วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

อันตรายของการพูดเกี่ยวกับศาสนาด้วยความคิดเห็น




อันตรายของการพูดเกี่ยวกับศาสนาด้วยความคิดเห็นแล้วชี้นำคนอื่นให้ปฏิบัติ
ท่าน อะหมัด มุสเฏาะฟา อัลมะรอฆีย์ ได้กล่าวไว้ในตัฟสีรของท่านว่า
إنه لا ينبغى لأحد أن يحرّم شيئا تحريما دينيا على عباد الله أو يوجب عليهم شيئا إلا بنص صريح عن الله ورسوله، ومن تهجم على ذلك فقد جعل نفسه شريكا لله، ومن تبعه فى ذلك فقد جعله رباله، ومن ثم كان فقهاء الصحابة والتابعين يتحامون القول فى الدين بالرأى
แท้จริงไม่สมควรแก่บุคคลใด กำหนดสิ่งใด เป็นข้อห้ามที่เกี่ยวกับศาสนา แก่บรรดาบ่าวของอัลลอฮ หรือ กำหนดสิ่งใดเป็นวาญิบ เหนือพวกเขา ยกเว้น ด้วยตัวบทที่ชัดเจน จากอัลลอฮ และรอซูลของพระองค์ และผู้ใดเลยเถิดบนดังกล่าวนั้น แน่นอน เขาได้กำหนดตัวเขาเองให้เป็นภาคีต่ออัลลอฮและผู้ใดปฏิบัติตามเขาผู้นั้น ในดังกล่าวนั้น แน่นอนเขาได้กำหนดเขาผู้นั้นให้เป็นพระเจ้าของเขา และเพราะเหตนี้ บรรดานักกฏหมายอิสลาม(ฟะเกาะฮาอฺ) ที่เป็นเศาะหาบะฮและตาบีนอีน พวกเขา หลีกเหลี่ยงการกล่าวในเรื่องศาสนาด้วยความคิดเห็น - ดูตัฟสีรอัลมะรอฆีย์ เล่ม 8 หน้า 140
............
สรุปคือ
1.ไม่ควรกล่าวว่าสิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นหะรอม หรือเป็นวาญิบในทางศาสนา ยกเว้นมีตัวบทหลักฐานที่ชัดเจนจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ
2.ใครก็ตามที่ได้กระทำการละเมิดดังกล่าว โดยอ้างว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้หะรอม หรือเป็นข้อบังคับ โดยไม่มีหลักฐาน เท่ากับว่า เขาได้กำหนัดตัวเองให้เป็นภาคีต่ออัลลอฮ
3. ใครก็ตามปฏิบัติตามผู้ใดที่อ้างเรื่องศาสนาที่ไม่มีตัวบทหลักฐาน ก็เท่ากับว่าเขายึดผู้นั้นเป็นพระเจ้า
4. บรรดาปราชญ์ฟุเกาะฮาอฺ ที่เป็นเศาะหาะฮและตาบิอีน พวกเขาหลีกเลี่ยงการกล่าวเรื่องศาสนาด้วยความคิดเห็น
...............
เพราะฉะนั้น การอ้างสิ่งใดว่าเป็นเป็นศาสนา เป็นวาญิบ เป็นสุนัต เป็นสุนนะฮ แล้วชี้นำคนอาวาม โดยไม่มีหลักฐานชัดเจนมารองรับ ระวังเข้าข่ายทำตนเทียบเคียง (ชิริก)ต่ออัลลอฮ และการตามความคิดเห็นแบบหูหนวกตาบอดของผู้รู้โดยปราศจากหลักฐานระวังจะเข้าข่ายยึดโต๊ะครูหรืออาจารย์เป็นพระเจ้านะครับ โดยเฉพาะการหลงผูรู้ เหมือนพวกแฟสคลับหลงดาราทีวี
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
15/9/61
เอกสารอ้างอิง
 à¹ƒà¸™à¸ à¸²à¸žà¸­à¸²à¸ˆà¸ˆà¸°à¸¡à¸µ ข้อความ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น