วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

การใช้ตรรกอุปโลกน์คำว่าตัจญซีม มาปฏิเสธความหมายสีฟาตตามตัวบท



ในภาพอาจจะมี ข้อความ



การใช้ตรรกอุปโลกน์คำว่าตัจญซีม มาปฏิเสธความหมายสีฟาตตามตัวบท
ราชสีห์ ผู้ภักดีของแผ่นดิน 
การกล่าวคำว่า التجسيم นี้ เนื่องจากว่า มีกลุ่มหนึ่งที่เข้าใจความหมายของอัลเลาะฮ์ที่อยู่ในเชิงของอวัยะร่างกาย ที่กลุ่มอัลมุญัสสิมะฮ์ ได้ให้ความหมายและเชื่ออย่างนั้น แม้ว่าตอนจบพวกเขาจะกล่าวว่า อัลเลาะฮ์มีอวัยวะที่ไม่เหมือนกับมัคโลคก็ตาม เผอิญว่า หลักการของพวกอัลมุญัสสิมะฮ์นี้ มันไปคล้ายกับหลักการศรัทธาของวะฮาบีย์ในเรื่องซิฟัต วะฮาบีย์ก็เลยปฏิเสธและโจมตี กับการใช้คำๆ นี้ เพื่อที่จะสลัดการกล่าวว่า الجسم หรือ التجسيم ให้ออกไปจากแนวทางของเขา แล้ววะฮาบีย์ก็กล่าวว่า มันกล่าวถึง الجسم หรือ التجسيم นั้น เป็นการเอ่ยขึ้นมาของนักวิภาษวิทยา(มุตะกัลลิมีน) ทั้งที่ความจริงแล้ว ท่านอิมามอะหฺมัด ก็กล่าวปฏิเสธการ التجسيم หรือการเข้าใจว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีอวัยวะ
@@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นคือการใช้ตรรกมโน ไม่มีนักปราชญ์สัลัฟท่านใด ตัดสินว่า การอิษบาต(ยืนยัน) ความหมายคุณลักษณะ(สิฟาต)อัลลอฮที่มีมาตามตัวบทโดยไม่อธิบายรูปแบบวิธีการและไม่เปรียบกับมัคลูคคือการตัจญสีม หรือให้รูปร่างแก่อัลลอฮอย่างที่อาชาอิเราะฮมุอตะซิละฮราชสีห์ข้างต้นอ้าง
ขอเรียนว่า
คำว่า "มุญัสสิมะฮ" ถุกนำมากล่าวหาคนที่ยืนยันบรรดาอายาตและหะดิษสิฟาต (อายะฮและหะดิษเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮ) ตามตัวบทไม่ตีความตามแนวอะฮลุลกาลาม โดยที่ผู้กล่าวหาใช้อารมณ์และอคติกล่าวหา ครั้งแล้วครั้งเล่า หรือจะทุกครั้งที่เขากล่าวหาวะฮบีย์ในเรื่องอะกีดะฮ โดยผู้กล่าวหาไม่ยอมอ่านและทำความเข้าใจที่ปราชญ์ยุคสะลัฟและเคาะลัฟที่ดำเนินตามแนวทางสะลัฟ อธิบายไว้ แต่มานั่งเทียนกล่าวหาพี่น้องมุสลิมส่วนหนึ่งอย่างอยุติธรรม
อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮกล่าวว่า
نحن نقول: إن الله سميع بصير كما أعلمنا خالقنا وبارؤنا، ونقول: من له سمع وبصر من بني آدم فهو سميع بصير، ولا نقول أن هذا تشبيه المخلوق بالخالق.
เราขอกล่าวว่า “แท้จริง อัลลอฮ เป็นผู้ทรงได้ยิน ทรงเห็น ดังที่ ผู้สร้างพวกเรา ได้บอกให้พวกเราได้รู้ และเราขอกล่าวว่า “ผู้ใดก็ตาม ที่มี การได้ยินและการเห็น จากลูกหลานอาดัม ว่า เขา คือ ผู้ได้ยิน ผู้เห็น และเราจะไม่กล่าวว่า นี้คือ การตัชบีฮ (การเปรียบว่าคล้ายคลึง) ของผู้ถูกสร้าง กับผู้สร้าง – ดู กิตาบุตเตาฮีด วะอิษบาตรซิฟาติรรอ็บ ของอิบนุคุซัยมะฮ เล่ม 1 หน้า 61
ทั้งนี้ เพราะการยืนยันสิฟาตตามที่อัลลอฮและรอซูลบอกไว้ โดยไม่ไปเปรียบเทียบกับมัคลูค ก็ไม่ถือว่า เป็นการตัชบิฮ หรือ เปรียบอัลลอฮกับมัคลูค
อบูอิสหาก อิบรอฮีม บิน ชากิลัน อัลหัมบะลีย์ (ฮ.ศ 369) ได้กล่าวกับ อบีสุลัยมาน อัดดัมชะกีย์ ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ตาม อิบนุกุลลาบ (หัวหน้ามุอฺตะซิละฮ) ในการโต้วาที ระหว่างทั้งสอง เมื่อ อบูสุลัยมานกล่าวกับเขาว่า
"أنتم المشبهة
พวกท่านคือ พวกมุชับบะฮฮะฮ
อิบนุชากิลัน(ฮ.ศ 369) กล่าวว่า
