วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตัวอย่างของการเผยแพร่ศาสนาด้วยอคติและการประกาศเป็นศัตรูผู้ที่เห็นต่าง



ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป



ตัวอย่างของการเผยแพร่ศาสนาด้วยอคติและการประกาศเป็นศัตรูผู้ที่เห็นต่าง
ราชสีห์ ผู้ภักดีของแผ่นดิน
20 พฤศจิกายน เวลา 11:58 น.
ลัทธิวาฮาบีโกหกใส่สะละฟุศศอลิห์ว่าไม่ทำการตีความ(ตะวีล
@@@
สังคมมุสลิมในประเทศไทย ในปัจจุบัน เกิดวิกฤติ ของความเป็นพี่น้องในอิสลามอย่างหนัก เพราะมีมุสลิมส่วนหนึ่ง ที่สุดโต่ง คลั่งใคล้กับแนวคิดตัวเองถึงขนาดตัดlสินมุสลิมอีกฝ่ายที่เห็นต่าง เป็นคนนอกอิสลาม เป็นลัทธิวะฮบีย์ ในขณะที่องค์กรมุสลิมใหญ่ๆ ไม่มีบทบาทอะไรที่จะเอาองค์ความรู้ที่เป็นแม่บทกฏหมายอิสลามมาแก้ปัญหา อย่างเป็นธรรม กับมุสลิมโดยรวมได้ ทั้งนี้ เพราะองค์กรใหญ่ๆทุกระดับ ไม่ว่า ระดับตำบล อำเภอ
จังหวัดและระดับประเทศ ที่เกิดจากกฏหมายกาเฟรและการเลือกตั้งมาจากระบบการเมือง ก็เลือกข้างเช่นกัน เอนเอียงจนไม่สามารถที่ยืนให้ตรงได้ และเป็นแค่เสือกระดาษ เอาไว้โฮกฮากกับกลุ่มที่เห็นต่างเท่านั้น
การตัดสินว่ามุสลิมที่เห็นต่างกับตนคือ ผู้ถือลัทธิ เท่ากับการตัดสินว่า พวกเขาไม่ใช่ผู้ที่อยู่บนคำสอนอิสลาม แต่อยู่บนลัทธิวะฮบีย์ -นะอูซุบิลลละฮ
คำว่า "ตะวีล"ในทัศนะสะลัฟ คือการอรรถธิบายความหมาย ของสิฟาตในทางภาษา แต่การตะวีล ในทัศนะเคาะลัฟที่ยึดแนวปรัชญาตรรกนิยมยูนานคือ การเปลี่ยนความหมาย ที่ไม่กินกับปัญญาไปเป็นความหมายที่กินกับปัญญา ที่พวกเขาเข้าใจและมโนว่า ความหมายเดิม เป็นการตัชบีฮ(การเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค)
คำว่า ตะวีล"ในทัศนะสัฟ คือ
การอรรถาธิบาย( التفسير ) และ การอธิบาย (البيان ) ดังที่นบี ศอ็ลฯ ได้ดุอาให้แก่ อิบนุอับบาสว่า
اللهم فقهه في الدين ، وعلمه التأويل
โอ้อัลลอฮได้โปรดให้เขาเข้าใจศาสนา และได้โปรดสอนการตะวีลให้เขาด้วยเถิด - เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน หะดิษหมายเลข 7055
คำว่า "التأويل" (อัตตะวีล)ในที่นี้ คือ การอรรถาธิบายอัลกุรอ่าน
ท่านอับดุลลอฮ บิน อับบาส (ร.ฮ)เองยืนยันว่าท่านรู้ความหมายทุกอายะฮที่ถูกประทานลงมา
حَدَّثَنَا عُمَرُ بْنُ حَفْصٍ حَدَّثَنَا أَبِي حَدَّثَنَا الْأَعْمَشُ حَدَّثَنَا مُسْلِمٌ عَنْ مَسْرُوقٍ قَالَ قَالَ عَبْدُ اللَّهِ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ وَاللَّهِ الَّذِي لَا إِلَهَ غَيْرُهُ مَا أُنْزِلَتْ سُورَةٌ مِنْ كِتَابِ اللَّهِ إِلَّا أَنَا أَعْلَمُ أَيْنَ أُنْزِلَتْ وَلَا أُنْزِلَتْ آيَةٌ مِنْ كِتَابِ اللَّهِ إِلَّا أَنَا أَعْلَمُ فِيمَ أُنْزِلَتْ وَلَوْ أَعْلَمُ أَحَدًا أَعْلَمَ مِنِّي بِكِتَابِ اللَّهِ تُبَلِّغُهُ الْإِبِلُ لَرَكِبْتُ إِلَيْهِ

