ใหนหรืออิจญมาอฺวาญิบต้องปิดหน้า (ตอนที่ 2)

ใหนหรืออิจญมาอฺวาญิบต้องปิดหน้า (ตอนที่ 2)

อิหม่ามอัลบะเฆาะวีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า

وأما المرأة مع الرجل فإن كانت أجنبية حرة فجمع بدنها عورة في حق الرجل لا يجوز له أن ينظر إلى شيء منها إلا الوجه واليدين إلى الكوعين لقوله عزوجل (ولايبدين زينتهن إلا ما ظهر منها) قيل في التفسير هو الوجه والكفان وعليه غض البصر عن النظر إلى وجهها ويديها أيضاً عند خوف الفتنة".

และสำหรับ ผู้หญิง (ทีอยู่)พร้อมกับผู้ชายนั้น ถ้าหากนางเป็นหญิงแปลกหน้าที่เป็นอิสระชน ดังนั้น ทั้งหมดของร่างกายนางคือ เอาเราะฮ ในสิทธิของชาย ไม่อนุญาตให้เขามองสิ่งใดๆจาก(ตัวของ)นาง ยกเว้นใบหน้าและสองมือจนถึงสองข้อมือเพราะคำตรัสของพระองค์ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่งที่ว่า (และพวกนางอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง ยกเว้นสิ่งที่เปิดเผยได้) ถูกกล่าวในตัฟสีร ว่า มันคือใบหน้าและสองฝ่ามือ และหน้าที่เหนือเขา(ผู้ชาย) จะต้องลดสายตา จากการมองใบหน้าและสองมือของนางเช่นกัน เมื่อเกรงว่าจะเกิดฟิตนะฮ.... ชัรหอัสสุนนะฮ 9/23
.......
สรุป
1.เอาเราะฮของผู้หญิงอิสระชนเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชาย คือ ทั้งหมดของร่างกายยกเว้น ยกเว้นใบหน้าและสองมือจนถึงสองข้อมือ
2.ห้ามผู้ชายไม่ให้มอง ใบหน้าและฝ่ามือนาง หากเกรงว่าจะเกิดฟิตนะฮ
..........

หมายเหตุ : 
คำว่า ฟิตนะฮในที่นี้ คือเกรงว่าจะนำไปสู่การร่วมเพศ หรือการกอดจูบ เป็นต้น คนนะครับ ไม่ใช่สุนัข ที่เจอกันกลางถนน แล้วเกิดอารมณ์ชักชวนกันไปร่วมเพศ มันไม่ใช่เหตุปกติของมนุษย์ที่จะทำเช่นนี้ จะมีก็เป็นแค่พวกจิตวิปริตเท่านั้น

ท่านนบี ศ็อลฯ กล่าวว่า

«إِنَّ الْمَرْأَةَ تُقْبِلُ فِي صُورَةِ شَيْطَانٍ وَتُدْبِرُ فِي صُورَةِ شَيْطَانٍ، فَإِذَا أَبْصَرَ أَحَدُكُمْ امْرَأَةً فَلْيَأْتِ أَهْلَهُ، فَإِنَّ ذَلِكَ يَرُدُّ مَا فِي نَفْسِهِ»

แท้จริงผู้หญิงมาหาในรูปของชัยฏอน และหันหลังกลับไปในรูปของชัยฏอน ดังนั้นเมื่อคนใดในหมู่พวกท่านเห็นผู้หญิงคนใด ก็จงไปร่วมหลับนอนกับภรรยาของเขา เพราะแท้จริงดังกล่าวนั้น จะทำขจัดสิ่ง(ความรู้สึกทางเพศ)ที่อยู่ในตัวเขาให้หมดไป -รายงานโดยมุสลิม หมายเลข 1403
.......

