนวทางของท่านนบี ศอ็ลฯ - ดูตุหหฟะตุลอะฮวะซีย์ เล่ม 3 หน้า 51
..........
เพราะฉะนั้น สุนนะฮเคาลิฟะฮรอชิดีน ในหะดิษ ความหมายที่ต้องการคือ แนวทางของเคาะลิฟะฮรอชิดีน ที่สอดคล้องกับ แนวทางของนบี ศอ็ลฯ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอ้างว่า สุนนะฮเคาะลิฟะฮรอชิดีนคือ บิดอะฮหะสะนะฮ" เป็นการบิดเบือนหะดิษและการอ้างอ้างเท็จแก่เคาะลิฟะฮรอชิดีน ว่าทำบิดอะฮ
..........
เพราะฉะนั้น สุนนะฮเคาลิฟะฮรอชิดีน ในหะดิษ ความหมายที่ต้องการคือ แนวทางของเคาะลิฟะฮรอชิดีน ที่สอดคล้องกับ แนวทางของนบี ศอ็ลฯ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอ้างว่า สุนนะฮเคาะลิฟะฮรอชิดีนคือ บิดอะฮหะสะนะฮ" เป็นการบิดเบือนหะดิษและการอ้างอ้างเท็จแก่เคาะลิฟะฮรอชิดีน ว่าทำบิดอะฮ
.
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
27/6/60
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
27/6/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น