

อิสลามคือศาสนาที่สอนให้ตามรอซูลไม่ใช่สอนให้อุตริบิดอะฮ
ศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาของอัลลอฮ ตาอาลา
إِنَّ الدِّينَ عِندَ اللّهِ الإِسْلاَمُ
แท้จริงศาสนา ณ อัลลอฮ์นั้นคือ อัลอิสลาม -อาลิอิมรอน/19
อิบนุกะษีร (ร.ฮْ) อธิบายว่า
وَقَوْلُهُ : ( إِنَّ الدِّينَ عِنْدَ اللَّهِ الْإِسْلَامُ ) إِخْبَارٌ مِنَ اللَّهِ تَعَالَى بِأَنَّهُ لَا دِينَ عِنْدَهُ يَقْبَلُهُ مِنْ أَحَدٍ سِوَى الْإِسْلَامِ ، وَهُوَ اتِّبَاعُ الرُّسُلِ فِيمَا بَعَثَهُمُ اللَّهُ بِهِ فِي كُلِّ حِينٍ ، حَتَّى خُتِمُوا بِمُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، الَّذِي سَدَّ جَمِيعَ الطُّرُقِ إِلَيْهِ إِلَّا مِنْ جِهَةِ مُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، فَمَنْ لَقِيَ اللَّهَ بَعْدَ بِعْثَتِهِ مُحَمَّدًا صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِدِينٍ عَلَى غَيْرِ شَرِيعَتِهِ ، فَلَيْسَ بِمُتَقَبَّلٍ
และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า(แท้จริงศาสนา ณ อัลลอฮ์นั้นคือ อัลอิสลาม) คือการบอกกล่าวจากอัลลอฮ ตาอาลา ว่า แท้จริง ไม่มีศาสนา ณ พระองค์ ที่พระองค์ทรงยอมรับมันจากคนหนึ่งคนใดอื่นจาก อิสลาม และมันคือ การปฏิบัติตามบรรดารอซูล ในสิ่งที่อัลลอฮทรงแต่งตั้งพวกเขามาด้วยมัน ในทุกๆเวลา จนกระทั่ง พวกเขาถูกให้สิ้นสุดลงด้วย มุหัมหมัด ศอ็ลฯ ที่ปิดบรรดาแนวทางต่างๆที่ไปสู่พระองค์ ทั้งหมด ยกเว้น ที่มาจากด้านของมุหัมหมัดศอ็ลฯ ดังนั้น ผู้ใดที่พบกับอัลลอฮ (ในวันกิยามะฮ) หลังจากที่พระองค์ทรงแต่งตั้งมุหัมหมัด ศอ็ลฯ ด้วยศาสนาใดๆ อื่นจากชะรีอัตของเขา(ของมุหัมหมัด) มันก็จะไม่ถูกยอมรับ - ตัฟสีร อิบนุกะษิร เล่ม 2 หน้า 25
......
ศาสนาอิสลาม ทุกยุคทุกสมัย คือ การปฏิบัติตามบรรดารอซูล ในสิ่งที่อัลลอฮ ได้แต่งตั้งพวกเขาด้วยมัน กล่าวคือ ศาสนาอิสลาม คือศาสนา ที่ต้องปฏิบัติตามศาสนทุ๖ของอัลลอฮ ตาอาลา
ศาสนาอิสลาม ทุกยุคทุกสมัย คือ การปฏิบัติตามบรรดารอซูล ในสิ่งที่อัลลอฮ ได้แต่งตั้งพวกเขาด้วยมัน กล่าวคือ ศาสนาอิสลาม คือศาสนา ที่ต้องปฏิบัติตามศาสนทุ๖ของอัลลอฮ ตาอาลา
แปลก...คนบางกลุม กลับ อ้างว่า รอซูลฯ ศอ็ลฯ ไม่ทำก็ทำได้ แล้วอุตริบิดอะฮขึ้นมาในศาสนา แล้วอ้างว่า "เป็นบิดอะฮที่ดี"
เท่านั้นยังไม่พอ ยังโกหกว่า ท่านอุมัร (ร.ฎ)ทำบิดอะฮ เพื่อเป็นข้ออ้างรับรองบิดอะฮทีอะฮลุลบิดอะฮอุตริขึ้นมา ทั้งๆที่มันคือสุนนะฮ ไม่ใช่บิดอะฮในทางศาสนา แต่คนกลุ่มนี้จะให้เป็นบิดอะฮให้ได้ -วัลอิยาซุบิลละฮ
อัลหาฟิซ อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ กล่าวว่า
وَقَالَ ابْنُ بَطَّالٍ : قِيَامُ رَمَضَانَ سُنَّةٌ ؛ لِأَنَّ عُمَرَ إِنَّمَا أَخَذَهُ مِنْ فِعْلِ النَّبِيِّ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - ، وَإِنَّمَا تَرَكَهُ النَّبِيُّ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - خَشْيَةَ الِافْتِرَاضِ
อิบนุบัฎฏอ็ล กล่าวว่า " กิยามุเราะมะฎอน(ละหมาดตอรอเวียะ) คือ สุนนะฮ เพราะแท้จริง อุมัร นั้น ความจริงเขาเอามันมาจากการกระทำของท่านนบี ศอ็ลฯ และความจริง ท่านนบี ศอ็ลฯได้ละทิ้งมัน เพราะเกรงว่าจะถกกำหนดให้เป็นฟัรดู - ฟัตหุลบารีย์ 4/252 กิตาบุเศาะลาติตตะรอเวียะ
...........
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
12/1/60
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
12/1/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น