คำว่า "ผู้หญิง มาในรูปชัยฏอน หมายถึง นางคือสิ่งที่ผู้ชายมองแล้วทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ถ้าผู้หญิงปิดหน้าเหลื่อแต่ช่องรูตาเดียว มันจะดึงดูดอารมณ์เพศตรงใหน นี่แสดงว่า หมายถึงเห็นผู้หญิงที่ไม่ปิดหน้า ถ้ามีบัญญัติให้ปิดหน้า ท่านนบี ศ็อลฯ คงไม่เตือนเรื่องนี้ และขอถามท่านมุฟตีไทยแลนดฺบางกลุ่มที่หุกุมฟันธงยืนกระต่ายขาเดียว ว่าวาญิบต้องปิดหน้าและเปิดใบหน้าบาป เป็นการฝ่าฝืนอิจญมาอฺว่า ไหนครับอัลอิจญมาอ ว่าญิบต้องปิดหน้า?

อนึ่ง ที่ท่านนบี ศ็อลฯแนะนำว่า เมื่อเห็นหญิงใดๆ แล้วเกิดอารมณ์(เพราะในรายงานหนึ่งระบุว่า เมือผู้หญิงนั้นทำให้เขาประทับใจ) ก็ให้ไปหลับนอนกับภรรยา และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่นบีศ็อลฯส่งเสริมให้แต่งงาน ว่าเป็นส่ิ่งที่จะช่วยลดสายตาไม่ให้มองหญิงแปลกหน้า แปลกไหม...ถ้าให้ลดสายตาจากการมองหญิงปิดหน้าเหลือแต่ลูกกระตา? ตามที่คนบางกลุ่มอ้างว่าวาญิบปิดหน้า

อะสัน หมัดอะดั้ม
6/12/61

เอกสารอ้างอิง

ใบหน้าและฝ่ามือไม่ใช่เอาเราะฮ (ภาคพิเศษ 5)

ใบหน้าและฝ่ามือไม่ใช่เอาเราะฮ (ภาคพิเศษ 5)

ต่อให้พูดกันจนถึงวันกิยามะฮ ใบหน้าและฝ่ามือ ก็ไม่ใช่เอาเราะฮ และอนุญาตให้เปิดได้สำหรับสตรี ส่วนการเจตนามองจากฝ่ายผู้ช่ายด้วยเสน่หาและมีอารมณ์ใคร่ เป็นสิ่งต้องห้าม มันมีคำสอนไว้แล้ว ถ้าผู้หญิงวาญิบปิดหน้า เหลือแต่รูตาเดียวอย่างที่อ้างกัน คงไม่มีบทบัญญัติห้ามดู เพราะคนที่กลุมมิดชิดทั้งตัวนั้น คนดูก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร สวยแค่ใหนแล้วจะเกิดอารมณ์ใคร่ได้อย่างไร

عَنْ عَبْدِ اللهِ بن مَسْعُودٍ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : «يَا مَعْشَرَ الشَّبَابِ، مَنِ اسْتَطَاعَ مِنْكُمْ الْبَاءَةَ فَلْيَتَزَوَّجْ؛ فَإِنَّهُ أَغَضُّ لِلْبَصَرِ وَأَحْصَنُ لِلْفَرْجِ، وَمَنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَعَلَيْهِ بِالصَّوْمِ؛ فَإِنَّهُ لَهُ وِجَاءٌ»

จากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าจากท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า
“บรรดาผู้เป็นหนุ่มทั้งหลาย ผู้ใดในหมู่พวกท่านที่มีความสามารถจะครองคู่ได้ ก็จงแต่งงานเสีย เพราะแท้จริงแล้วมัน(การแต่งงานนั้น)ทำให้ลดสายตา(จากการมองสิ่งต้องห้าม)ได้ดีกว่า และให้การปกป้องอวัยวะเพศ(จากการประพฤติผิด)ได้ดีกว่า
และหากผู้ใดไม่มีความสามารถ ก็ให้เขาถือศีลอด เพราะมัน(การถือศีลอดนั้น)จะเป็นตัวทำหมัน(หมายถึงป้องกันจากอารมณ์ใคร่และประพฤติผิดในกามารมณ์)” (รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ และมุสลิม)
.........
หากผู้หญิงมุสลิม มีข้อบังคับให้ปิดหน้า แล้วทำไมจึงมีคำสั่งให้ผู้ชายลดสายตา หรือห้ามมอง เพราะเหตุผลในการห้ามมองคือเกรงจะเกิดฟิตนะฮ เมื่อผู้หญิงคลุมทั้งตัวเหลื่อแต่ช่องตาเดียว ดูแล้วเกิดอารมณ์ด้วยหรือ ? ลองใช้สมองคิดดู

อิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฮ) กล่าวว่า

وَأَمَّا الْمَرْأَةُ فَإِنْ كَانَتْ حُرَّةً فَجَمِيعُ بَدَنِهَا عَوْرَةٌ إِلَّا الْوَجْهَ وَالْكَفَّيْنِ ؛ ظَهْرُهُمَا وَبَطْنُهُمَا إِلَى الْكُوعَيْنِ

และสำหรับผู้หญิงนั้น หากนางเป็นหญิงอิสระชน(ไม่ใช่ทาส) ร่างกายของนางทั้งหมดคือเอาเราะฮ ยกเว้นใบหน้าและฝ่ามือ หลังฝ่ามือทั้งสองและด้านใน(หมายถึงด้านฝ่ามือ)ของมันทั้งสองจนถึงข้อมือทั้งสอง - เราเฎาะฮอัฏฏอลิบีน 1/389
........

จะเห็นได้ว่า ใบหน้าและฝ่ามือทั้งสองไม่่ใช่เอาเราะฮตามที่อันนะวาวีย์ได้ระบุไว้

อะสัน หมัดอะดั้ม
4/12/61

เอกสารอ้างอิง

ใบหน้าและฝ่ามือทั้งสองไม่ใช่เอาเราะฮ (ภาคพิเศษ 4)

ใบหน้าและฝ่ามือทั้งสองไม่ใช่เอาเราะฮ (ภาคพิเศษ 4)

ขอเรียนผู้อ่านว่า ประเด็นปิดและเปิดหน้า เป็นประเด็นที่นักวิชาการเห็นต่างกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างก็อ้างอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ

فالحكم على وجه المرأة وكفيها بأنهما عورة أو ليسا بعورة مسألة قديمة الخلاف، وللعلماء فيها كلام كثير، وقد استدل كل فريق بأدلة من الكتاب والسنة، فالذاهب إلى قول منها لا يشنع عليه، إلا أن أكثر الفقهاء على أن الوجه والكفين ليسا من العورة التي يجب سترها، ثم اختلف هؤلاء بعد ذلك في مسألة أخرى

การตัดสิน ต่อ ใบหน้าผู้หญิงและสองฝ่ามือของนางว่ามันทั้งสอง คือเอาเราะฮหรือไม่ใช่เอาเราะฮ คือ ประเด็นเห็นต่างมาแต่เก่าก่อน (มีมานานแล้ว) บรรดาอุลามาอฺ มีคำวิจารณ์มากมายในประเด็นนี้ ,แต่ละพวก ก็ได้อ้างหลักฐานจากอัลกิตาบและอัสสุนนะฮ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีทัศนะไปยังทัศนะใดๆจากมัน เขาก็จะไม่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ส่วนมากของบรรดานักกฏหมายอิสลาม(ฟุเกาะฮาอ) มีทัศนะว่า ใบหน้าและสองฝ่ามือไม่ใช่ส่วนหนึ่งจากเอาเราะฮ ที่จำเป็นจะต้องปกปิดมัน ต่อมา พวกเขาเหล่านี้ ได้เห็นต่างกันหลังจากดังกล่าวในประเด็นอื่น..
http://fatwa.islamweb.net/fatwa/index.php…
.......

