

การสอนศาสนาเอาค่าตอบแทนได้หรือไม่
อาชาอีเราะห์มะตุรีดี อะลิ้ฮัก ได้แชร์โพสต์ของคุณ
11 ชม.
..........
ลองโพสแชร
อีกครั้งเพือจะได้รับ อนุมัตจากแอดมิน
ถ้าโดนลบ โพสแชรนี้อีก
ผมขอออกจากกลุมนี้ทันที อินชาอัลลอฮ
######฿######
วะฮาบีนี้ก็แปลกดีเนอะ เงินทีชัดเจน ว่าฮาล้าล แต่กลับไม่เอา ถ้าเขา (วะฮาบี). อยากได้ผลบุญจริงๆ ทำไหมคนเขา(วะฮาบี)สอนศาสนา แต่กลับเอาค่าจ้าง หรือว่า เพราะทุกๆเดือน เขาไห้เยอะ เลยไม่กล้าปฎิเสข ใช้ไหมวะฮาบี.........
11 ชม.
..........
ลองโพสแชร
อีกครั้งเพือจะได้รับ อนุมัตจากแอดมิน
ถ้าโดนลบ โพสแชรนี้อีก
ผมขอออกจากกลุมนี้ทันที อินชาอัลลอฮ
######฿######
วะฮาบีนี้ก็แปลกดีเนอะ เงินทีชัดเจน ว่าฮาล้าล แต่กลับไม่เอา ถ้าเขา (วะฮาบี). อยากได้ผลบุญจริงๆ ทำไหมคนเขา(วะฮาบี)สอนศาสนา แต่กลับเอาค่าจ้าง หรือว่า เพราะทุกๆเดือน เขาไห้เยอะ เลยไม่กล้าปฎิเสข ใช้ไหมวะฮาบี.........
..............
ชี้แจง
สืบเนื่องมาจาก มีคนบางกลุ่มรับไม่ได้ที่ผมเสนอแนะว่า ละหมาดญะนาซะฮ ไม่ควรเอาค่าตอบแทน หรือไม่ควรแจกตังค์ ควรที่จะให้ครอบครัวผู้ตายได้มีเงินเหลือเก็บ ไว้เลี้ยงครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวหญิงหม้ายและเด็กกำพร้า เมื่อคนกลุ่มนี้รับไม่ได้ก็มีการออกมาคัดค้าน ด่าทอ และพยายามหาทางดิสเครดิตผู้เขียน ส่วนรายข้างต้น นี้ เอาการเรียนการสอนที่เอาค่าจ้าง ค่าตอบแทนมาเทียบกับ การละหมาดญานาซะฮ ว่ารับตังค์ได้ เป็นของหะลาล
จึงขอชี้แจงดังต่อไปนี้
การเรียนวิชา ศาสนา และการสอนวิชาศาสนา เป็นเรื่องศาสนา และเป็นหน้าที่ทุกคนต้องเรียน และผู้มีความมรู้ต้องสอน แต่
ส่วนรูปแบบการจัดการเรียนการสอน นั้น เป็นกลยุทธหรือ วิธีการ นั้น หลากหลาย โรงเรียน หนังสือ ปากกา ดินสอ กระดานบอร์ด โปรเจ็คเตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นดุนยา ที่เรานำมาเป็นสื่อ ช่วยการเรียนการสอนซึ่งเป็นศาสนา ให้มีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องเอาค่าจ้างในการสอนนั้น ไม่ผิด เพราะคนสอนไม่ใช่มลาอิกะฮ ต้องกินต้องดื่ม และเลี้ยงครอบครัว
ท่านนบี กล่าวว่า
