
ทำไมตายแล้วต้องเฝ้ากุโบร์
มีประเพณีหนึ่งที่ครอบครัวผู้ตายต้องใช้จ่ายเงินเป็นหลักหมื่น หรือมากกว่านั้น คือ การว่าจ้างให้ละแบเฝ้ากุโบร์ เพื่ออ่านอัลกุรอ่านอุทิศบุญให้คนตาย และทำบุญครบรอบ 7 วัน เรียกว่า "ทำบุญออกกุโบร์"
แปลก...ถ้าอ้างว่าอ่านอัลกุรอ่านผลบุญถึงผู้ตาย ทำไมต้องเฝ้ากุโบร์ ทำไมไม่อ่านที่บ้าน แล้วเนียตอุทิศบุญให้ มันมีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงอยู่หรือ
แปลก...ถ้าอ้างว่าอ่านอัลกุรอ่านผลบุญถึงผู้ตาย ทำไมต้องเฝ้ากุโบร์ ทำไมไม่อ่านที่บ้าน แล้วเนียตอุทิศบุญให้ มันมีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงอยู่หรือ
เท่าที่เห็นชัด ผู้ได้กับผู้เสียมีดังนี้
1. เจ้าภาพต้องส่งเสบียงให้ละแบ 7 วัน คนได้รับประโยชน์ กินฟรี นอนฟรี คือโต๊ะละแบบ ส่วนครอบครัวผู้ตายก็ต้องเสียตังค์
2. พอถึงวันที่เจ็ด เรียกว่า"วันออกกุโบร์" เจ้าภาพก็เลี้ยงใหญ่ คนที่ได้ประโยชน์คือ โต๊ะละแบ ส่วนครอบครัวผู้ตายก็ต้องเสียตังค์
3. ค่าจ้างเฝ้ากุโบร์ 7 วัน 7 คืน ค่าจ้างไม่ต่ำกว่า หมื่นบาท คนที่ได้ประโยชน์ เงินก็ได้ใส้ก็ตึง คือ โต๊ะละแบบ ส่วนคนที่เสียตังค์คือ ครอบครัวผู้ตาย
2. พอถึงวันที่เจ็ด เรียกว่า"วันออกกุโบร์" เจ้าภาพก็เลี้ยงใหญ่ คนที่ได้ประโยชน์คือ โต๊ะละแบ ส่วนครอบครัวผู้ตายก็ต้องเสียตังค์
3. ค่าจ้างเฝ้ากุโบร์ 7 วัน 7 คืน ค่าจ้างไม่ต่ำกว่า หมื่นบาท คนที่ได้ประโยชน์ เงินก็ได้ใส้ก็ตึง คือ โต๊ะละแบบ ส่วนคนที่เสียตังค์คือ ครอบครัวผู้ตาย
สรุปเป็นประเพณีที่แฝงไปด้วยผลประโยชน์ ที่ใครต่อต้าน ก็จะถูกตราหน้า ว่า "พวกวะฮบีย" แล้วยุยงสร้างภาพความน่ากลัวให้คนอาวามเห็น เพื่อปกป้อง ประเพณีเฝ้ากูโบร์
ถ้ากิจกรรมนี้ แอบแฝงด้วยผลประโยชน์ และสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ครอบครัวผู้ตาย โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำ ไม่ได้มีบทบัญญัติมาจากศาสนบัญญัติ จากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ แล้วใครรับรองว่าจะได้บุญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการว่าจ้างอ่านอัลกุรอ่านเพื่ออุทิศบุญให้คนตาย
ท่านนบี ศ็อลฯกล่าวว่า
اقرءوا القران واعملوا به ولا تجفوا عنه ولا تغلوا فيه ولا تأكلوا به ولا تستكثروا به
พวกท่านจงอ่านอัลกุรอ่าน ,จงปฏิบัติด้วยมัน ,อย่าหลีกเลี่ยงจากมัน (อย่าละทิ้งมันโดยไม่อ่าน) ,อย่าเลยเถิดในมัน ,อย่าหากินกับมัน และอย่าแสวงหาทรัพย์สินอันมากมายด้วยมัน -
رواه أحمد والطبراني وغيرهما وقال الهيثمي : " رجاله ثقات" وقال الحافظ في الفتح : "وسنده قوي"، وصححه الألباني في " صحيح الجامع " برقم (1168) وفي الصحيحة (260)،(3057)
พวกท่านจงอ่านอัลกุรอ่าน ,จงปฏิบัติด้วยมัน ,อย่าหลีกเลี่ยงจากมัน (อย่าละทิ้งมันโดยไม่อ่าน) ,อย่าเลยเถิดในมัน ,อย่าหากินกับมัน และอย่าแสวงหาทรัพย์สินอันมากมายด้วยมัน -
