ตัวอย่างตรรกตามนัฟซูที่นำไปสู่การเป็นกาเฟร

ตัวอย่างตรรกตามนัฟซูที่นำไปสู่การเป็นกาเฟร

แบมะ เจะเมะ เจะเมะ ผมไม่เชื่อตามวะฮะบีย์ทีโกหกว่า ชาตของอัลลอฮเสด็จหรือเดินลงมาจากฟากฟ้าทุกคำคืนของเศษหนึ่งในสาม มายังฟ้าดุนยา

มีแต่ความคิดหรือตรรกกะโง่ๆของวะฮะบีย์เท่านั้นทีคิดแบบนั้น โดยไม่รับความรุ้ของอุลามะทีรุ่มากกว่าตน
.................................
ชี้แจง

ข้างต้นคือ อันตรายของการตักลิดหูหนวกตาบอด ตามแนวคิดญะฮมียะฮ โดยการปฏิเสธหะดิษเศาะเฮียะ เพียงเพื่อรักษาแนวคิดของตนที่ปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ

คุณ แบมะ เจะเมะ เจะเมะ คุณจะแอบซ่อนอยู่ในรู หรือในชื่อปลอม หรือจะอยู่ส่วนใหนของโลก อัลลอฮตาอาลาทรงรู้พฤติกรรมและการกระทำของคุณ ถ้าคุณจงใจเจตนาปฏิเสธหะดิษหลังจากที่หะดิษเศาะเฮียะได้ปรากฏต่อสายตาแล้ว คุณ คือ กาเฟร ออกจากอิสลาม –วัลอิยาซูบิลละฮ เตาบัตเถอะครับ หากคุณรักอิสลาม 
เพราะหะดิษอัลนุซูล เป็นหะดิษเศาะเฮียะ รายงานจากท่านนบีคือ
ท่านอิมามบุคอรีย์และท่านอิมามมุสลิมได้บันทึกไว้ในตำราศอเฮี๊ยฮฺของท่านจากการราย งานของท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฏิฯ ความว่า

عن أبي هريرة رضي الله عنه ، أن النبي صلى الله عليه وسلم قال: " ينزل رَبُّنَا تَبَارَكَ وَتَعَالَى كُلَّ لَيْلَةٍ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا حِينَ يَبْقَى ثُلُثُ اللَّيْلِ الآخِرُ يَقُولُ : مَنْ يَدْعُونِي فَأَسْتَجِيبَ لَهُ مَنْ يَسْأَلُنِي فَأُعْطِيَهُ مَنْ يَسْتَغْفِرُنِي فَأَغْفِرَ لَهُ"

“ท่านนบี ศ็อลฯ กล่าวว่า พระผู้อภิบาลจะเสด็จลงมา(นุซูล)ยังฟากฟ้าต่ำสุดในทุกค่ำคืนจนกระทั้งเหลือแค่ 1 ใน 3 สุดท้ายของกลางคืน โดยพระองค์จะทรงกล่าวว่า “ ผู้ใดวิงวอนต่อข้า ดังนั้นข้าจะตอบรับเขา และผู้ใดขอต่อข้า ข้าก็จะให้เขา และผู้ใดขออภัยโทษต่อข้า ก็จะอภัยโทษแก่เขา (หะดีษ บุคอรีย์ # 1145, มุสลิม # 1261