ส่วนรูปแบบการจัดการเรียนการสอน นั้น เป็นกลยุทธหรือ วิธีการ นั้น หลากหลาย โรงเรียน หนังสือ ปากกา ดินสอ กระดานบอร์ด โปรเจ็คเตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นดุนยา ที่เรานำมาเป็นสื่อ ช่วยการเรียนการสอนซึ่งเป็นศาสนา ให้มีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องเอาค่าจ้างในการสอนนั้น ไม่ผิด เพราะคนสอนไม่ใช่มลาอิกะฮ ต้องกินต้องดื่ม และเลี้ยงครอบครัว
ท่านนบี กล่าวว่า
إنَّ أَحَقَّ مَا أَخَذْتم عَلَيْهِ أَجْراَ كِتَاب الله
แท้จริงสิ่งที่พวกท่านสมควรจะเอาค่าตอบแทนคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ
لا خلاف بين الفقهاء في جواز أخذ الرِّزق من بيت المال على تعليم القرآن ، وتدريس علم نافع
ไม่มีการขัดแย้งระหว่างนักกฎหมายอิสลาม ในการอนุญาตให้เอาริชกี(ปัจจัยยังชีพ)จากบัยตุลมาล เป็นค่าสอนอัลกุรอ่านและการเรียนวิชาที่มีประโยชน์ –เมาสูอฺอัลฟิกฮียะฮ เล่ม 13 หน้า 14
อิหม่ามนะวาวีย์ได้อธิบายหะดิษข้างต้น โดยกล่าวว่า
هذا تصريح بجواز أخذ الأجرة على الرقية ، بالفاتحة ، والذِّكر , وأنها حلال لا كراهة فيها , وكذا الأجرة على تعليم القرآن , وهذا مذهب الشافعي ، ومالك ، وأحمد ، وإسحاق ، وأبي ثور ، وآخرين من السلف , ومَن بعدهم
นี้คือ ความชัดเจน เกี่ยวกับอนุญาตให้เอาค่าตอบแทน การปัดเป่า ด้วยฟาติหะฮและซิกีร และแท้จริงมัน หะลาล ไม่มักรูฮในมัน และในทำนองเดียวกัน การเอาค่าตอบแทน การสอนอัลกุรอ่าน และนี้คือ ทัศนะของ ชาฟิอี,มาลิก,อะหมัด,อิสหาก,อบีษูร ,บรรดาคนอื่นๆจากชาวสะลัฟ และผู้ที่อยู่ยุคหลังจากพวกเขา – ดู ชัรหุมุสลิม เล่ม 14 หน้า 188
อิบนุอะซูร กล่าวว่า
أن الجمهور من العلماء أجازوا أخذ الأجر على تعليم القرآن فضلاً عن الفقه والعلم فقال بجواز ذلك الحسن وعطاء والشعبي وابن سيرين ومالك والشافعي وأحمد وأبو ثور والجمهور ، وحجتهم في ذلك الحديث الصحيح عن ابن عباس أن النبي صلى الله عليه وسلم قال ( إن أحق ما أخذتم عليه أجراً كتاب الله
แท้จริง ชนส่วนมากจากบรรดานักวิชาการ พวกเขาอนุญาตให้เอาค่าจ้างสอนอัลกุรอ่านได้ เช่นเดียวกับ ฟิกฮและวิชาความรู้ ดังนั้น ที่กล่าวว่าอนุญาตดังกล่าวคือ อัลหะซัน ,อะฏออฺ, อิบนุสิรีน ,มาลิก,ชาฟิอี ,อะหมัด ,อบูษูรและบรรดานักวิชาการส่วนมาก และหลักฐานของพวกเขาในเรื่องดังกล่าวนั้นคือ หะดิษเศาะเฮียะ รายงานจากอิบนุอับบาสว่า แท้จริง นบี ศอ็ลฯกล่าวว่า (แท้จริงสิ่งที่สมควรจะอาค่าจ้างบนมันคือ กิตาบุลละฮ “ – ดู อัตตะหรีร วัตตันวีร เล่ม 1 หน้า 467
