
การบ้าคลั่งเล่นพรรคเล่นพวกโดยทิ้งสาระคำสอนไว้เบื้องหลัง
สังคมมุสลิมในปัจจุุบัน เท่าที่สังเกตุ การนับถือศาสนา อ้างศรัทธาต่ออัลลอฮตาอาลาและรอซูล ศอ็ลฯ กันทุกคน แต่การยึดถือ กลับเป็นยึดตัวบุคคล มากว่า สาระคำสอนขออัลลอฮและรอซูล เป็นมิตร และเป็นศัตรูกันบนการปกป้องตัวบุคคล องค์กร และพรรคพวก แทนที่จะเป็นมิตรและเป็นศัตรูกัน บนการปกป้องคำสอนอันบริสุทธิ์ที่มาจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ แบบนี้ ลองถามตัวเองดูว่า "ในวันอาคีเราะฮจะได้เป็นกลุ่มชนที่ปลอดภัย(الفرقة الناجية ) จริงหรือ?
กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าชาวสุนนะฮในปัจจุบัน มีไม่น้อย ที่คลั่งใคล้ บ้าคลั่งกับตัวบุคคล เล่นพรรคเล่นพวก อาจารย์ใครอาจารย์มัน ผลที่ตามมาคือ คนนั้นบรรยายฉันไม่ฟัง คนนี้บรรยายฉันไม่สน ไม่ใช่พวกเรา ไม่ใช่ไอดอลของฉัน ฉันจะตามติดไอดอล(Idol) ของฉันเท่านั้น
การปฏิบัติตามผู้ใดก็ตาม ศาสนาสอนให้ดูที่สาระคำสอน ไม่ใช่ดูที่ ฐานะ รูปร่าง และความนิยมของสังคม หรือมวลชนส่วนมาก ไม่ใช่พิจารณาที่กระแสสังคม
ท่านนบี ศอ็ลฯ สอนเกี่ยวกับให้เชื่อฟังผู้นำว่า
إن أُمِّر عليكم عبدٌ مجدَّع- يقودكم بكتاب الله تعالى فاسمعوا له وأطيعوا
หากทาสที่จมูกแหว่ง ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองพวกท่าน เขานำพวกท่านด้วยคัมภีร์ของอัลลอฮ ตาอาลา ก็จงรับฟังและเชื่อฟังเขา - รายงานโดยมุสลิม
......
ตัวอย่างข้าง ชี้ให้เห็นว่า การจะตามผู้ใด ก็ให้พิจารณาที่สาระคำสอนที่เขานำมา ไม่ใช่ยึดที่สถานะ ของบุคคล
......
ตัวอย่างข้าง ชี้ให้เห็นว่า การจะตามผู้ใด ก็ให้พิจารณาที่สาระคำสอนที่เขานำมา ไม่ใช่ยึดที่สถานะ ของบุคคล
ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ กล่าวว่า
وَلَيْسَ لأَحَدٍ أَنْ يَنْصِبَ لِلأُمَّةِ شَخْصًا يَدْعُوْ إِلى طَرِيقَتِهِ وَيُوَالِيْ وَيُعَادِيْ عَلَيهَا غَيْرَ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّمَ، وَلا يَنْصِبَ لَهُمْ كَلامًا يُوَالِيْ عَلَيهِ وَيُعَادِيْ غَيْرَ كَلامِ اللهِ وَرَسُولِهِ وَمَا اجْتَمَعَتْ عَلَيهِ الأُمَّةُ، بَلْ هَذَا مِن فِعْلِ أَهْلِ الْبِدَعِ الَّذِينَ يَنْصِبُونَ لَهُمْ شَخْصًا أَوْ كَلامًا يُفَرِّقُونَ بِهِ بَيْنَ الأُمَّةِ يُوَالُونَ بِهِ عَلَى ذَلِكَ الْكَلامِ أَوْ تِلْكَ النِّسْبَةِ وَيُعَادُونَ"
และไม่อนุญาตให้คนใด กำหนด/แต่งตั้ง บุคคลใดให้แก่อุมมะฮ ที่เรียกร้องไปสู่แนวทางของเขา เป็นมิตรและเป็นศัตรูกันบนแนวทางนั้น อื่นจาก(แนวทาง)ท่านนบี ศ็อลฯ และไม่อนุญาตให้กำหนดคำพูด(ทัศนะ) ใดๆให้แก่พวกเขา(อุมมะฮ) เขาเป็นมิตรและเป็นศัตรูกันบนคำพูดนั้น อื่นจากคำพูดของอัลลอฮ ,คำพูดของ รอซูลของพระองค์ และสิ่งที่ อุมมะฮนี้ได้มีมติบนมัน (อัลอิจญมาอ) ยิ่งไปกว่านั้น พฤติกรรมนี้ (การยึดติดตัวบุคคลหรือคำพูดของบุคคล) เป็นส่วหนึ่งจากการกระทำของชาวบิดอะฮ ที่พวกเขากำหนดตัวบุคคลหรือคำพูดใดๆ ให้แก่พวกเขา พวกเขาทำให้เกิดการแตกแยกในระหว่างอุมมะฮ ด้วยมัน พวกเขาเป็นมิตรและเป็นศัตรูกัน บนคำพูดหรือ การอ้างอิงดังกล่าวนั้น -มัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม 20 หน้า 164
............
