อัลอิจญติฮาดคืออะไร
คำว่า “อัลอิจญติฮาด” (الإجتهاد) มีรากศัพท์มาจากคำว่า جهد แปลว่า พยายาม อุตสาหะ เพียรพยามยาม บากบั่น อัลอิจญติฮาด แปลว่า “ ความพยายาม ความอุตสาหะ ความบากบั่น ส่วนความหมายในทางศาสนา หมายถึง การที่นักกฎหมายอิสลาม ได้ทุ่มเทความพยายามจนเต็มความสามารถ ในการวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ที่ยาก ที่ขัดแย้งกัน ซึ่งไม่พบหลักฐานจากอัลกุรอ่าน หรือ อัลหะดิษ ผู้ที่ทำการอิจญติฮาด เรียกว่า “มุจญตะฮิด”
การอิจญติฮาดนั้น เป็นเรื่อง ของสังคม(المعاملات ) หรือ การพิพากษาคดี(القضاء) เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่อง หลักศรัทธา(العقيدة )และไม่เกี่ยวกับเรื่อง การประกอบศาสนกิจ(العبادات ) เพราะหลักการทั้งสองนี้ได้ถูกวางไว้อย่างสมบูรณ์แล้วในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ
มุหัมหมัด เราะชีดริฎอ(ร.ฮ)กล่าวว่า
وَمَا شُرِعَ مِنَ اجْتِهَادِ الرَّأْيِ فِي حَدِيثِ مُعَاذٍ وَغَيْرِهِ فَهُوَ خَاصٌّ بِالْقَضَاءِ لِأَنَّهُ نَصٌّ فِيهِ وَيَتَوَقَّفُ عَلَيْهِ وَمِثْلُهُ سَائِرُ الْأَحْكَامِ الدُّنْيَوِيَّةِ ، مِنْ سِيَاسِيَّةٍ وَإِدَارِيَّةٍ ، لَا فِي أُصُولِ دِينِ اللَّهِ وَعِبَادَتِهِ وَمَا حُرِّمَ عَلَى عِبَادِهِ تَحْرِيمًا دِينِيًّا ، فَإِنَّ اللَّهَ أَكْمَلَ دِينَهُ فَلَمْ يَتْرُكْ فِيهِ نَقْصًا يُكْمِلُهُ غَيْرُهُ بِظَنِّهِ وَرَأْيِهِ بَعْدَ وَفَاةِ رَسُولِهِ ، وَلَيْسَ لِحَاكِمٍ وَلَا مُفْتٍ أَنْ يُسْنِدَ رَأْيَهُ الِاجْتِهَادِيَّ إِلَى اللَّهِ تَعَالَى فَيَقُولُ : هَذَا حُكْمُ اللَّهِ وَهَذَا دِينُهُ ، بَلْ يَقُولُ : هَذَا مَبْلَغُ اجْتِهَادِي فَإِنْ كَانَ صَوَابًا فَمِنْ تَوْفِيقِ اللَّهِ تَعَالَى وَإِلْهَامِهِ وَإِنْ كَانَ خَطَأً فَمِنِّي وَمِنَ الشَّيْطَانِ ، كَمَا رُوِيَ عَنْ بَعْضِ أَئِمَّةِ سَلَفِنَا الصَّالِحِينَ .
และสิ่งที่ถูกบัญญัติขึ้นมาจากการอิจญติฮาด โดยความเห็น ในหะดิษมุอาซ และอื่นจากเขานั้น มันก็เฉพาะสำหรับการตัดสินคดีเท่านั้น เพราะแท้จริงมันคือ ตัวบท เกี่ยวกับมัน .หยุดอยู่บนมัน และบรรดาหุกุมที่ที่เกียวกับทางดุนยาเหมือนกับมัน เช่น เรื่องการเมือง และการบริหารจัดการ ไม่ไ้ด้อยู่ในเรื่อง รากฐานศาสนา(อะกีดะฮ)และเรื่องอิบาดะฮของศาสนา และไม่ใช่สิ่งที่ต้องห้ามแก่บ่าวของพระองค์ ที่เป็นการห้ามในทางศาสนา เพราะแท้จริง อัลลอฮได้ทรงให้ศาสนาของพระองค์สมบูรณ์แล้ว ดังนั้น พระองค์จะไม่ทรงทิ้งความบกพร่องให้ผู้อื่นจากพระองค์ มาทำให้มันสมบูรณ์ ด้วยการคาดเดาและด้วยความเห็นของเขา หลังจากที่รอซูลของพระองค์ได้เสียชีวิต...ตัฟสีรอัลมะนาร ๘/๓๕๕ อะิบายซูเราะฮอัลอะรอฟ อายะฮที่ อายะฮที่ ๓๓
ท่าน อะหมัด มุสเฏาะฟา อัลมะรอฆีย์ ได้กล่าวไว้ในตัฟสีรของท่านว่า
