วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

เมื่อเขาเอาเรื่องสะนัดมารับรองอะกีดะฮอัซฮัร









เมื่อเขาเอาเรื่องสะนัดมารับรองอะกีดะฮอัซฮัร
#ฉันนี่แหละสะลัฟ
โดย อ.รอฟิกี มูฮำหมัด
"และหากจะมีอุลามาอ์กลุ่มใดที่จะถูกเรียกว่าเป็นชาวสะลัฟ เรา(ชาวอัซฮัร)นั้น เหมาะสมที่สุดที่จะถูกเรียกเช่นนั้น เพราะเราต่างก็มีซิลซิละห์(สายซะนัด) เชื่อมโยงไปถึงเขาเหล่านั้น แล้วพวกที่เรียกตนเองว่าเป็นผู้ตามสะลัฟล่ะ พวกท่านมีสายสะนัดเชื่อมโยงไปถึงพวกเขาบ้างไหม????"
เครดิต:ชัยคุ้ลอิสลาม เชค อะห์หมัด ตอยยิบ ชัยคุ้ลอัซฮัร อัชช่ารีฟ
ท่านอับดุลเลาะห์ อิบนุ อัลมู่บาร๊อก(ร่อฮิม่าฮุ้ลเลาะห์)ได้กล่าวว่า :
قَالَ عَبْد الله بن المبارك : ( الإسناد من الدين ، ولولا الإسناد لقال من شاء ما شاء ) ... مقدمة صَحِيْح مُسْلِم 1/12
ความว่า "การอิงสายรายงาน(การรับวิชาความรู้กันมาแบบทอดๆ)นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากเรื่องราวทางศาสนา เพราะหากว่าไม่มีการอ้างอิงสายรายงานเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่า บุคคลที่ต้องการจะพูดอะไร เขาก็จะพูดไปตามที่เขาต้องการ(โดยไม่มีที่มาที่ถูกต้อง)" (ดู มู่ก๊อดดิมะห์ ซอเฮี๊ยะห์มุสลิม เล่ม 1 หน้าที่ 12)
# Rofikee Muhammad #
@@@@
ชี้แจง
อิหม่ามมุสลิมยกหลักฐานข้างต้นเพื่อที่จะบอกว่า การรายงานหะดิษนั้นจำเป็นจะต้องมีสายรายงาน ที่เชื่อถือได้
โดยตั้งหัวข้อว่า
بَابُ بَيَانِ أَنَّ الإِسْنَادَ مِنَ الدِّيْنِ وَأَنَّ الرِّوَايَةَ لاَ تَكُوْنُ إِلاَّ عَنِ الثِّقَاتِ وَأَنَّ جَرْحَ الرُّوَاةِ بِمَا هُوَ فِيْهِمْ جَائِزٌ بَلْ وَاجِبٌ وَأَنَّهُ لَيْسَ مِنَ الْغِيْبَةِ الْمُحَرَّمَةِ بَلْ مِنَ الذَّبِّ عَنِ الشَّرِيْعَةِ الْمُكَرَّمَةِ
เรื่องว่าด้วยการชี้แจงว่า แท้จริงการอ้างอิงสายรายงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากเรื่องศาสนา และแท้จริงการรายงานนั้น จะมีขึ้นไม่ได้นอกจาก จะต้องมาจาก บรรดาผู้ที่เชื่อถือได้ และแท้จริง การวิจารณ์จุดบกพร่องของบรรดาผู้รายงาน ด้วยสิ่งที่มันอยู่ในพวกเขา นั้นคือสิ่งที่อนุญาต ยิ่งไปกว่านั้น มันคือสิ่งจำเป็น และแท้จริง มันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งจากการนินทาที่ต้องห้าม แต่ทว่า เป็นส่วนหนึ่งจากการปกป้องชารีอัตอันทรงเกียรติ
แล้วอิหม่ามมุสลิมอ้างอิงหะดิษที่ว่า
حَدَّثَنَا حَسَنُ بْنُ الرَّبِيعِ حَدَّثَنَا حَمَّادُ بْنُ زَيْدٍ عَنْ أَيُّوبَ وَهِشَامٍ عَنْ مُحَمَّدٍ وَحَدَّثَنَا فُضَيْلٌ عَنْ هِشَامٍ قَالَ وَحَدَّثَنَا مَخْلَدُ بْنُ حُسَيْنٍ عَنْ هِشَامٍ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ سِيرِينَ قَالَ إِنَّ هَذَا الْعِلْمَ دِينٌ فَانْظُرُوا عَمَّنْ تَأْخُذُونَ دِينَكُمْ
คำแปลตัวบท
จากมุหัมหมัด บิน สิรีน กล่าวว่า “ แท้จริง ความรู้ นี้ คือ ศาสนา ดังนั้น พวกท่านจงพิจารณา จากผู้ที่พวกท่านเอาศาสนาของพวกท่าน – คำนำเศาะเฮียะมุสลิม หน้า 14
ที่อิบนุอัลมุบารอ็ก (ร.ฮ) กล่าวว่า
الإسناد من الدين ، ولولا الإسناد لقال من شاء ما شاء
อัลอิสนาด(การอ้างอิงสายรายงาน)นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากศาสนา และหากไม่มีการอ้างอิงสายรายงาน แน่นอน แต่ละคนก็ต้องการที่จะพูดสิ่งที่เขาต้องการ (คือจะพูดโกหกอย่างไรก็ได้ที่เขาต้องการ)
ชุอบะฮ บิน อัลหัจญาจญ์ กล่าวว่า
إنما يعلم صحة الْحَدِيْث بصحة الإسناد
ความจริง เขาจะรู้ความถูกต้อง(เศาะเฮียะ)ของหะดิษ ด้วยความถูกต้อง(เศาะเฮียะ)ของบรรดาสายรายงาน(สะนัด) –อัตตัมฮีด 1/57
..........
เพราะฉะนั้น การอ้างว่า มีอะกีดะฮสะลัฟ ไม่ใช่อ้างแต่ลมปาก แต่ต้องดูสายรายงานด้วยว่า สิ่งที่อ้างนั้น มีสายรายงานสืบไปถึง สะลัฟผู้ทรงธรรมจริงหรือไม่ และสายรายงาน(สะนัด)ถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่นั่งเทียนเดา
คำถามท้ายบทความคือ
อะกีดะฮที่ว่า “เมาญูด บิลามะกาน (موجود بلا مكان ) เป็นคำพูดของสะลัฟท่านใดหรือ มีสานัดสืบไปถึงสะลัฟจริงหรือ?
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
8/9/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น