จะให้ได้ว่า การแตกแยกของอุมมะฮอิสลาม คือ การยึดตัวบุคคล หรือ ทัศนะของเขา โดยไม่ดูสาระคำสอนของอัลลอฮ ,ของรอซูลของพระองค์ ให้เป็น สาระสำคัญที่ต้องยึดถือ เพราะทั้งสองคือ เป้าหมายของสองคำปฏิญาน แต่ยึดครูของฉัน อาจารย์ของฉันแบบหัวหนวกตาบอดและบ้าคลั่ง ..ช่างน่าอดสูยิ่งนัก
และไม่อนุญาตให้คนใด กำหนด/แต่งตั้ง บุคคลใดให้แก่อุมมะฮ ที่เรียกร้องไปสู่แนวทางของเขา เป็นมิตรและเป็นศัตรูกันบนแนวทางนั้น อื่นจาก(แนวทาง)ท่านนบี ศ็อลฯ และไม่อนุญาตให้กำหนดคำพูด(ทัศนะ) ใดๆให้แก่พวกเขา(อุมมะฮ) เขาเป็นมิตรและเป็นศัตรูกันบนคำพูดนั้น อื่นจากคำพูดของอัลลอฮ ,คำพูดของ รอซูลของพระองค์ และสิ่งที่ อุมมะฮนี้ได้มีมติบนมัน (อัลอิจญมาอ) ยิ่งไปกว่านั้น พฤติกรรมนี้ (การยึดติดตัวบุคคลหรือคำพูดของบุคคล) เป็นส่วหนึ่งจากการกระทำของชาวบิดอะฮ ที่พวกเขากำหนดตัวบุคคลหรือคำพูดใดๆ ให้แก่พวกเขา พวกเขาทำให้เกิดการแตกแยกในระหว่างอุมมะฮ ด้วยมัน พวกเขาเป็นมิตรและเป็นศัตรูกัน บนคำพูดหรือ การอ้างอิงดังกล่าวนั้น -มัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม 20 หน้า 164
............
จะให้ได้ว่า การแตกแยกของอุมมะฮอิสลาม คือ การยึดตัวบุคคล หรือ ทัศนะของเขา โดยไม่ดูสาระคำสอนของอัลลอฮ ,ของรอซูลของพระองค์ ให้เป็น สาระสำคัญที่ต้องยึดถือ เพราะทั้งสองคือ เป้าหมายของสองคำปฏิญาน แต่ยึดครูของฉัน อาจารย์ของฉันแบบหัวหนวกตาบอดและบ้าคลั่ง ..ช่างน่าอดสูยิ่งนัก
وَمَنْ قَاتَلَ تَحْتَ رَايَةٍ عِمِّيَّةٍ يَغْضَبُ لِعَصَبَةٍ، أَوْ يَدْعُو إِلَى عَصَبَةٍ، أَوْ يَنْصُرُ عَصَبَةً، فَقُتِلَ، فَقِتْلَةٌ جَاهِلِيَّةٌ،
ผู้ใดต่อสู้กันภายใต้ธงแห่งความมืดบอด เรียกร้องไปสู่การถือพรรค์ถือพวก หรือ สนับสนุนการถือพรรคถือพวก แล้วเขาถูกฆ่าตาย (การตายของเขา)คือการตายในสภาพญาฮิลียะฮ -รายงานโดยมุสลิม
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
10/5/61
อะสัน หมัดอะดั้ม
10/5/61
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น