การตะบัรรุกกับร่างกายและบรรดาร่องรอยเป็นกรณีเฉพาะกับท่านนบีเท่านั้น
ขอชี้แจงว่า การตะบัรรุก หรือ การขอความเจริญจากอัลลอฮ ด้วยบุคคลและร่องรอยของบุคคลคลนั้น เราไม่ได้ค้านเกี่ยวกับการตะบัรรุกต่อท่านนบี แต่กับคนอื่นเราไม่เห็นด้วย ดังหลังฐานข้างล่าง
อิหม่ามอัชชาติบีย์กล่าวว่า
الصحابة رضي الله عنهم بعد موته عليه الصلاة والسلام لم يقع من أحد منهم شيء من ذلك بالنسبة إلى من خلفه، إذ لم يترك النبي صلى الله عيه وسلم بعده في الأمة أفضل من أبي بكر الصديق رضي الله عنه، فهو كان خليفته، ولم يفعل به شيء من ذلك، ولا عمر رضي الله عنه، وهو كان أفضل الأمة بعده، ثم كذلك عثمان، ثم علي، ثم سائر الصحابة الذين لا أحد أفضل منهم في الأمة، ثم لم يثبت لواحد منهم من طريق صحيح معروف أن متبركا تبرك به على أحد تلك الوجوه أو نحوها ـ يقصد التبرك بالشعر والثياب وفضل الوضوء ونحو ذلك ـ، بل اقتصروا فيهم على الاقتداء بالأفعال والأقوال والسير التي اتبعوا فيها النبي صلى الله عيه وسلم ، فهو إذا إجماع منهم على ترك تلك الأشياء
บรรดาเศาะหาบะฮ (ร.ฎ)นั้น หลังจากที่นบี ศอ้ลฯ เสียชีวิต ก็ไม่ได้มีสิ่งใดๆ เกิดขึ้นจากคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเขา จากดังกล่าว(จากการตะบัรรุก) ด้วยการอ้างผู้ที่อยู่ยุคหลังจากท่านนบี ขณะที่ท่านนบี ศอ็ลฯ ไม่ได้ทิ้งไว้ ในอุมมะฮนี้ หลังจากท่านได้เสียชีวิต ที่ประเสริฐ ไปกว่า อบีบักรฺอัศศิดดีก (ร.ฎ) โดยที่เขาเป็นเคาะลิฟะฮของท่านนบี และไม่มีสิ่งใดถูกปฏิบัติกับเขา(อบูบักร) จากดังกล่าว (หมายถึงการตะบัรรุก) และ ไม่ได้ถูกปฏิบัติกับท่านอุมัร(ร.ฎ) โดยที่ท่านอุมัร เป็นอุมมะฮที่ประเสริฐ รองจากเขา(รองจากอบูบักร) ต่อมาก็ในทำนองเดียวกัน อุษมาน ,อาลี และบรรดาเศาะหาบะฮอื่นๆที่ไม่มีใครประเสริฐกว่าพวกเขาในอุมมะฮนี้ ต่อมา ไม่มีการยืนยัน สำหรับคนหนึ่งคนใดจากพวกเขา จากสายรายงานที่เศาะเฮียะ ที่เป็นที่รู้จัก ว่า ผู้ที่ทำการตะบัรรุก(ขอความเป็นบะเราะกัต) ได้ทำการตะบัรรุก กับเขา บนวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือในทำนองนั้น เจตนา ทำการตะบัรรุก(ขอความจำเริญ) ด้วยผม ,เสื้อผ้า ,น้ำเหลือจากการการอาบน้ำละหมาด และในทำนองนั้น แต่ทว่า พวกเขาได้พอเพียง บนการปฏิบัติตาม การกระทำและคำพูด และดำเนินตาม ที่พวกเขาได้ปฏิบัติตามนบี ศอ็ลฯ ในมัน ดังนั้น มันคือ มติเอกฉันท์จากพวกเขา(เหล่าเศาะหาบะฮ) บนการละทิ้งบรรดาสิ่งต่างๆดังกล่าวนั้น -อัลเอียะติศอม ๑/๓๑๐
………………………….
