วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทำไมต้องดีเบท





ทำไมต้องดีเบท

การดีเบท คือ การอภิปรายหรือแสดงความเห็น
แย้งเกี่ยวกับเรื่องหรือหัว
ข้อที่ผู้คนมีความคิดเห็นแตกต่างกัน

คำว่า "ดีเบท" ภาษาอาหรับ เรียกว่า มุนาเกาะชะฮ (مناقشة ) มุนาเซาะเราะฮ (مناطرة ) 

บางคนบอกว่า การดีเบท ไม่ใช่แนวทางของสะลัฟ ผู้เขียนขอกล่าวว่า การอภิปรายโต้แย้งเพื่อให้ความจริงปรากฏ และปฏิบัติต่อกันด้วยมารยาทที่ดีงามและ รักษาความเป็นพี่น้องในอิสลาม ไม่ก่อฟิตนะฮ ต่อกัน นั้น เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ในทางวิชาการและเป็นแนวทางของสะลัฟ

อิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ)กล่าวว่า

قد كان العلماء من الصحابة والتابعين من بعدهم، إذا تنازعوا في الأمر اتبعوا أمر الله تعالى في قوله سبحانه يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ أَطِيعُواْ اللّهَ وَأَطِيعُواْ الرَّسُولَ وَأُوْلِي الأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللّهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ ذَلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلاً 

แท้จริง ปรากฏว่า บรรดาอุลามาอฺ จากเหล่าเศาะหาบะฮ และตาบิอีน หลังจากพวกเขา เมื่อพวกเขามีความเห็นขัดแย้งกัน ในเรื่องใด พวกเขาก็ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮตาอาลา ในคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺ และร่อซูล หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไป ที่สวยยิ่ง) 

وكانوا يتناظرون في المسألة مناظرة مشاورة ومناصحة وربما اختلف قولهم في المسألة العلمية والعملية مع بقاء الألفة والعصمة وأخوة الدين . 

และปรากฏว่า พวกเขาจะอภิปรายโต้แย้งกัน ในประเด็นนั้น เป็นการโต้แย้งในเชิงปรึกษาหารือและตักเตือนซึ่งกันและกัน และบางครั้ง คำพูดของพวกเขา ได้มีการเห็นขัดแย้งกัน ในประเด็นทางวิชาการและการปฏิบัติ พร้อมกับ คงไว้ซึ่ง ความสัมพันธ์ ,ความความแนบแน่นและความเป็นน้องในศาสนาเอาไว้- มัจญมัวะอัลฟะตาวา 24/17
การดีเบท ที่ไม่ใช่แบบอย่างสะลัฟ คือ การดีเบท ที่ไม่รักษามารยาท แตกแยก และเป็นศัตรูระหว่างกัน ห้ำหั่นทำลายกัน 

การเห็นต่าง แล้วพูดคนละที ต่างคนต่างกล่าวหากันในเชิงลบ และแสดงออกซึ่งการดิสเครดิตในสื่อสาธารณะ แล้วบอกว่าทางใครทางมัน มันไม่เป็นผลดีต่อส่วนรวมและศาสนาแต่ประการใดเลย

อิหม่ามอัซซะฮะบียได้รายงานว่า

قَالَ يُونُسُ الصَّدَفِيُّ : مَا رَأَيْتُ أَعْقَلَ مِنَ الشَّافِعِيِّ ، نَاظَرْتُهُ يَوْمًا فِي مَسْأَلَةٍ ، ثُمَّ افْتَرَقْنَا ، وَلَقِيَنِي ، فَأَخَذَ بِيَدِي ، ثُمَّ قَالَ : يَا أَبَا مُوسَى ، أَلَا يَسْتَقِيمُ أَنْ نَكُونَ إِخْوَانًا وَإِنْ لَمْ نَتَّفِقْ فِي مَسْأَلَةٍ

ยูนุส อัศเศาะดะฟีย์ กล่าวว่า ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นใครที่ฉลาดยิ่งไปกว่า อัชชาฟิอี ,วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ดีเบท กับเขาในประเด็นหนึ่ง หลังจากนั้น เราได้แยกย้ายกันไป และ (ต่อมา) เขา(ชาฟิอี)ได้พบกับข้าพเจ้า แล้วจับมือข้าพเจ้า หลังจากนั้นเขากล่าวว่า "โอ้อบูมูซา (หมายถึงท่านยูนุส) โปรดรู้ไว้เถิดว่า ความเป็นพี่น้อง นั้นยังคงดำรงอยู่ แม้เราจะไม่เห็นฟ้องกันในประเด็นใดก็ตาม -สิยารเอียะลามอัลนุบะลาอฺ 10/17

จะมีสักคนไหมที่อ้างสะลัฟ ที่ใช้มารยาทในการดีเบท แบบสะลัฟ อย่างเช่น ท่านอิหม่ามชาฟิอีย (ร.ฮ) 

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น