رواه أحمد والطبراني وغيرهما وقال الهيثمي : " رجاله ثقات" وقال الحافظ في الفتح : "وسنده قوي"، وصححه الألباني في " صحيح الجامع " برقم (1168) وفي الصحيحة (260)،(3057)
ชัยค์ บักร บิน อับดุลลอฮ อบูเซด กล่าวว่า
استئجار شخص أو أكثر لقراءة القرآن، وإهداء ثوابها لميت أو حي، وهذا عمل مبتدع، وقد فات ثواب القراءة على القارئ لما فيه من إرادة الإنسان بعمله الدنيا، وفات على المستأجر؛ لأنه عمل مبتدع، وقد قال - صلى الله عليه وسلم -:"من أحدث في أمرنا هذا ما ليس منه فهو رد
การว่าจ้างบุคคลคนหนึ่ง หรือมากกว่านั้น เพื่อให้อ่านอัลกุรอ่านและอุทิศผลบุญของมัน ให้แก่ผู้ตายหรือผู้ที่มีชีวิตอยู่ และนี้คือ การกระทำของผู้อุตริบิดอะฮ และแน่นอน ผลบุญของการอ่าน จะไม่ได้แก่ผู้อ่าน เพราะเป็นสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งจากความประสงค์ของมนุษย์ ด้วยการกระทำของเขา เพื่อดุนยา และ จะไม่ได้แก่ผู้ที่รับจ้าง เพราะแท้จริงมันคือการกระทำของผู้ที่อุตริบิดอะฮ และแท้จริง นบี ศอ็ลฯ กล่าวว่า " ผู้ใดประดิษฐสิ่งใหม่ ในกิจการศาสนาของเรานี้ สิ่งซึ่งไม่ได้มาจากมัน มันคือ สิ่งที่ถูกปฏิเสธ - ตัศเฮียะอัดดุอาอฺ หน้า 298
................
ขอให้พี่น้องลองพิจารณาดู ว่า กิจกรรมที่อ้างศาสนา โดยไม่มีหลักฐานจากอัสสุนนะฮ ซ้ำยังต้องเสียเงินเสียทองมากมาย สร้างภาระให้ครอบครัวผู้ตายโดยเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ศาสนาสอน แล้วจะเอาผลบุญจากใคร ในเมื่ออัลลอฮและท่านรซูลุลลอฮ ศ็อลฯไม่ได้สอนไว้ เพราะถ้าเป็นกิจกรรมที่ดีในเรื่องศาสนา ท่านนบี ศ็อลฯก็จะสอนให้อุมมะฮของท่านรู้ ดังหะดิษที่ท่านนบี ศ็อลฯกล่าวว่า
ขอให้พี่น้องลองพิจารณาดู ว่า กิจกรรมที่อ้างศาสนา โดยไม่มีหลักฐานจากอัสสุนนะฮ ซ้ำยังต้องเสียเงินเสียทองมากมาย สร้างภาระให้ครอบครัวผู้ตายโดยเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ศาสนาสอน แล้วจะเอาผลบุญจากใคร ในเมื่ออัลลอฮและท่านรซูลุลลอฮ ศ็อลฯไม่ได้สอนไว้ เพราะถ้าเป็นกิจกรรมที่ดีในเรื่องศาสนา ท่านนบี ศ็อลฯก็จะสอนให้อุมมะฮของท่านรู้ ดังหะดิษที่ท่านนบี ศ็อลฯกล่าวว่า
نَّهُ لَمْ يَكُنْ نَبِيٌّ قَبْلِي إِلَّا كَانَ حَقًّا عَلَيْهِ أَنْ يَدُلَّ أُمَّتَهُ عَلَى خَيْرِ مَا يَعْلَمُهُ لَهُمْ ، وَيُنْذِرَهُمْ شَرَّ مَا يَعْلَمُهُ لَهُمْ
“แท้จริงไม่มีศาสดาคนใดก่อนหน้าฉัน เว้นแต่จะมีหน้าที่บอกสิ่งที่ดีที่ท่านรู้ต่อประชาชาติของท่าน และเตือนพวกเขาจากสิ่งไม่ดีที่ท่านรู้”-รายงานโดยมุสลิม กิตาบอัลอิมาเราะฮ
.....
ขอให้พี่น้องผู้ศรัทธาโปรดพิจารณา กันนะครับ อย่าให้อยู่ในคำว่า "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนโง่เป็นเหยื่อคนฉลาด"
ขอให้พี่น้องผู้ศรัทธาโปรดพิจารณา กันนะครับ อย่าให้อยู่ในคำว่า "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนโง่เป็นเหยื่อคนฉลาด"
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
5/5/61
อะสัน หมัดอะดั้ม
5/5/61
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น