หลังจากท่านนบี ศอลฯ เสียชีวิต ก็ไม่มีเศาะหาบะฮคนใด ทำการตะบัรรุก กับอบูบัก ,อุมัร ,อุษมาน ,อาลี และเหล่าสาวกที่สำคัญๆเลย แต่ทว่า พวกเขาพอเพียงอยู่กับการเจริญรอยตามสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติตามนบี ศอลฯ ดังนั้น การละทิ้งจากการขอบะกัต(ตะบัรรุก) กับบุคคลที่นอกเหนือจากนบี จึงเป็นอิจญมาอฺจากเหล่าเศาหาบะฮ
อิบนุเราะญับ(ร.ฮ)กล่าวว่า
………………………….
หลังจากท่านนบี ศอลฯ เสียชีวิต ก็ไม่มีเศาะหาบะฮคนใด ทำการตะบัรรุก กับอบูบัก ,อุมัร ,อุษมาน ,อาลี และเหล่าสาวกที่สำคัญๆเลย แต่ทว่า พวกเขาพอเพียงอยู่กับการเจริญรอยตามสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติตามนบี ศอลฯ ดังนั้น การละทิ้งจากการขอบะกัต(ตะบัรรุก) กับบุคคลที่นอกเหนือจากนบี จึงเป็นอิจญมาอฺจากเหล่าเศาหาบะฮ
อิบนุเราะญับ(ร.ฮ)กล่าวว่า
وكذلك التبرك بالآثار؛ فإنما كان يفعله الصحابة رضي الله عنهم مع النبي صلى الله عليه وسلم ولم يكونوا يفعلونه مع بعضهم ببعض ولا يفعله التابعون مع الصحابة، مع علو قدرهم. فدل على أن هذا لا يفعل إلا مع النبي صلى الله عليه وسلم مثل: التبرك بوضوئه وفضلاته وشعره وشرب فضل شرابه وطعامه.
และในทำนองเดียวกันนั้น การตะบัรรุก(การขอความจำเริญ) ด้วยบรรดาร่องรอย ความจริงปรากฏว่า บรรดา เศาะหาบะฮ (ร.ฎ) ได้กระทำมัน(ได้ทำการตะบัรรุก) กับท่านนบี ศอ็ลฯ โดยที่พวกเขา(เหล่าเศาะหาบะฮ)ไม่ได้ กระทำมัน (ไม่ได้ตะบัรรุก) ต่อกันและกัน ,บรรดาตาบีอีน ไม่ได้กระทำการตะบัรรุก ต่อเศาะหาบะฮ ทั้งที่พวกเขามีฐานะที่สูง ก็แสดงให้เห็นว่า กรณีนี้ (หมายถึงการขอบะเราะกัต) มันจะไม่ถูกปฏิบัติ นอกจาก ต่อท่านนบี ศอ็ลฯเท่านั้น เช่น การตะบัรรุก (เอาบะเราะกัต)ด้วยน้ำละหมาดนบี ,น้ำที่เหลือจากนบี ,เส้นผมนบี ,เครื่องดื่มนบี ,เครื่องดื่มที่เหลือของนบี และอาหารของท่าน
- อัลญะดีเราะฮ บิล อิซาอะฮ หน้า 55 ของอิบนุเราะฮญับ (ดูสำเนาที่แนบมา)
- อัลญะดีเราะฮ บิล อิซาอะฮ หน้า 55 ของอิบนุเราะฮญับ (ดูสำเนาที่แนบมา)
..............
ข้างต้น อิบนุเราะญับได้ยืนยันว่า ในสมัยนบี ศอ็ลฯ บรรดาเศาะหาบะฮได้ทำการตะบัรรุก หมายถึงขอความจำเริญต่ออัลลอฮ ต่อ ตัวนบี เส้นผมนบี หรืออื่นๆของนบี ศอ็ลฯ แต่พวกเขาไม่ได้ทำการตะบัรรุกต่อเศาะบะฮด้วยกัน และพวกตาบิอีน ที่เป็นสานุศิษย์ ของเศาะหาบะฮ ก็ไม่ได้ทำการตะบัรรุก ต่อ เศาะหาบะฮ นี้แสดงถึงเป็นกรณีเฉพาะนบี
การตะบัรรุก เป็นอิบาดะฮ หลักการอิบาดะฮ ต้อง หยุดอยู่คำสั่ง และปฏิบัติตาม ไม่ใช่คิดแนวทางคำสอนเอง แล้วไปตะบุรรุกกับคนนั้นคนนี้ โดยที่ไม่มหลักฐานสอนไว้
อะสัน หมัดอะดั้ม
13/1/63
13/1/63
เอกสารอ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น