
สะลัฟไม่มีการฟัตวาแบบอาหารตามสั่ง
สะลัฟเขาจะไม่รีบเร่งฟัตวาจนกว่าจะดูหลักฐานจากอัลกุรอ่า,อัสสุนนะฮและคำพูดเคาะลิฟะฮทั้งสี่เสียก่อน
อิบนุลก็อยยิม(ร.ฮ)กล่าวว่า
ان السلفُ من الصحابة والتابعين يكرهون التسرُّع في الفتوى ، ويودُّ كلُّ واحد منهم أن يكفيَهُ إياها غيرُه ، فإذا رأى أنّها تعيَّنت عليه بذل اجتهادَهُ في معرفة حكمها من الكتابِ والسنّةِ ، وأقوالِ الخلفاءِ الراشدين ، ثم أفتى
แท้จริงสะลัฟ จากเศาะหาบะฮ และบรรดาตาบิอีน พวกเขารังเกียจ(ไม่ชอบ)รีบเร่งในการฟัตวา(ตอบปัญหาศาสนา) และแต่ละคนจากพวกเขา ชอบที่จะให้คนอื่นจากพวกเขาตอบมัน(ตอบปัญหา)แทนพวกเขา แล้วเมื่อเขาเห็นว่าจำเป็นแก่เขา(จะต้องฟัตวา) เขาก็ทุ่มเทความพยายามของเขา ในการรู้จัก หุกุม(ข้อชี้ขาด)ของมัน จากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ และบรรดาทัศนะของเคาะลิฟะฮรอชิดีน หลังจากนั้นเขาก็ทำการฟัตวา(ตอบปัญหา- ดูเอียะลามอัลมุวักกิอีน 1/34
...........
สรุปคือ
1.ปราชญ์ยุคสะลัฟ ที่เป็นเศาะหาบะฮและตาบิอีน พวกเขารังเกียจในการเร่งรีบตอบปัญหาศาสนา
สรุปคือ
1.ปราชญ์ยุคสะลัฟ ที่เป็นเศาะหาบะฮและตาบิอีน พวกเขารังเกียจในการเร่งรีบตอบปัญหาศาสนา
2.ปราชญยุคสะลัฟที่เป็นเศาะหาบะฮและตาบิอีน พวกเขาไม่ชอบตอบปัญหาเองแต่ชอบให้คนอื่นทำหน้าที่ตอบปัญหาแทนเขา
3. บรรดาปราชญ์สะลัฟ เมื่อมีปัญหาใดที่พวกเขาจำเป็นต้องตอบ (คือหลีกเลี่ยงไม่ได้)พวกเขาก็จะทุ่มเทความพยายามของเขา ในการรู้จัก หุกุม(ข้อชี้ขาด)ของมัน จากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ และบรรดาทัศนะของเคาะลิฟะฮรอชิดีน หลังจากนั้นเขาก็ทำการฟัตวา(ตอบปัญหา)
คนยุคหลัง พอเกิดปัญหาในประเด็นใดขึ้นมา ก็จะมีพวกชัยค์ต่างๆ รีบตอบสนองความต้องการของสังคม บางครั้งไม่มีหลักฐานมีแต่ความเห็น แล้วบรรดาพวกอวยชัยค์บ้านเราบางส่วนก็เอามาอ้างกัน คนนั้นว่าอย่างนั้นคนนี้ว่าอย่างนี้จนชาวบ้านสับสน บางที่เอาฟัตวามากลบสุนนะฮนบีก็มี เพราะฉะนั้นเราคนอาวามให้มีสติรับฟัตวาต่างๆด้วย
อะสัน หมัดอะดั้ม
11/5/63
11/5/63
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น