วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

ตรรกโกหกของกลุ่มแนวคิดมุอตะซิละฮ


ในภาพอาจจะมี 1 คน


ตรรกโกหกของกลุ่มแนวคิดมุอตะซิละฮ
วะฮาบีกลุ่มชนที่บิดอะห์ด้านอะกีดะห์ - Islam Iman Ihsan
13 มีนาคม เวลา 16:16 น. · 
เรื่อง •• “การเคลื่อนไหวและการนิ่ง”
(ความโง่ของวาฮาบีต่อวิชาอากีดะห์)
การเคลื่อนย้ายกับการนิ่ง มันคือคุณลักษณะที่ถูกควบคุมโดยผู้สร้างนะวาฮาบี ส่วนผู้สร้าง(ที่กอเด่ม)จะไม่ใช่แบบนั้น ก็เพราะว่ามันคือคุณลักษณะใหม่ที่อยู่กับสิ่งใหม่(คุณลองเคลื่อนไหวและลองนิ่งสิ)
ส่วนอัลลอฮผู้ทรงยิ่งใหญ่นั้น จะบริสุทธิ์เหนือจินตนาการของสมองสิ่งใหม่ คุณควรปล่อยวางได้แล้วโอ้พวกมุชับบีหะห์สลัฟแอบอ้างเอ๋ย
{วะบีนี่ชอบมโนจริงๆเนอะ}
พวกนักวิชาเกินชาวมุชับบีหะห์สอนคน จนกระทั่งคนเอาหว่ามบางคนยึดมั่นว่า **อัลลอฮมีที่อยู่ประจำ และเคลื่อนที่ไปยังที่ต่างๆ(อันเป็นสถานที่ๆไม่ประจำ)**
#นาอูซุบิลลาฮ{ขออัลลอฮห่างไกลจากแนวคิดมุชับบีหะห์นี้ด้วยเถิด}
อาการหนักทั้งอาจารย์ทั้งลูกหาบเลย มันไม่รู้หรือไง 
ว่าการเคลื่อนย้ายและการนิ่งนั้น มันคือสิฟัตใหม่(ที่อยู่กับสิ่งใหม่)
เป็นวาฮาบีนี่มั่วได้ใจจริงๆ ขอพวกเราทุกๆท่านได้ปลอดภัยจากแนวคิดของกลุ่มมุญัซซีมะห์มุชับบีหะห์ด้วยเถิด อามีน •
@@@
ชี้แจง
ความกลัวว่าคนจะรู้ว่าตนเองโกหก ความกลัวของคนขี้ขลาดที่ไม่กล้ายอมรับ ในสิ่งที่สร้างผลงานเอาไว้ จึงอาศัยชื่อปลอมตลอดกาล นี่คือ สันดานอาชาอเราะฮแนวคิดตรรกนิยาม ปรัชญาอริสโตเติ้ล
หม่ามชาฟีอี ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ กล่าวว่า
حُكْمِي فِي أهْلِ الكلاَمِ أنْ يُضْرَبُوا بِالْجَرِيْدِ وَالنِعَالِ وَيُطَافُ بِهِمْ فِي العَشَائِرِ وَالقَبَائِلِ وَيُقَالُ : هَذَا جَرَاءُ مَنْ تَرَكَ الكِتَابَ وَالسُنَّةَ وَأقْبَلَ عَلَى الكلاَمِ
“คำตัดสินของฉันเกี่ยวกับนักวิพากษ์นิยมนั้นคือ ให้หวดด้วยก้านอินผลัม และรองเท้า แล้วจับแห่รอบวงศาคณาญาติและชนเผ่าต่างๆ โดยให้กล่าวว่า นี่คือการตอบแทนของผู้ละทิ้งอัลกุรอานและซุนนะห์แล้วไปรับเอาวิชากะลาม” -ดู ซิยะรุ้ลอะอ์ลามิลนุบะลาอ์ 10/29
นาย นามนามปลอม "วะฮาบีกลุ่มชนที่บิดอะห์ด้านอะกีดะห์ "ที่น่าละอาย ใช้ตรรก และมโนว่า การเคลือนย้าย การนิ่ง เป็นสิฟัตมัคลูค ในที่สุดก็ปฏิเสธคุณลักษณะของอัลลอฮ ที่ท่านนบีได้กล่าวไว้ คือ สิฟัตอัลนุซูล ทำตัวเป็นนกรู้ อธิบายสิฟัตอัลลอฮ เกินจากที่นบีสอนไว้ นี่คือ ตรรกวิบัติของแนวคิดตรรกนิยามที่เดินตามก้นอะฮลุลกาลาม
ท่านอิมามบุคอรีย์และท่านอิมามมุสลิมได้บันทึกไว้ในตำราศอเฮี๊ยฮฺของท่านจากการราย งานของท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฏิฯ ความว่า
أن النبي صلى الله عليه وسلم قال: " ينزل رَبُّنَا تَبَارَكَ وَتَعَالَى كُلَّ لَيْلَةٍ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا حِينَ يَبْقَى ثُلُثُ اللَّيْلِ الآخِرُ يَقُولُ : مَنْ يَدْعُونِي فَأَسْتَجِيبَ لَهُ مَنْ يَسْأَلُنِي فَأُعْطِيَهُ مَنْ يَسْتَغْفِرُنِي فَأَغْفِرَ لَهُ"
“ท่านนบี ศ็อลฯ กล่าวว่า พระผู้อภิบาลจะเสด็จลงมา(นุซูล)ยังฟากฟ้าต่ำสุดในทุกค่ำคืนจนกระทั้งเหลือแค่ 1 ใน 3 สุดท้ายของกลางคืน โดยพระองค์จะทรงกล่าวว่า “ ผู้ใดวิงวอนต่อข้า ดังนั้นข้าจะตอบรับเขา และผู้ใดขอต่อข้า ข้าก็จะให้เขา และผู้ใดขออภัยโทษต่อข้า ก็จะอภัยโทษแก่เขา (หะดีษ บุคอรีย์ :1145, มุสลิม : 1261)