وما شرع من اجتهاد الرأى فى حديث معاذ وغيره فهو خاص بالقضاء لا بأصول الدين وعباداته، فقد أكمل الله دينه فلم يترك فيه نقصا يكمله غيره بظنه ورأيه بعد وفاة رسوله، وليس لقاض ولا مفت أن يسند رأيه الاجتهادى إلى الله فيقول هذا حكم الله وهذا دينه، بل يقول هذا مبلغ اجتهادي، فإن كان صوابا فمن توفيق الله وإلهامه، وإن كان خطأ فمنى ومن الشيطان
และสิ่งที่ถูกบัญญัติขึ้นมาจากการอิจญติฮาด โดยความเห็น ในหะดิษมุอาซ และอื่นจากเขานั้น มันก็เฉพาะสำหรับการตัดสินคดีเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับ รากฐานศาสนา(อะกีดะฮ)และ ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนากิจ(อิบาดาต) เพราะแท้จริงอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทำให้ศาสนาของพระองค์สมบูรณ์แล้ว พระองค์ไม่ได้ทรงทิ้งความบกพร่องใดๆในนั้น แล้วให้ผู้อื่น อื่นจากพระองค์ มาทำให้มันสมบูรณ์ด้วยการคาดเดาและความคิดเห็นของเขา หลังจากที่ศาสนทูตของพระองค์ได้เสียชีวิต และไม่อนุญาตให้ผู้พิพากษาและมุฟตีคนใด นำความเห็นของเขาที่ได้จากการอิจญติฮาด นำไปอ้างอิงกับอัลลอฮ โดยกล่าวว่า นี่คือ หุกุมอัลลอฮ นี่คือศาสนาของพระองค์ แต่ให้เขากล่าวว่า “นี่ เป็นเพียงการอิจญติฮาดของฉัน แล้วหากมันถูกต้อง มันก็มาจากการเตาฟิก(การช่วยเหลือ)ของอัลลอฮและการดลใจของพระองค์ และถ้าหากมันผิดพลาด มันก็มาจากตัวฉันเอง และมาจากชัยฏอน” – ดู ตัฟสีรอัลมะรอฆีย์ เล่ม 8 หน้า 140 อธิบายอายะฮที่ 32 ซูเราะฮอัลอะรอฟ
............
............
สรุป
ท่านมุหัมหมัด รอชีดริฎอ และ อะหมัด มุสฏอฟาอัลมะรอซีย์ ได้อธิบายสรุปดังนี้
1. การอิจญติฮาดด้วยความคิดเห็นนั้น มันเป็นกรณีเฉพาะ สำหรับเรื่องการตัดสินคดีความ ,เรื่องที่เกี่ยวกับบรรดาหุกุมทางดุนยา ไม่เกี่ยวกับเรื่อง อุศูลุลลดีน (อะกีดะฮ)และเรื่องอิบาดะฮ
2. ในเรื่องเกี่ยวกับอะกีดะฮและเรื่องอิบาดะฮนั้น อัลลอฮทำให้ศาสนาสมบูรณ์แล้ว
3. หลังจากที่ท่านนบี ศ็อลฯได้เสียชีวิต อัลลอฮตาอาลาไม่ทรงทิ้งความบกพร่องของศาสนาเอาไว้ แล้วให้ผู้อื่นมาทำให้สมบูรณ์ด้วยการคาดเดาและการใช้ความคิดเห็น
1. การอิจญติฮาดด้วยความคิดเห็นนั้น มันเป็นกรณีเฉพาะ สำหรับเรื่องการตัดสินคดีความ ,เรื่องที่เกี่ยวกับบรรดาหุกุมทางดุนยา ไม่เกี่ยวกับเรื่อง อุศูลุลลดีน (อะกีดะฮ)และเรื่องอิบาดะฮ
2. ในเรื่องเกี่ยวกับอะกีดะฮและเรื่องอิบาดะฮนั้น อัลลอฮทำให้ศาสนาสมบูรณ์แล้ว
3. หลังจากที่ท่านนบี ศ็อลฯได้เสียชีวิต อัลลอฮตาอาลาไม่ทรงทิ้งความบกพร่องของศาสนาเอาไว้ แล้วให้ผู้อื่นมาทำให้สมบูรณ์ด้วยการคาดเดาและการใช้ความคิดเห็น
เพราะฉะนั้น การอ้างนั้น อ้างนี่ ที่เกียวกับเรื่องอิบาดะฮ ว่าให้เปิดกว้างยอมรับทัศนะที่เห็นต่าง ยอมผ่อนปรน เพื่อเอาใจคนที่เห็นต่างนั้น ก็เป็นการเปิดช่องให้นำความคิดเห็นมาเป็นบทบัญญัติศาสนา
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
15/9/61
15/9/61
เอกสารอ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น