ตอนนี้เห็นฝ่ายที่อ้างว่าเป็นวาญิบ โดยเฉพาะแกนนำเริ่มมีอารมณ์ ในการใช้ถ้อยคำ ขอเรียนว่า จะเอาอะไรมาชง มาอ้าง มาทำข้าวยำ นาซิกาบู ประเด็นนี้ ก็ไม่จบ เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันเด็ดขาดชัดเจนว่า ใบหน้าและฝ่ามือคือเอาเราะฮ นักวิชาการส่วนใหญ่จึงมีทัศนะว่า "ใบหน้าและฝ่ามือทั้งสองไม่ใช่เอาะฮ" และเพราะเหตนี้มุสลิมะฮส่วนใหญ่ในโลก ถูกสอนมาว่า การคลุมฮิญาบเปิดหน้าได้ ใครคิดจะปฏิรูป ตามทัศนะตัวเองคงยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาหิมาลัยเป็นแน่

ชัยคุลอิสลาม ซะกะรียาอันอัศอรีย์ อัชชาฟิอีย์กล่าวว่า

(وَعَوْرَةُ الْحُرَّةِ فِي الصَّلَاةِ وَعِنْدَ الْأَجْنَبِيِّ) وَلَوْ خَارِجَهَا (جَمِيعُ بَدَنِهَا إلَّا الْوَجْهَ، وَالْكَفَّيْنِ) ظَهْرًا وَبَطْنًا إلَى الْكُوعَيْنِ لِقَوْلِهِ تَعَالَى {وَلا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلا مَا ظَهَرَ مِنْهَا} [النور: 31] قَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ وَغَيْرُهُ مَا ظَهَرَ مِنْهَا وَجْهُهَا وَكَفَّاهَا وَإِنَّمَا لَمْ يَكُونَا عَوْرَةً؛ لِأَنَّ الْحَاجَةَ تَدْعُو إلَى إبْرَازِهِمَا وَإِنَّمَا حُرِّمَ النَّظَرُ إلَيْهِمَا؛ لِأَنَّهُمَا مَظِنَّةُ الْفِتْنَةِ

และเอาเราะฮผู้หญิงที่เป็นอิสระชน ในละหมาดและในขณะอยู่ต่อหน้าชายแปลกหน้า และแม้อยู่นอกละหมาด คือ ร่างกายทั้งหมดของนางยกเว้นใบหน้าและฝ่ามือทั้งสอง หลังมือหรือฝ่ามือ จนถึงข้อมือทั้งสอง เพราะคำตรัสของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งที่ว่า (และพวกนางอย่าได้เปิดเผยเครื่องประดับของพวกนางยกเว้นสิ่งที่เปิดเผยได้ -อันนูร/31) อิบนุอับบาสและคนอื่นจากเขา กล่าวว่า "สิ่งที่เปิดเผยได้" คือ ใบหน้าและสองฝ่ามือของนาง และความจริงมันทั้งสองไม่ใช่เอาเราะฮ เพราะแท้จริง มันเรียกร้องไปสู่การเปิดเผยมันทั้งสอง และความจริง การมองมันทั้งสอง นั้นต้องห้าม เพราะมันทั้งสองคือการคาดคะเนว่าจะเกิดฟิตนะฮ - อัสนันมะฏอลิบ ชัรหเราเฎาะฮอัฏฏอลิบ 1/176

.......
สรุป
1.ใบหน้าและฝ่ามือทั้งสองไม่ใช่เอาเราะฮ
2. ใบหน้าและสองฝ่ามือ มีความจำเป็นที่จะต้องเปิด
3. ห้ามมองใบหน้าและฝ่ามือ นั้นเหตุผลคือคาดว่าจะเกิดฟิตนะฮ

หมายเหตุ : ประเด็นเปิดหน้า กับประเด็นเรื่องการห้ามมองคนละประเด็น เพราะไม่ว่าชายหรือหญิงที่ไม่ใช่มะหรอม ศาสนาห้ามเจตนามองด้วยเสน่หา อยู่แล้ว ยกเว้นในกรณีจำเป็นทางศาสนา

อะสัน หมัดอะดั้ม
1/12/61

เอกสารอ้างอิง