วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เขานังเทียนบอกว่า สุนนะฮไม่ใช่สิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่าบิดอะฮ





เขานังเทียนบอกว่า สุนนะฮไม่ใช่สิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่าบิดอะฮ
รู้เท่าทัน วะฮาบีย์
28 กันยายน เวลา 17:07 น.
จากที่ได้เสวนากับวะบี
วะบีบอกว่า ตรงข้ามสุนนะ คือบิดอะ
ผมแย้งไปว่า
ตรงข้ามสุนนะ ก้คือ ไม่ใช่สุนนะ ไม่เกี่ยวไรกับบิดอะ(ที่ลุ่มหลง)
ไม่ใช่สุนนะนั้น ก้จะมีทั้งมักรุห สุนัตวายิบหะรุสหะรอม
ซึ่งหะรอมบางเรื่องเข้าข่ายบิดอะดอลาละห และบางเรื่องจะไม่เรียกบิดอะดอลาละห แต่จะเรียกบาปใหญ่บาปเล็ก
หะหร่อมที่ไม่ใช่อุตริกรรม ก้ไม่เรียกบิดอะ
วะบีเงิบครับ
รอคำชี้แจงจากวะบีอยุ่ว่า มันผิดตรงไหนและของเค้าถูกยังไง รอครับ
………….
ชี้แจง
คนบางกลุ่มอาศัยคนญาเฮล มานั่งเทียนตอบโต้เรื่องศาสนา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองโดนใช้วิธี 2 อย่างคือ
1.โกหกบิดเบือน หวังเอาชนะ จะโดยวิธีใดก็ตาม 
2. เขียนไปด่าทอไป ใส่ร้ายคู่สนทนาที่เห็นต่าง แบบไม่ใส่ใจว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ และไม่แยแสว่าอัลลอฮทรงรู้พฤติกรรมของตน
คุณ รู้เท่าทัน วะฮาบีย์ ใช้นามแฝงชนดะพี่น้องมุสลิมที่เห็นต่างทุกรูปแบบโดยไม่รู้ว่าดีหรือชั่ว แต่ขอให้ได้ชน พร้อมกับอวดอ้างว่า ตนเองมีสรรพคุณปราบมุสลิมที่ตนเองเรียกวะฮบีย์ได้ ทั้งๆที่สิ่งที่นำมาเขียนนั้นล้วนแล้วแต่ใช้ความเห็น พร้อมแนบการด่าทอ อยู่ตลอดเวลา และใช้สิฟัตตะกับโบร หัวเราะเยาะเย้ยคู่สนทนา โดยหลงคิดไปว่า ไม่มีใครรู้จัก เพราะใช้นามแฝง – นะอูซุบิลละฮ คุณไม่รู้หรือว่าอัลลอฮทรงรู้ 
การที่คุณ รู้เท่าทัน วะฮาบีย์ อ้างว่า คำว่าสุนนะฮ ไม่ใช่เป็นคำตรงกันข้ามกับคำว่าบิดอะฮ การพูดแบบนี้แสดงให้เห็นถึง ความไม่เข้าใจศาสนา ไม่อ่านตำราเลย แต่มาด้วยอคติ ที่หวังผลคิดทำลายพี่น้องมุสลิมที่เห็นต่างเท่านั้น
...............
ผมขอยืนยันว่า คำว่า “สุนนะฮ “ นักวิชาการได้นำมาใช้ ในความหมายของ สิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่า “บิดอะฮด้วย มาดูหลักฐานต่อไปนี้
وَيُطْلَقُ أَيْضًا فِي مُقَابَلَةِ الْبِدْعَةِ ; فَيُقَالُ : فُلَانٌ عَلَى سُنَّةٍ إِذَا عَمِلَ عَلَى وَفْقِ مَا عَمِلَ عَلَيْهِ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، كَانَ ذَلِكَ مِمَّا نُصَّ عَلَيْهِ فِي الْكِتَابِ أَوْ لَا ، وَيُقَالُ : فُلَانٌ عَلَى بِدْعَةٍ إِذَا عَمِلَ عَلَى خِلَافِ ذَلِكَ
และมัน(หมายถึงคำว่าอัสสุนนะฮ) ถูกอ้างถึงความหมายในสิ่งที่ตรงกันข้ามคำว่าบิดอะฮ อีกเช่นกัน แล้วจะถูกกล่าวว่า คนนั้น อยู่บนสุนนะฮ เมื่อเขาปฏิบัติ บนความสอดคล้อง สิ่งที่ท่านนบี ศอ็ลฯได้ดำเนินอยู่บนมัน ,ดังกล่าวนั้น จากสิ่งทีถูกกล่าวไว้เป็นตัวบทในอัลกุรอ่าน หรือไม่ก็ตาม และถูกกล่าวว่า คนนั้น อยู่บนบิดอะฮ เมื่อเขาปฏิบัติ บนการขัดแย้งกับดังกล่าว(หมายถึงขัดแย้งกับสิ่งที่ท่านนบีดำเนินอยู่บนมัน) – ดูอัลมุวาฟิกอต ของอัชชาฏิบีย์ เล่ม 4 หน้า 290 (ดูสำเนาหนังสือที่แนบมา)
…………..