ความหมายตัวบท
รายงานจากมัสรูก กล่าวว่า "อับดุลลอฮ(บินมัสอูด)(ร.ฎ)กล่าวว่า ขอสาบานด้วยนามแห่งอัลลอฮ ผู้ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดอื่นจากพระองค์ ไม่มีซูเราะฮใดถูกประทานลงมาจากคัมภีร์ แห่งอัลลอฮ นอกจากข้าพเจ้า รู้ ว่ามันถูกประทานลงมาที่ใหน และ ไม่มีอายะฮใดถูกประทานลงมา จากคัมภีร์แห่งอัลลอฮ นอกจากข้าพเจ้า รู้ว่า มันถูกประลงมาในเรื่องอะไร และถ้าข้าพเจ้า รู้ว่าคนใด มีความรู้ เกี่ยวกับคัมภีร์ของอัลลอฮ ยิ่งกว่าข้าพเจ้า ,อูฐจะนำไปให้ถึงเขาได้ ข้าพเจ้าก็จะขี่ไปยังเขาผู้นั้น – รายงานโดยบุคอรีย์
روى ابن جرير وغيره عنه رضي الله تعالى عنه أنه قال: كان الرجل منا إذا تعلم عشر آيات لم يجاوزهن حتى يعرف معانيهن والعمل بهن. وعن زر بن حبيش عن ابن مسعود رضي الله تعالى عنه قال: أخذت من في رسول الله صلّى الله عليه وسلّم سبعين سورة لا ينازعني فيها أحد
อิบนุญะรีร และคนอื่นๆจากเขา ได้รายงานจากเขา(อิบนุอับบาส) ร.ฎ ว่าเขากล่าวว่า ว่า "มีชายคนหนึ่งจากพวกเรา เมื่อเขาเรียน สิบอายาต เขาจะไม่ผ่านมันไป จนกว่าเขาจะรู้จักบรรดา ความหมายของมัน และได้ปฏิบัติด้วยมัน และรายงานจาก ซิรริน บินหุบัยชฺ จากอิบนุมัสอูด (ร.ฎ) ว่าเขาได้กล่าวว่า ข้าพเจ้าเอามาจากปากของท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ(หมายถึงได้ยินมาจากปากนบีเอง) 70 ซูเราะฮ ไม่มีคนใดขัดแย้งกับข้าพเจ้าในมันเลย-
رواه أحمد (1/ 389) وأبو نعيم في الحلية (1/ 125).
ดู อัลวาฎีหฺ ฟีอุลูมิลกุรอ่าน หน้า 224
......
การอ้างว่าสะลัฟตีความ (ตะวีล)อายาตสิฟาต ด้วยการเปลี่ยนความหมายของมันที่ปรากฏตามตัว ไปเป็นความหมายอื่นตามความคิดเห็นหรือ มอบหมายความหมายไปยังอัลลอฮ โดยไม่รู้และไม่ยุ่งกับความหมายของมันนั้น เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
อิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ)กล่าวว่า
وأما التأويل بمعنى صرف اللفظ عن مفهومه الى غير مفهومه فهذا لم يكن هو المراد بلفظ التأويل في كلام السلف
สำหรับการตะวี้ล(ตีความ) ด้วยความหมาย ของการเปลี่ยนแปลงคำพูดจาก สิ่งที่ถูกเข้าใจของมัน ไปสู่ความหมายอื่นจากที่ถูกเข้าใจของมัน ความหมายนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องการ(ไม่ใช่จุดประสงค์) ด้วยคำของการตะวี้ล ในคำพูดสะลัฟ –
และอิบนุตัยมียะฮกล่าวต่อไปว่า
