วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560

อิสลามคือศาสนาที่สอนให้ตามรอซูลไม่ใช่สอนให้อุตริบิดอะฮ


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

อิสลามคือศาสนาที่สอนให้ตามรอซูลไม่ใช่สอนให้อุตริบิดอะฮ
ศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาของอัลลอฮ ตาอาลา
إِنَّ الدِّينَ عِندَ اللّهِ الإِسْلاَمُ
แท้จริงศาสนา ณ อัลลอฮ์นั้นคือ อัลอิสลาม -อาลิอิมรอน/19
อิบนุกะษีร (ร.ฮْ) อธิบายว่า
وَقَوْلُهُ : ( إِنَّ الدِّينَ عِنْدَ اللَّهِ الْإِسْلَامُ ) إِخْبَارٌ مِنَ اللَّهِ تَعَالَى بِأَنَّهُ لَا دِينَ عِنْدَهُ يَقْبَلُهُ مِنْ أَحَدٍ سِوَى الْإِسْلَامِ ، وَهُوَ اتِّبَاعُ الرُّسُلِ فِيمَا بَعَثَهُمُ اللَّهُ بِهِ فِي كُلِّ حِينٍ ، حَتَّى خُتِمُوا بِمُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، الَّذِي سَدَّ جَمِيعَ الطُّرُقِ إِلَيْهِ إِلَّا مِنْ جِهَةِ مُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، فَمَنْ لَقِيَ اللَّهَ بَعْدَ بِعْثَتِهِ مُحَمَّدًا صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِدِينٍ عَلَى غَيْرِ شَرِيعَتِهِ ، فَلَيْسَ بِمُتَقَبَّلٍ
และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า(แท้จริงศาสนา ณ อัลลอฮ์นั้นคือ อัลอิสลาม) คือการบอกกล่าวจากอัลลอฮ ตาอาลา ว่า แท้จริง ไม่มีศาสนา ณ พระองค์ ที่พระองค์ทรงยอมรับมันจากคนหนึ่งคนใดอื่นจาก อิสลาม และมันคือ การปฏิบัติตามบรรดารอซูล ในสิ่งที่อัลลอฮทรงแต่งตั้งพวกเขามาด้วยมัน ในทุกๆเวลา จนกระทั่ง พวกเขาถูกให้สิ้นสุดลงด้วย มุหัมหมัด ศอ็ลฯ ที่ปิดบรรดาแนวทางต่างๆที่ไปสู่พระองค์ ทั้งหมด ยกเว้น ที่มาจากด้านของมุหัมหมัดศอ็ลฯ ดังนั้น ผู้ใดที่พบกับอัลลอฮ (ในวันกิยามะฮ) หลังจากที่พระองค์ทรงแต่งตั้งมุหัมหมัด ศอ็ลฯ ด้วยศาสนาใดๆ อื่นจากชะรีอัตของเขา(ของมุหัมหมัด) มันก็จะไม่ถูกยอมรับ - ตัฟสีร อิบนุกะษิร เล่ม 2 หน้า 25
......
ศาสนาอิสลาม ทุกยุคทุกสมัย คือ การปฏิบัติตามบรรดารอซูล ในสิ่งที่อัลลอฮ ได้แต่งตั้งพวกเขาด้วยมัน กล่าวคือ ศาสนาอิสลาม คือศาสนา ที่ต้องปฏิบัติตามศาสนทุ๖ของอัลลอฮ ตาอาลา
แปลก...คนบางกลุม กลับ อ้างว่า รอซูลฯ ศอ็ลฯ ไม่ทำก็ทำได้ แล้วอุตริบิดอะฮขึ้นมาในศาสนา แล้วอ้างว่า "เป็นบิดอะฮที่ดี"
เท่านั้นยังไม่พอ ยังโกหกว่า ท่านอุมัร (ร.ฎ)ทำบิดอะฮ เพื่อเป็นข้ออ้างรับรองบิดอะฮทีอะฮลุลบิดอะฮอุตริขึ้นมา ทั้งๆที่มันคือสุนนะฮ ไม่ใช่บิดอะฮในทางศาสนา แต่คนกลุ่มนี้จะให้เป็นบิดอะฮให้ได้ -วัลอิยาซุบิลละฮ
อัลหาฟิซ อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ กล่าวว่า
وَقَالَ ابْنُ بَطَّالٍ : قِيَامُ رَمَضَانَ سُنَّةٌ ؛ لِأَنَّ عُمَرَ إِنَّمَا أَخَذَهُ مِنْ فِعْلِ النَّبِيِّ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - ، وَإِنَّمَا تَرَكَهُ النَّبِيُّ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - خَشْيَةَ الِافْتِرَاضِ
อิบนุบัฎฏอ็ล กล่าวว่า " กิยามุเราะมะฎอน(ละหมาดตอรอเวียะ) คือ สุนนะฮ เพราะแท้จริง อุมัร นั้น ความจริงเขาเอามันมาจากการกระทำของท่านนบี ศอ็ลฯ และความจริง ท่านนบี ศอ็ลฯได้ละทิ้งมัน เพราะเกรงว่าจะถกกำหนดให้เป็นฟัรดู - ฟัตหุลบารีย์ 4/252 กิตาบุเศาะลาติตตะรอเวียะ
...........
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
12/1/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น