عَنْ الْوَضِينِ بْنِ عَطَاءٍ قَالَ : كَانَ بِالْمَدِينَةِ ثَلَاثَةُ مُعَلِّمِينَ يُعَلِّمُونَ الصِّبْيَانَ ، فَكَانَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ يَرْزُقُ كُلَّ وَاحِدٍ مِنْهُمْ خَمْسَةَ عَشَرَ كُلَّ شَهْرٍ
รายงานจากอัลวะฎีน บิน อะฏออฺ กล่าวว่า “ ปรากฏว่าที่นครมะดีนะฮมีครูสอนเด็กๆ สามคน แล้วปรากฏว่า อุมัร บิน คอฏฏอ็บ จ่ายปัจจัยยังชีพให้แต่ละคนจากพวกเขา จำนวนสิบห้าต่อเดือน – ดู อัลมุศอ็นิฟ ของอิบนุอบีชัยบะฮ กิตาบุลบุยูอฺ เรื่อง ค่าจ้างผู้สอน เล่ม 5 หน้า 98
روي عن عبد الجبار بن عمر أنه قال: "كل من سألت من أهل المدينة لا يرى بتعليم الغلمان بالأجر بأساً"
รายงานจากอับดุลญับบาร บิน อุมัร ว่า เขากล่าวว่า ทุกคนที่ถูกถามจากชาวมะดีนะฮ เขาไม่เห็นว่าการสอนเด็กเอาค่าจ้างนั้น เป็นความผิด – ดู ที่มาข้างล่าง (1)
....................
(1) رواه مالك، بن أنس الأصبحي، المدونة الكبرى، تحقيق: حمدي الدمرداش، مكتبة نزار الباز، الرياض، ط1، 1419ه/1999م، ج5، ص1691، ك: الجعل والإجارة، ب: في إجارة المعلم.
___
ส่วนการละหมาดญะนาซะฮ ซึ่งเป็นตัวอิบาดะฮ ไม่ปรากฏว่ามีคำสอนส่งเสริมให้เอาค่าตอบแทน ไม่ปรากฏแบบอย่างจากอัสสุนนะฮ ที่ส่งเสริมให้ครอบครัวผู้ตายแจกตังค์ หรือทรัพย์สิน หรือ
อาหารแก่ ผู้ที่ไปเชิญมาใหละหมาดญะนาซะฮ แม้แต่อักษรเดียว
(1) رواه مالك، بن أنس الأصبحي، المدونة الكبرى، تحقيق: حمدي الدمرداش، مكتبة نزار الباز، الرياض، ط1، 1419ه/1999م، ج5، ص1691، ك: الجعل والإجارة، ب: في إجارة المعلم.
___
ส่วนการละหมาดญะนาซะฮ ซึ่งเป็นตัวอิบาดะฮ ไม่ปรากฏว่ามีคำสอนส่งเสริมให้เอาค่าตอบแทน ไม่ปรากฏแบบอย่างจากอัสสุนนะฮ ที่ส่งเสริมให้ครอบครัวผู้ตายแจกตังค์ หรือทรัพย์สิน หรือ
อาหารแก่ ผู้ที่ไปเชิญมาใหละหมาดญะนาซะฮ แม้แต่อักษรเดียว
มาดูฟัตวาสภาอุลามาอฺ ของประเทศซาอุดี้อาราเบียดังนี้
يجوز لك أن تأخذ أجراً على تعليم القرآن ؛ فإن النبي صلى الله عليه وسلم زوَّج رجلا امرأة بتعليمه إياها ما معه من القرآن ، وكان ذلك صداقها ، وأخذ الصحابي أجرة على شفاء مريض كافر بسبب رقيته إياه بفاتحة الكتاب ، وقال في ذلك النبي صلى الله عليه وسلم : ( إن أحق ما أخذتم عليه أجرا كتاب الله ) أخرجه البخاري ومسلم ، وإنما المحظور : أخذ الأجرة على نفس تلاوة القرآن ، وسؤال الناس بقراءته" انتهى .
