
ตัวอย่างการชี้นำอะกีดะฮสะลัฟ แต่...ไม่เข้าใจแนวทางสะละลัฟ
ปู่ หิน
6 กันยายน เวลา 6:28 น.
!! ..ส่วนหนึ่งจากวิชา ... อุซูลุดดีน.. !!
......................................
ชาวสลัฟที่ยืนยันและมอบหมายการอิสติวาของอัลลอฮเหนืออะรัชนั้น .. เค้าจะยืนยันและมอบหมาย ภายหลังจากการได้ตันซีฮเสียก่อน .. กล่าวคือ ขจัดความคลุมเครือให้หมดไปเสียก่อน .. ด้วยการยึดมั่นว่า มหาบริสุทธิ์แด่องค์อัลลอฮ .. ไม่มีให้กับอัลลอฮนั้นด้วยกับทิศทาง ไม่ได้มีสถานที่รวมถึงกาลเวลา ไม่มีกัยฟิยัตใดๆ หรือ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งสำหรับพระองค์ทั้งสิ้น พร้อมๆยึดมั่นยืนยันว่า อิสตาวานั้น มันคือสิฟัตหนึ่งของพระองค์ และเหมาะสมกับความยิ่งใหญ่แห่งพระองค์
หลังจากนั้น จุดมุ่งหมายแก่นแท้จริงๆแห่งอายัต เค้าก้อจะมอบหมายให้แด่อัลลอฮไปเลย โดยไม่มีการตีความใดๆทั้งสิ้น .. กล่าวคือ
❤️หยุดอยู่แค่นั้น
❤️
นี่แหละคือแนวทางของมัสหับมุเฟาวิเฎาะห์จากชนยุคสลัฟ
รวมไปถึงอิหม่ามทั้งสี่มัสหับของเรา .
6 กันยายน เวลา 6:28 น.
!! ..ส่วนหนึ่งจากวิชา ... อุซูลุดดีน.. !!
......................................
ชาวสลัฟที่ยืนยันและมอบหมายการอิสติวาของอัลลอฮเหนืออะรัชนั้น .. เค้าจะยืนยันและมอบหมาย ภายหลังจากการได้ตันซีฮเสียก่อน .. กล่าวคือ ขจัดความคลุมเครือให้หมดไปเสียก่อน .. ด้วยการยึดมั่นว่า มหาบริสุทธิ์แด่องค์อัลลอฮ .. ไม่มีให้กับอัลลอฮนั้นด้วยกับทิศทาง ไม่ได้มีสถานที่รวมถึงกาลเวลา ไม่มีกัยฟิยัตใดๆ หรือ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งสำหรับพระองค์ทั้งสิ้น พร้อมๆยึดมั่นยืนยันว่า อิสตาวานั้น มันคือสิฟัตหนึ่งของพระองค์ และเหมาะสมกับความยิ่งใหญ่แห่งพระองค์
หลังจากนั้น จุดมุ่งหมายแก่นแท้จริงๆแห่งอายัต เค้าก้อจะมอบหมายให้แด่อัลลอฮไปเลย โดยไม่มีการตีความใดๆทั้งสิ้น .. กล่าวคือ


นี่แหละคือแนวทางของมัสหับมุเฟาวิเฎาะห์จากชนยุคสลัฟ
รวมไปถึงอิหม่ามทั้งสี่มัสหับของเรา .
@@@@@
ขอชี้แจงเกี่ยวกับวาทกรรมนั่งเทียนอ้างสะลัฟข้างต้นดังต่อไปนี้
ก่อนอื่น ขออธิบายความหมายคำว่า التنزيه (อัตตันซีฮ)ดังนี้
คำว่า อัตตันซีฮ หมายถึง การให้ความบริสุทธิ์แก่อัลลอฮจากบรรดาคุณลักษณะที่บกพร่องและการคล้ายคลึงกับบรรดามัคลูคทั้งหลาย
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
ความว่า "ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น" (ซูเราะฮฺ อัชชูรอ : 11)
อัลลอฮฺได้ตรัสว่า :
อัลลอฮฺได้ตรัสว่า :
وَلَمْ يَكُنْ لَهُ كُفُوًا أَحَدٌ
และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์" (ซูเราะฮฺ อัลอิคลาศ
.............
