คำท้าโต๊ะครูสายอวยอุลามาอฺ
:ให้เอาหลักฐานที่บอกว่าละหมาดที่บ้านได้บุญ 27 เท่าเหมือนละหมาดที่มัสยิด
ความจริงการท้าเพื่อเอาชนะแบบนี้ไม่มีราคา
เพราะเป็นการถามของคนไม่ใช้สมองคิดและถาม ถามดดยคิดว่า
คนอื่นไม่มีความรู้เทียบเท่าตัวเอง หลงตัวเองว่า ข้าเท่านั้นที่รู้จริง แต่ที่ผมนำมาตอบ เพื่อพี่น้องผู้อ่านจะได้ศึกษา
ความจริงตอนนี้เราพูดถึง
การละหมาดที่บ้านเนื่องจากอุปสรรค คือ อยู่ในภาวะการระบาดของโรคระบาด
ที่ผู้คนกลัวจะอันตรายต่อชีวิตตัวเอง ไม่ใช่การละหมาดในยามปกติ
ซึ่งถ้าใครไม่ลืมหรือแกล้งลืมเราจะพบว่ามีฟัตวาระบุว่า คนละหมาดที่บ้าน
ได้บุญเท่ากับละหมาดญะมาอะฮ ที่เขาปฏิบัติประจำที่มัสยิด ในยามปกติ
ขอยกตัวอย่างฟัตวาของ
ชัยค์ ดร. สะอัด บิน อับดุลลอฮ บิน อับดุลอะซีซ อัสสะบัร อาจารย์ภาควิชานิติศาสตร์อิสลามเปรียบเทียบ มหาลัยอิหม่ามมุหัมหมัด อิบนุสะอูด
มีหัวข้อว่า
بعد إيقاف الصلاة بالمساجد..
"السبر": الصلاة في البيت في حال الوباء يُكتب بها أجر الجماعة كاملاً
หลังจากหลังจากการหยุดละหมาดที่มัสยิด ,อัสสะบัร กล่าวว่า:
การละหมาดที่บ้าน ในสถานการณ์โรคระบาด ผลตอบแทนการละหมาดญะมาอะฮโดยสมบูรณ์
ถูกบันทึกด้วยมัน
มาดูส่วนหนึ่งจากข้อความคำฟัตวาของชัยค์ สะอิด อัส-สะบัร :
وقال "السبر": "لذا يصلي
الإنسان في بيته جماعة مع أسرته -الأبناء والبنات-، ونساؤه يصلين معه، وتقام بهم
الجماعة، ويجري له أجره كاملاً، قال النبي صلى الله عليه وسلم: (إذا سافر العبد أو
مرض كتب الله ما كان يعمله مقيماً صحيحاً) رواه البخاري، واستشهد بقول الحافظ ابن
رجب الحنبلي -رحمه الله-: لا نعلم خلافاً أن الجماعة تنعقد باثنين إذا كانا من أهل
التكليف، ولو كان المأموم امرأة. فتح الباري شرح صحيح البخاري، وقول الشيخ ابن
عثيمين رحمه الله: المعذور يُكتبُ له أجرُ الجماعةِ كاملاً، إذا كان مِن عادتِه أن
يصلِّي مع الجماعةِ، لقول النبي صلى الله عليه وسلم: (إذا مَرِضَ العبدُ أو سافرَ
كُتِبَ له مثلُ ما كان يعملُ صحيحاً مقيماً) الشرح الممتع ٣٢٣/٤".
และอัสสะบัร
ได้กล่าวว่า เพราะเหตุนี้ บรรดาผู้คน
เขาละหมาด ยะมาอะฮที่บ้านของเขา พร้อมกับครอบครัว ของเขา –บรรดาลูกชายและลูกสาว
และบรรดาภรรยาของเขา
ละหมาดพร้อมกับเขา และการญะมาอะฮถูกให้มีขึ้นกับพวกเขา
และผลตอบแทนของเขาจะถูกดำเนินการให้แก่เขาโดยสมบูรณ์ ,ท่านนบี ศ็อลฯ
ได้กล่าวว่า(เมื่อบ่าวเดินทาง หรือเจ็บป่วย อัลลอฮได้บันทึก(ผลตอบแทน)สิ่งที่เขาเคยปฏิบัติมัน
โดยที่อยู่กับท้องที่(อยู่กับบ้าน)และมีสุขภาพดี) รายงานโดยบุคอรี และ พยานยืนยัน
ด้วยคำพูดของ อัลหาฟิซอิบนุเราะญับ อัลหัมบะลีย์ (ร.ฮ) ว่า “ เราไม่ทราบว่า
มีการเห็นขัดแย้งว่า แท้จริง การ (ละหมาด)ญะมาอะฮนั้น มันใช้ได้ ด้วยสองคน เมื่อปรากฏว่าทั้งสองคนนั้น
เป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับศาสนา (หรือมุกัลลัฟ) และแม้มะอมูม
เป็นผู้หญิงคนเดียวก็ตาม - ฟัตหุลบารีย์
ชัรหเศาะเฮียะบุคอรี
และยืนยันด้วยคำพูดของชัยค์ อิบนุอุษัยมีน (ร.ฮ) ที่ว่า “ผู้ที่มีอุปสรรค
เขาจะถูกบันทึกให้ได้รับผลตอบแทนละหมาดญะมาอะฮโดยสมบูรณ์ เพราะคำกล่าวของท่านนบี ศ็อลฯ ที่ว่า(เมื่อบ่าวเดินทาง
หรือเจ็บป่วย อัลลอฮได้บันทึก(ผลตอบแทน)สิ่งที่เขาเคยปฏิบัติมัน
โดยที่อยู่กับท้องที่(อยู่กับบ้าน)และมีสุขภาพดี) –อัชชัรหอัลมุตะอฺ
4/323
สรุป
1.ชัยค์ฟัตวาว่า ในช่วงการหยุดการละหมาดที่มัสยิดเนื่องจากโรคระบาด การละหมาดที่บ้านกับครอบครัว
เขาจะได้ผลบุญละหมาดญะมาอะฮดดยสมบูรณ์
คำว่า “ผลบุญญะมาอะฮโดยสมบูรณ์ เด็กอนุบาลก็รู้ว่า บุญละหมาดญะมาอะฮที่มัสยิด
ได้ 27 เท่า ถ้าไม่คิดจะเอาชนะ
และหลงตัวเองว่า รู้มากกว่าคนอื่น คงไม่ท้ามากหรอก ฟันธง
2. ชัยค์ได้อ้างหลักฐานจากหะดิษบุคอรี และได้อ้างคำพูดของอิบนุเราะญับ
(ร.ฮ) และอิบนอุษัยมีน (ร.ฮ)มาสนับสนุน ฟัตวาของท่าน หวังว่าแค่นี้ก็พอเพียงสำหรับผู้แสวงหาสัจธรรม
ผมหวังว่า คนที่ท้ามาจะตอบโต้แย้งผมในเร็ววัน แถ้เงียบ
ก็ขอให้หยุดเสีย ดันทุรังไปก็จะเสียคน และเสียหายต่อวงการสุนนะฮ ซึ่ง
เป็นก่ออาชกรรมต่อวงการศาสนาให้ดำดิ่งสู่ก้นเหว ที่ไม่สามารถที่จะอภัยได้
อะสัน หมัดอะดั้ม
16/6/63
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น