، وكان السلف ينكرون التأويلات التي تخرج الكلام عن مراد الله ورسوله التي هي من نوع تحريف الكلم عن مواضعه, فكانوا ينكرون التأويل الباطل الذي هو التفسير الباطل) .
สำหรับการตะวีลที่เป็นโมฆะ ที่พวกอุตริบิดอะฮ กล่าวด้วยมันคือ การเปลี่ยนถ้อยคำ จากความหมายที่ถูกเข้าใจของมัน ไปสู่อื่นจากความหมายที่ถูกเข้าใจของมัน และความหมายนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ (ไม่ใช่จุดประสงค์) ด้วยคำตะวีล ในคำพูดสะลัฟ และปรากฏว่าสะลัฟ พวกเขา ปฏิเสธการตีความ (ตะวี้ล) ที่ทำให้คำพูดออกนอกสิ่งที่ต้องการ(จุดประสงค์)ของอัลลอฮและรอซูล ของพระองค์ ซึ่งมันคือสาวนหนึ่งจากชนิดของการบิดเบือนเปลียนแปลงบรรดาคำพูดออกจากบรรดาที่ของมัน เพราะพวกเขาปฏิเสธ การตีความที่เป็นโมฆะ(ที่เป็นเท็จ) ซึ่งมันคือ การตัฟสีรที่เป็นโมฆะ –อัศเศาะฟะดียะฮ 1/291
...........
การที่มีการกล่าวถึง ว่าสะลัฟไม่ตีความ(ตะวีล) หมายถึงการตีความแบบมุตะซิละฮและญะฮมียะฮ คือ เปลี่ยนความหมายของคำพูดที่ถูกเข้าใจ ไปเป็นความหมายอื่น ที่ไม่ถูกเข้าใจ เพื่อให้กินกับปัญญา มโนว่ากล่วคนจะเข้าใจว่าอัลลอฮเหมือนมัคลูค
อิบนุกอ็ยยิมกล่าวว่า (ร.ฮ)
وأما المعتزلة والجهمية وغيرهم من فرق المتكلمين فمرادهم بالتأويل صرف اللفظ عن ظاهره وحقيقته إلى مجازه وما يخالف ظاهره وهذا هو الشائع في عرف المتأخرين من أهل الأصول والفقه
และสำหรับ มุอตะซิละฮ , ญะฮมียะฮ และอื่นจากพวกเขา จากพวกวิภาษวิทยา(อะฮลุลกาลาม) ความประสงค์ด้วยการตะวีลของพวกเขา คือ เปลี่ยน คำพูดจากความหมายที่ปรากฏของมัน(ตามตัวบท)และ(เปลี่ยน)ความหมายจริง ไปสู่ความหมายในเชิงอุปมา(มะญัซ)ของมัน และ(เปลี่ยน)สิ่งที่ขัดแย้งกับความหมายที่ปรากฏตามตัวบทของมัน และนี้คือ สิ่งที่แพร่หลายใน นิยามของ บรรดาปราชญ์ยุคหลัง จากอะฮลุลอุศูลและฟิกฮ ..อัศเศาะวาอิกอัลมุรสะละฮ 1/178
.............
ไม่ทราบว่าคนที่กล่าวหาเป็นมุสลิมประเภทใหน นั่งเทียนไม่ศึกษาตำราวิชาการ แต่กลับกล่าวหามุสลิมที่เห็นต่างกับตนว่าพวกนับถือลัทธิ และ นั่งเทียนว่าวะฮบีย์บอกว่าสะลัฟไม่ตีความ โดยไม่นำรายละเอียดมาชี้แจงว่า คำว่าตีความ นั้นคือการตีความ(ตะวี้ล)ลักษณะใด
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
24/11/60





 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ





 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น