การให้ความบริสุทธิ์ หรือ การปฏิเสธ การเหมือนกับมัคลูค ของคุณลักษณะอัลลอฮตาอาลานั้น ไม่ใช่โดยการปฏิเสธสิฟาต หรือความหมายในเชิงภาษาที่มีมาตามตัวบท อย่างที่อาชาอิเราะฮแนวตรรกนิยมอ้าง ,ไม่ใช่โดยการมอบหมายความหมาย โดยไม่แปลและไม่รู้ความหมายในด้านภาษา และไม่ใช่ การเปลี่ยนความหมายให้กินกับปัญญา หรือที่เรียกว่าการตีความ(ตะวีล)ที่พวกเขาเข้าใจ
การให้ความบริสุทธิ์ หรือ การปฏิเสธ การเหมือนกับมัคลูค ของคุณลักษณะอัลลอฮตาอาลานั้น ไม่ใช่โดยการปฏิเสธสิฟาต หรือความหมายในเชิงภาษาที่มีมาตามตัวบท อย่างที่อาชาอิเราะฮแนวตรรกนิยมอ้าง ,ไม่ใช่โดยการมอบหมายความหมาย โดยไม่แปลและไม่รู้ความหมายในด้านภาษา และไม่ใช่ การเปลี่ยนความหมายให้กินกับปัญญา หรือที่เรียกว่าการตีความ(ตะวีล)ที่พวกเขาเข้าใจ
แต่การตันซีฮ(การให้ความบริสุทธิจากการเหมือนกับมัคลูค) ตามทัศนะสะลัฟคือ
การยืนยันความหมายตามตัวบท โดยไม่เปรียบกับมัคลูคและมอบหมายรูปแบบวิธีการ (الكفية )แก่อัลลอฮ เพราะทรงไม่มีสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้ ดังที่ทรงตรัสไว้ตามที่ระบุข้างต้น
การยืนยันความหมายตามตัวบท โดยไม่เปรียบกับมัคลูคและมอบหมายรูปแบบวิธีการ (الكفية )แก่อัลลอฮ เพราะทรงไม่มีสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้ ดังที่ทรงตรัสไว้ตามที่ระบุข้างต้น
ท่านอิบนุอับดุลบัรริ(ฮ.ศ 368-463) กล่าวว่า
أهل السنة مجمعون على الإقرار بالصفات الواردة كلها في القرآن والسنة والإيمان بها وحملها على الحقيقة لا على المجاز إلا أنهم لا يكيفون شيئا من ذلك ولا يحدون فيه صفة محصورة
อะฮ์ลุสสุนนะฮ์ มีมติเห็นพ้องกัน ในการยอมรับบรรดาคุณลักษณะ(ซิฟาต) ทั้งหมดที่ปรากฏในอัลกุรอ่านและซุนนะฮ์ และศรัทธาต่อมัน และถือมันตามความหมายจริง(ฮะกีกัต) ไม่ใช่ตามความหมายในเชิงอุปมาอุปมัย นอกจากว่า แท้จริงพวกเขา ไม่ได้อธิบายวิธีการว่าเป็นอย่างไรจากซิฟัตดังกล่าวเลย และพวกเขาไม่ได้จำกัดในนั้น เป็นคุณลักษณะหนึ่งลักษณะที่เฉพาะ -อัตตัมฮีด 7/145
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์กล่าวว่า
ليس يلزم من إثبات صفاته شيء من إثبات التشبيه والتجسيم، فإن التشبيه إنما يقال: يدٌ كيدنا ...
ส่วนหนึ่งจากการรับรองบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ นั้น ไม่จำเป็นว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการรับรองการตัชบิฮ(การคล้ายคลึง)และตัจญซีม(การให้รูปร่าง) เสมอไป ความจริงการตัชบิฮ(การเปรียบเทียบสิฟัตอัลลอฮกับมัคลูต)นั้น เช่น มือ เหมือนกับมือของเรา.....- อัลอัรบะอีน ฟี สิฟาติรอ็บบิลอาละมีน เล่ม 1 หน้า 104
อิบนุคุซัยมะฮ อัชชาฟิอีย์(ฮ.ศ) 311)กล่าวว่า
نحن نقول: إن الله سميع بصير كما أعلمنا خالقنا وبارؤنا، ونقول: من له سمع وبصر من بني آدم فهو سميع بصير، ولا نقول أن هذا تشبيه المخلوق بالخالق.
เราขอกล่าวว่า แท้จริง อัลลอฮ คือ ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น ดังที่ ผู้ทรงสร้างเรา และผู้ทรงเนรมิต ได้ทรงบอกให้เรารู้ และเรา กล่าวว่า “ผู้ใดก็ตามที่ มีการได้ยิน มีการเห็น จากลูกหลานอาดัม เขาก็คือ ผู้ที่ได้ยิน ผู้ที่เห็น และเราจะไม่กล่าวว่า แท้จริง นี้คือ การเปรียบเทียบมัคลูค(ผู้ถูกสร้าง)ว่าคล้ายคลึงกับคอลิค(ผู้สร้าง)
กิตาบ อัตเตาฮีด วะอิษบาตรสิฟาติรรอ็บ ของอิบนุคุซัยมะฮ เล่ม 1 หน้า 61
...........
ข้างต้น ชัดเจน ว่า เมื่อเรารับรองสิฟัตอัลลอฮ ตามตัวบท และไม่ได้หมายความว่าเราไปเชื่อว่าอัลลอฮคล้ายคลึงมัคลูค และไม่ใช่
กิตาบ อัตเตาฮีด วะอิษบาตรสิฟาติรรอ็บ ของอิบนุคุซัยมะฮ เล่ม 1 หน้า 61
...........