อิหม่ามอัชชาฏิบีย์ยืนยันว่า คำว่าสุนนะฮ ถูกอ้างถึงความหมายของสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่าบิดอะฮอีกด้วย ส่วนที่คุณ รู้เท่าทัน วะฮาบีย์ ปฏิเสธโดยอ้างว่า คำว่าสุนนะฮ ไม่ใช่เป็นคำตรงกันข้ามกับคำว่าบิดอะฮ เป็นการนังเทียนหรือเดาสุ่มตามนัฟซุหรืออารมณ์ตนเอง เพื่ออย่าให้ตรงกับวะฮบียเท่านั้น ผมไม่ทราบว่า อิหม่ามอัชชาฏิบีย์เป็นวะฮบีย์หรือเปล่า
และอีกประการหนึ่งคือ บรรดาฟุเกาะฮาอฺมีการนำคำว่า “สุนนะฮ มาใช้สิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่า “ฟัรดู อีกด้วย ซึ่งไม่มีใครค้าน แต่ สิ่งใดก็ตามที่เรียกว่า “สุนัต” สิ่งนั้นต้องมาจากสิ่งที่ปรากฏคำสอนจากกิตาบุลลอฮ และสุนนะฮนบี ไม่ใช่คนหนึ่งอุตริบิดอะฮ ขึ้นมาแล้วมาอ้างว่าเป็นสุนัต อย่างที่บางคนเข้าใจ
أَنَّ الْبِدْعَةَ فِي الدِّينِ هِيَ مَا لَمْ يَشْرَعْهُ اللَّهُ وَرَسُولُهُ وَهُوَ مَا لَمْ يَأْمُرْ بِهِ أَمْرَ إيجَابٍ وَلَا اسْتِحْبَابٍ . فَأَمَّا مَا أَمَرَ بِهِ أَمْرَ إيجَابٍ أَوْ اسْتِحْبَابٍ وَعُلِمَ الْأَمْرُ بِهِ بِالْأَدِلَّةِ الشَّرْعِيَّةِ : فَهُوَ مِنْ الدِّينِ الَّذِي شَرَعَهُ اللَّهُ
บิดอะฮ ในศาสนา คือ สิ่งที่อัลลอฮและรอซูลของพระองค์ ไม่ได้บัญญัติมันไว้ และมันคือสิ่งที่ไม่ได้ทรงสั่งด้วยมัน ที่เป็นคำสั่งในรูปแบบบังคับให้ปฏิบัติ(วาญิบ) และไม่ได้ทรงสั่งด้วยมัน ในรูปของการชอบให้กระทำ (สุนัต) สำหรับสิ่ง ที่ทรงสั่งไว้ เป็นข้อบังคับ(วาญิบ)หรือชอบให้กระทำ และ คำสั่งนั้นนั้นถูกรู้ด้วยหลักฐานทางศาสนบัญญัติ มันก็คือ ส่วนหนึ่งจากศาสนาที่อัลลอฮได้ทรงบัญญัติมัน – มัจญมัวะฟาตาวา เล่ม 4 หน้า 107-108
………….
ที่นำเสนอข้อมูลมาทั้งหมดนี้ เพื่อผู้อ่านจะได้ศึกษาและพิจารณาดูว่า อะไรคือสัจธรรมและอะไรคือความเท็จ เพื่อที่จะได้ดำเนินอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง ไม่แอบอ้างและบิดเบือน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
17/10/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น