อิหม่ามกุรฏุบีย์ ซึ่ง อยู่ในสายอัชอะรีย์ กล่าวว่า
والذي عليه جمهور أئمة أهل السنة أنهم يقولون: يجيء وينزل ويأتي. ولا يكيفون لأنه "ليس كمثله شيء وهو السميع البصير
และ(ทัศนะ)ที่บรรดาอิหม่ามอะลิสสุนนะฮส่วนใหญ่ อยู่บนมัน แท้จริงพวกเขากล่าวว่า “ พระองค์เสด็จมา, เสด็จลงมา และ เสด็จมาถึง โดยที่พวกเขาไม่ได้อธิบายรูปแบบวิธีการ เพราะแท้จริง ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์ ทรงได้ยิน ทรงเห็นยิ่ง – ตัฟสีรอัลกุฏุบีย์ เล่ม 7 หน้า 145
...
ชาวสะลัฟนั้นเขาจะเชื่อและยอมรับในคุณลักษณะของอัลลอฮที่พระองค์ทรงอธิบายไว้และที่นบีของพระองค์อธิบายไว้ โดยไม่ถามว่าเป็นอย่างไรและไม่อธิบายรูปแบบว่าเป็นอย่างไร แต่ยืนยันตามที่มีมาตามตัวบทโดยไม่ตีความและไม่เปรียบเทียบกับมัคลูค
อิหม่ามอัดดาริมีย์(ฮ.ศ 280)กล่าวว่า
وَالآثَارُ الَّتِي جَاءَتْ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي نُزُولِ الرَّبِّ تَبَارَكَ وَتَعَالَى تَدُلُّ عَلَى أَنَّ اللَّهَ عَزَّ وَجَلَّ فَوْقَ السَّمَوَاتِ عَلَى عَرْشِهِ ، بَائِنٌ مِنْ خَلْقِهِ .
และบรรดาอาษัร ที่ มาจากรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ เกี่ยวกับ การเสด็จลงมาของพระเจ้า ผู้ทรงบริสุทธิ์และทรงสูงส่งนั้น แสดงบอกว่า "อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง อยู่เหนือบรรดาชั้นฟ้า บน บัลลังก์ ของพระองค์แยกจากมัคลูคของพระองค์ - ดู อัรร็อดอะลัลญะฮมียะฮ บาบอัลเอียะติญาบ หน้า 73 อธิบาย หะดิษหมายเลข 58
อิหม่ามอิบนุญะรีร (ร.ฮ) ปราชญนักตัฟสีรชาวสะลัฟ กล่าวว่า
وأنه سبحانه وتعالى يهبط كل ليلة وينزل إلى ‏السماء الدنيا,لخبر رسول الله صلى الله عليه وسلم
และแท้จริง พระองค์ (ซ.บ) ทรงลงมา ทุกค่ำคืน และจะเสด็จลงมา ยังฟากฟ้าดุนยา เพราะ การบอกเล่าของรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ -ดู อัตตับศีร ฟี มะอาลิมิดดีน หน้า 136 
........
แค่ส่วนหนึ่งจากหลักฐานยืนยันสิฟัตอัลนุซูลข้างต้น ก็แสดงให้เห็นว่า นาย นามปลอม วะฮาบีกลุ่มชนที่บิดอะห์ด้านอะกีดะห์ ข้างต้นใช้ตรรกปฏิเสธสิฟัตอัลลอฮตามที่มีมาและใช้ตรรกชงใส่ร้ายผู้ที่ยืนยันสิฟัตอัลนุซูลตามแนวทางสะลัฟ ซึ่งผู้ปฏิเสธ เป็นผู้เดินตามก้นของแนวคิดมุอตะซิละฮ ดังที่
ท่านอัล-อาญูรีย์ (ฮ.ศ360ْ)ได้กล่าวว่า
والإيمان بهذا واجب لا يسع المسلم العاقل أن يقول كيف ينزل , ولا يرد هذا إلا المعتزلة
และการศรัทธา ต่อเรื่องนี้นั้น เป็นวาญิบ ไม่เปิดโอกาสให้มุสลิมผู้มีสติปัญญา กล่าวว่า พระองค์ทรงเสด็จลงมาอย่างไร และไม่มีใครปฏิเสธ สิ่งนี้ นอกจากพวกมุอฺตะซิละฮ - กิตาบุชชะรีอะฮ หน้า 306 บทว่าด้วยเรื่อง 
باب الإيمان والتصديق بأن الله عزوجل ينزل إلى السماء الدنيا كل ليلة

@@@
เพราะฉะนั้น การมานั่งสมมุติฐานคิดเอาเองว่า ไม่ลงจากที่สูงลงต่ำ หรือเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะไม่จบที่คำสอน แต่คิดนอกกรอบเกินจากที่นบี ศอ็ลฯ ได้พรรณคุณลักษณะของอัลลอฮไว้ และการอ้างว่าการอิษบาตหะดิษเหล่านี้ คือการตัชบีฮ คือแนวคิดพวกญะฮมียะฮครับ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
16/3/61





 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น