ข้างต้น ชัดเจน ว่า เมื่อเรารับรองสิฟัตอัลลอฮ ตามตัวบท และไม่ได้หมายความว่าเราไปเชื่อว่าอัลลอฮคล้ายคลึงมัคลูค และไม่ใช่
หมายความว่า เรา เชื่อว่า อัลลอฮมีรูปร่าง(ตัจญสีม)
การยืนยันและพรรณาคุณลักษณะอัลลอฮ ตามตัวบทที่อัลลอฮ ตาอาลา และรอซูลของพระองค์ พรรณาไว้ ไม่ใช่เป็นการ"ตัชบีฮ"หรือการเปรียบเทียบอัลลอฮว่าเหมือนมัคลูคแต่อย่างใด ดังที่ปราชญ์ยุคสะลัฟยืนยันไว้คือ
وَقَالَ نُعَيْمُ بْنُ حَمَّادٍ : مَنْ شَبَّهَ اللَّهَ بِشَيْءٍ مِنْ خَلْقِهِ فَقَدْ كَفَرَ ، وَمَنْ أَنْكَرَ مَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ فَقَدْ كَفَرَ ، وَلَيْسَ فِيمَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ وَلَا رَسُولُهُ تَشْبِيهٌ
และ นุอัยมฺ บิน หัมมาด กล่าวว่า “ ผู้ใดเปลียบเทียบอัลลอฮ ว่าคล้ายคลึงด้วยสิ่งใดๆจากมัคลูคของพระองค์ แน่นอน เขาเป็นกุฟุร และผู้ใด ปฏิเสธ สิ่งที่อัลลอฮทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมัน แน่นอนเขาเป็นกุฟุร และ สิ่งที่อัลลอฮ ทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมันและสิ่งที่รอซูลของพระองค์ (พรรณนาคุณลักษณะแก่พระองค์ด้วยมัน)นั้น ไม่ใช่เป็นการตัชบีฮ(หมายถึงไม่ใช่เป็นเปรียบเทียบว่าอัลลอฮคล้ายคลึงกับมัคลูค) – ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฎาะหาวียะฮ เล่ม หน้า 85 และ ดู ชัรหุอุศูลเอียะติกอด อะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ เล่ม 2 หน้า 532 หะดิษหมายเลข 936
ท่านอิมามอัตติรมิซีย์ รอฮิมาฮุลลอฮฺ หนึ่งในนักปราชญ์ยุคสลัฟได้
وقال إسحق بن إبراهيم إنما يكون التشبيه إذا قال يد كيد أو مثل يد أو سمع كسمع أو مثل سمع فإذا قال سمع كسمع أو مثل سمع فهذا التشبيه وأما إذا قال كما قال الله تعالى يد وسمع وبصر ولا يقول كيف ولا يقول مثل سمع ولا كسمع فهذا لا يكون تشبيها وهو كما قال الله تعالى في كتابه ليس كمثله شيء وهو السميع البصير
ท่านอิสหาก อิบนุอิบรอฮีม บินรอฮาวัยฮฺ ได้กล่าวอธิบายว่า การตัชบีฮฺ(เปรียบกับมัคลูก)นั้นคือการที่เรากล่าวว่า พระหัตถ์ของอัลลอฮฺก็เหมือนกับมือของฉันหรือใกล้เคียงกับมือของฉัน หรือการที่เขากล่าวว่า พระองค์อัลลอฮฺได้ยินเหมือนกับที่ฉันได้ยินหรือคล้ายกับที่ฉันได้ยิน แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าตัชบีฮฺ แต่หากเป็นการกล่าวในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงตรัสไว้แล้ว เช่น พระหัตถ์, ทรงสดับฟัง, ทรงทอดพระเนตร พร้อมกับไม่ถามว่ามันเป็นอย่างไรแบบไหน ตลอดจนไม่กล่าวว่าอัลลอฮฺได้ยินเหมือนกับฉันได้ยิน ดังนั้นแบบนี้ไม่เป็นการตัชบีฮฺต่ออัลลอฮฺตะอาลา พระองค์กล่าวไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ว่า ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนหรือคล้ายคลึงกับพระองค์แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงได้ยินและทรงเห็น”
(หนังสือ สุนันอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้าที่ 50-51
...........
การอิษบาตรคำว่า “มือ(ยัด) ตามที่อัลลอฮบอก ไม่ใช่การเปรียบเทียบ (ตัชบีฮ) เมื่อไม่ใช่การตัชบีฮ แล้วจะเป็นมุญัสสิมได้อย่างไรส่วน ผู้มีนามว่า ปู่หิน มานั่งเทียนอธิบาย หลักการสะลัฟ แบบนั่งเทียนโดยปราศจากหลักฐานมายืนยัน
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/9/60/
(หนังสือ สุนันอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้าที่ 50-51
...........
การอิษบาตรคำว่า “มือ(ยัด) ตามที่อัลลอฮบอก ไม่ใช่การเปรียบเทียบ (ตัชบีฮ) เมื่อไม่ใช่การตัชบีฮ แล้วจะเป็นมุญัสสิมได้อย่างไรส่วน ผู้มีนามว่า ปู่หิน มานั่งเทียนอธิบาย หลักการสะลัฟ แบบนั่งเทียนโดยปราศจากหลักฐานมายืนยัน
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/9/60/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น