ทัศนะของปราชญ์เกี่ยวกับผู้ปฏิเสธหะดิษเศาะเฮียะ

อิหม่ามอัลอาญุรีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า

جَمِيعُ فَرَائِضِ اللَّهِ، الَّتِي فَرَضَهَا اللَّهُ فِي كِتَابِهِ، لَا يُعْلَمُ الْحُكْمُ فِيهَا إِلَّا بِسُنَنِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ هَذَا قَوْلُ عُلَمَاءِ الْمُسْلِمِينَ، مَنْ قَالَ غَيْرَ هَذَا خَرَجَ عَنْ مِلَّةِ الْإِسْلَامِ، وَدَخَلَ فِي مِلَّةِ الْمُلْحِدِينَ، نَعُوذُ بِاللَّهِ مِنَ الضَّلَالَةِ بَعْدَ الْهُدَى "
.
บรรดาสิ่งที่เป็นฟัรดูของอัลลอฮ ที่อัลลอฮ ได้กำหนดให้เป็นฟัรดู ในคัมภีร์ของพระองค์ ซึ่งหุกุมในมัน จะไม่ถูกรู้ นอกจากด้วยบรรดาสุนนะฮ ของรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ นี่คือคำพูด(ทัศนะ)ของบรรดาอุลามาอฺมุสลิมีน “ผู้ใด กล่าว อื่นจากนี้ เขาก็ออกจาก ศาสนาอิสลาม และเขาเข้าอยู่ในศาสนาของบรรดาอัลมุลหิดีน (พวกนอกศาสนา) -เราขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ จากการหลงผิด หลังจากทางนำ – กิตาบอัชชะรีอะฮ 1/ 176-177

อัลลามะฮอิบนุอัลวะซีร (ร.ฮ)กล่าวว่า
" التكذيب لحديث رسول الله صلى الله عليه وسلم مع العلم أنه حديثه كفر صريح " انتهى.
การปฏิเสธหะดิษรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ ทั้งๆที่รู้ว่า มันคือหะดิษของท่านรอซูล คือ การกุฟุรอันชัดเจน – อัลอะวาศิม วัลเกาะวาศิม เล่ม 2 หน้า 274

وَأَخْبَرَنَا أَحْمَدُ ، أَخْبَرَنَا عُمَرُ ، نَا أَحْمَدُ بْنُ مُحَمَّدِ بْنِ إِسْمَاعِيلَ ، قَالَ : ثَنَا الْفَضْلُ بْنُ زِيَادٍ ، قَالَ : سَمِعْتُ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ أَحْمَدَ بْنَ حَنْبَلٍ ، يَقُولُ : مَنْ رَدَّ حَدِيثَ رَسُولِ اللَّهِ فَهُوَ عَلَى شَفَا هَلَكَةٍ 
คำแปลตัวบท
อบูอับดุลลอฮ อะหมัด บิน หัมบัล กล่าวว่า “ผู้ใดปฏิเสธหะดิษรซูลุลลอฮ เขาคือผู้ที่ อยู่บนริมขอบแห่งหายนะ –ดู อุศูลเอียะติกอด อะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮของ อัลลาลุกาอีย์ หะดิษหมายเลข 733
อิหม่ามสะยูฏีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า

فاعلموا رحمكم الله أن من أنكر كون حديث النبي صلى الله عليه وسلم قولا كان أو فعلا بشرطه المعروف في الأصول حجة، كفر وخرج عن دائرة الإسلام و حشر مع اليهود والنصارى، أو مع من شاء الله من فرق الكفرة

พวกท่านจงรู้ไว้เถิด ,ขอต่ออัลลอฮโปรดประทานความเมตตาต่อพวกท่าน แท้จริงผู้ใด ปฏิเสธ การเป็นหะดิษของท่านนบี ศ็อลฯ ไม่ว่าจะเป็นการพูดและการกระทำของท่านนบี ด้วยเงื่อนไขของมัน ที่เป็นที่รู้จัก ในบรรดารากฐาน ว่าเป็นหลักฐาน เขาเป็นกุฟูร และเขาออกจากแวดวง ของอัลอิสลาม และเขาถูกให้รวมอยู่พร้อมกับยะฮูดีและนะศอรอ หรืออยู่พร้อมกับ ผู้ที่อัลลอฮทรงประสงค์ จากพวกของกาเฟร – มิฟตาหุลญันนะฮ ฟิล เอียะติญาจญ บิสสุนนะฮ หน้า 2
...............
เพราะฉะนั้น ขอแนะนำให้ แบมะ เจะเมะ เจะเมะ ทำการเตาบะฮต่ออัลลอฮโดยเร็ว หากไม่สำนึก ขอเรียนพี่น้องทั้งหลายว่า ไม่ควรจะเสวนากับคนๆนี้อีกต่อไป 
อนึ่งคนๆนี้ได้นำภาพของอาจารย์ชารีฟ มาเป็นภาพโฟรไฟล์ โดยไม่ขออนุญาตเจ้าตัวเพื่อฟิตนะฮ จึงไม่ควรจะใส่ใจกับเจ้าของนามปลอมนี้อีกต่อไป

والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/4/61