حاشا لله، المُشبِّه الذي يقول: وجهٌ كوجهِي، ويَدٌ كَيَدِي، فأما نحن فنقول: له وجهه، كما أثبت لنفسه وجهًا، وله يدٌ، كما أثبتَ لنفسه يَداً، {لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ} [الشورى : 11] ومن قال هذا فقد سَلِم.) (11
“เป็นไปไม่ได้” อัลมุชับบะฮะฮคือ ผู้ที่กล่าวว่า “ใบหน้า เหมือนใบหน้าของฉัน สำหรับเรานั้น เรากล่าวว่า พระองค์ทรงมีพระพักต์ของพระองค์ ดังที่พระองค์ ได้รับรอง คำว่าใบหน้า แก่พระองค์เอง และ พระองค์ทรงมีพระหัตถ์ ดังที่พระองค์ทรงรับรองคำว่ามือ แก่ตัวของพระองค์เอง (ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์นั้น คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น) และผู้ใดกล่าวแบบนี้ แน่นอนเขาปลอดภัย –(1)
...................
(1)طبقات الحنابلة لابن أبي يعلى (ج3 ص239)، قال: "قرأت بخط الوالد السعيد (أبو يعلى) قال: نقلتُ من خط أبي بكر بن شاقلا قال: أخبرنا أبو إسحاق بن شاقلا – قراءة عليه- قال: ... فذكر المناظرة
-------------------------ในภาพอาจจะมี ข้อความ
ข้างต้น หวังว่าคงชัดเจนว่า การรับรองความหมายที่ปรากฏตามตัวบท โดยไม่ได้ไปเปรียบเทียบ และไม่ได้เชื่อไปว่า เหมือนหรือคล้ายคลึงกับมัคลูคนั้น “ไม่ใช่มุชับบะฮะฮ” ตามที่ถูกกล่าวหาโดย อะชาอีเราะฮยุคหลัง
ดังนั้น เมื่อไม่ใช่เป็นการตัชบีฮ แล้วจะเป็นพวกมุญัสสิมะฮ หรือพวกให้รูปร่างแก่อัลลอฮได้อย่างไร
อิบนุอัลบะนา อัลหัมบะลี (ฮ.ศ. 417) กล่าวว่า
وأما المشبهة والمجسمة فهم الذين يجعلون صفات الله -عز وجل- مثل صفات المخلوقين، وهم كفار
และสำหรับ มุชับบะฮฮะฮ และมุญัสสิม นั้น พวกเขาคือ บรรดาผู้ที่ ให้คุณลักษณะ ของอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง และทรงเลิศยิ่ง เหมือนกับบรรดาลักษณะของมัคลูค และพวกเขาคือ บรรดากาเฟร - อัลมุคตัร ฟิอุศูลิดสุนนะฮ ของ อิบนุอัลบะนา หน้า 81
ไม่มีมุสลิมคนใด แม้แต่คนเดียว ที่ถูกฉายา ว่า “วาฮาบีย” มีความเชื่อว่า อัลลอฮ ทรงมีรูปร่างเหมือนกับมัคลูค เพราะ อัลลอฮ ซ.บ ได้สอนเขาแล้ว ว่าทรงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ดังอายะฮ
لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน พระองค์ และพระองค์คือ ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็นยิ่ง
คำว่า ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น “ คงไม่มีใคร เข้าใจว่า เหมือนการได้ยิน และการเห็นเหมือนมัคลูค และ บรรดาคุณลักษณะอื่น ก็เช่นกัน
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์กล่าวว่า
ليس يلزم من إثبات صفاته شيء من إثبات التشبيه والتجسيم، فإن التشبيه إنما يقال: يدٌ كيدنا ...
ส่วนหนึ่งจากการรับรองบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ นั้น ไม่จำเป็นว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการรับรองการตัชบิฮ(การคล้ายคลึง)และตัจญซีม(การมีรูปร่าง) เสมอไป ความจริงการตัชบิฮ(การเปรียบเทียบสิฟัตอัลลอฮกับมัคลูต)นั้น เช่น มือ เหมือนกับมือของเรา.....- อัลอัรบะอีน ฟี สิฟาติรอ็บบิลอาละมีน เล่ม 1 หน้า 104
............
การเชื่อตามความหมายตามที่ปรากฏในอัลกุรอ่านและหะดิษ โดยเชื่อว่าไม่เหมือนกับมัคลูค ไม่ถือว่า เป็นพวกมุชับบะฮฮะฮและมุญัสสิมะฮ ดังการกล่าวหาของอะชาอิเราะฮบางกลุ่ม เพียงแต่เป็นวาทกรรมใส่ร้ายโดยอธรรมเท่านั้น
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
16/7/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น