อนุญาตแก่ท่าน เอาค่าจ้างในการสอนอัลกุรอ่าน เพราะแท้จริง นบี ศอ็ลฯ ได้จัดการแต่งงานชายคนหนึ่ง กับผู้หญิงคนหนึ่ง ด้วยการให้เขาสอนอัลกุรอ่านที่เขาจำ ให้แก่นาง และดังกล่าวนั้น เป็นสินสอดของนาง และเศาะหาบะฮ ได้เอาค่าตอบแทน บนการรักษาผู้ป่วยที่เป็นกาเฟร ด้วยสาเหตุที่เขาได้ทำการปัดเป่า เขาผู้นั้นด้วยซูเราะฮอัลฟาติหะฮ และท่านนบี ได้กล่าวในกรณีนั้นว่า(
แท้จริงสิ่งที่พวกท่านสมควรจะเอาค่าตอบแทนคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ) บันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม และความจริง สิ่งที่ถูกห้ามคือ การเอาค่าจ้าง /ค่าตอบแทน บนตัวของการอ่านอัลกุรอ่าน และการขอทานกับผู้คนด้วยการอ่านอัลกุรอ่าน - ดู
แท้จริงสิ่งที่พวกท่านสมควรจะเอาค่าตอบแทนคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ) บันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม และความจริง สิ่งที่ถูกห้ามคือ การเอาค่าจ้าง /ค่าตอบแทน บนตัวของการอ่านอัลกุรอ่าน และการขอทานกับผู้คนด้วยการอ่านอัลกุรอ่าน - ดู
الشيخ عبد العزيز بن باز ، الشيخ عبد الرزاق عفيفي ، الشيخ عبد الله بن غديان ، الشيخ عبد الله بن قعود .
" فتاوى اللجنة الدائمة " ( 15 / 96 )
" فتاوى اللجنة الدائمة " ( 15 / 96 )
..............
เพราะฉะนั้น ต้องแยกให้ถูกระหว่างการสอนวิชาความรู้ กับการทำอิบาดะฮหรือทำพิธีกรรมศาสนา ว่าอะไรที่เอาค่าตอบแทนได้และอะไรเอาไม่ได้ ไม่ใช่เหมารวม หรือออกมาตีโพยตีพาย จนเกินงานเพียงแค่สูญเสียผลประโยชน์เล็กๆน้อย และต้อขอมาอัฟที่ต้องเขียนชี้แจง เพราะเพื่อให้เป็นข้อพิจารณษสำหรับผู้แสวงหาสัจธรรมและมีหัวใจอิคลาศต่ออัลลอฮตาอาในการนับถือศาสนา
.............
และขอเตือน กลุ่มอาชาอิเราะฮบางกลุ่มที่คิดทำลายผมด้วยการฟิตนะฮให้ร้ายผมต่างๆนานา เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม แต่ความจริงย่อมเป็นความจริงเสมอ
เพราะฉะนั้น ต้องแยกให้ถูกระหว่างการสอนวิชาความรู้ กับการทำอิบาดะฮหรือทำพิธีกรรมศาสนา ว่าอะไรที่เอาค่าตอบแทนได้และอะไรเอาไม่ได้ ไม่ใช่เหมารวม หรือออกมาตีโพยตีพาย จนเกินงานเพียงแค่สูญเสียผลประโยชน์เล็กๆน้อย และต้อขอมาอัฟที่ต้องเขียนชี้แจง เพราะเพื่อให้เป็นข้อพิจารณษสำหรับผู้แสวงหาสัจธรรมและมีหัวใจอิคลาศต่ออัลลอฮตาอาในการนับถือศาสนา
.............
และขอเตือน กลุ่มอาชาอิเราะฮบางกลุ่มที่คิดทำลายผมด้วยการฟิตนะฮให้ร้ายผมต่างๆนานา เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม แต่ความจริงย่อมเป็นความจริงเสมอ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
4/5/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
4/5/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น