วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

ตัวอย่างการเอาหลักฐานเจตนาตีหัววะฮบีย์แต่หลักฐานกลับตีหัวตัวเอง


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


ตัวอย่างการเอาหลักฐานเจตนาตีหัววะฮบีย์แต่หลักฐานกลับตีหัวตัวเอง
อับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์
ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 2 ภาพลงในอัลบั้ม: อะห์ลุซซุนนะห์วั้ลญะมาอะห์(ฉบับไม่เเอบอ้าง)ถูกใจเพจ
56 นาที
ท่าน อิบนุ ญะรีร( ฮ.ศ 224-310) ปราชญ์ ชาวสาลัฟ กล่าวในตำรา อัตตับซีรของท่านว่า 
.
อัลลอฮ์ ทรงฟังเสียงต่างๆ ที่ไม่ได้ผ่านช่องในหู เเละไม่ใช่อวัยวะ เหมือนอวัยวะลูกหลานท่านนบี อะดัม เเละเช่นเดียวกัน ทรงเห็นด้วยซีฟัตบะศอร ซึ่งไม่เหมือนซีฟัตการมองเห็นต่างๆ ของลูกหลานท่าน นบี อดัม ซึ่ง ก็คือ บรรดาอวัยวะของเขาทั้งหลาย..
.
ดังนั้น การปฏิเสธอวัยวะในเรื่องของยะดุน ( มือ) นั้น เป็นอะกีดะห์ ของอะห์ลุลซุนนะห์ ส่วนอะกีดะห์ วาฮะบีย์ จะอ้างว่า การปฏิเสธเรื่องเหล่านี้ ไม่มีในสมัยสาลัฟ ในฮะดิษ เเละในอัลกุรอ่าน ไม่มีระบุ เเละเราห้ามปฏิเสธ...
cr:Matty Ibnufatim Hamady
@@@@
ชี้แจง
นาย Matty Ibnufatim Hamady ครับ ทำไมทุกบทความของท่าน จึงไม่ยอมนำหลักฐานมาแปลความหมาย แต่กลับนำมาชงและสรุปเอง
อะชาอิเราะฮ Matty Ibnufatim Hamady ที่นายอานัส ชูชื่น นำตรรกของเขามาเผยแพร่ ต้องการจะนำอะกีดะฮของอิบนุญะรีร มาโจมตีวะฮบีย์ แต่กลับ กลายเป็นไม้หน้าสามทุบหัวอาชาอิเราะฮเอง เพราะ
1.อิบนุญะรีร ยืนยันความหมายสิฟาตตามตัวบท แต่อาชาอิเราะฮ ใช้ตรรกแถว่า ความหมายตามตัวบท เป็นความหมายที่อัลลอฮไม่ต้องการ มาคำพูดอิบนุญะรีร ที่ระบุก่อนหน้านั้นคือ
فنثبت كل هذه المعاني التي ذكرنا أنها جاءت بها الأخبار والكتاب والتنزيل على ما يعقل من حقيقة الإثبات، وننفي عنه التشبيه؛
เรายืนยัน ทุกๆความหมายเหล่านี้ ซึ่ง เราระบุว่า แท้จริง บรรดาหะดิษ ,อัลกิตาบ และอัตตันซีล(อัลกุรอ่าน) ได้มีมาด้วยมัน บนสิ่งที่ถูกเข้าใจจากข้อเท็จจริงของการยืนยัน(อิษบาต) และเราปฏิเสธการเปรียบเทียบการคล้ายคลึงจากมัน 
.............
2.อิบนุญะรีร ยืนยัน ว่าอัลลอฮทรงมีสิฟัตมือจริงๆ ที่ไม่ใช่อวัยวะเหมือนอวัยวะมนุษย์ และ ทรงเห็นไม่เหมือนกับการเห็นของมนุษย์ 
فنقول
يسمع –جل ثناؤه- الأصوات، لا بخرقٍ في أذنٍ، ولا جارحةٍ كجوارح بني آدم. وكذلك يبصر الأشخاص ببصرٍ لا يشبه أبصار بني آدم التي هي جوارحٌ لهم
เราจะกล่าวว่า "พระองค์ทรงได้ยิน เสียง ไม่ใชได้ยินด้วย รูหู และไม่ใช่อวัยวะ เช่น อวัยวะฮมนุษย์ และในทำนองนั้น พระองค์ทรงเห็น บรรดาบุคคล ด้วยการเห็น ที่ไม่คล้ายคลึง กับบรรดาการเห็นของลูกหลานอาดัม(หมายถึงมนุษย์ ซึงมันคืออวัยวะของพวกเขา 
..........
ใจความคือ การยืนยันว่า อัลลอฮได้ยินเสียง ไม่ใช่ด้วยรูหู และไม่ใช่อวัยวะ เหมือนกับอวัยวะของมนุษย์ ในทำนองเดียวกันการเห็น จุดนี้ คือการปฏิเสธอวัยวะ ที่เหมือนกับอวัยวะมนุษย์ ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธ
3. อิบนุญะรีร ยืนยัน ว่า อัลลอฮ มี สองมือ มือขวา บรรดานิ้ว แต่อาชาอิเราะฮปฏิเสธ ตีความคำว่าสองมือ ด้วยการดูแลเป็นพิเศษและอำนาจ ซึ่งไม่ใช่อะกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮแต่เป็นอะกีดะฮพวกตรรกนิยมเช่น มุอตะซิละฮและญะฮมียะฮ
อิบนุญะรีร กล่าวต่อไปว่า
وله يدان ويمينٌ وأصابع، وليست جارحةً، ولكن يدان مبسوطتان بالنعم على الخلق، لا مقبوضتان عن الخير.
ووجهٌ لا كجوارح الخلق التي من لحم ودم.
และทรงมี สองมือ ,มือขวา และบรรดานิ้ว และมันไม่ใช่อวัยวะ แต่ คือ สองมือ ที่ถูกแบออก ด้วยความโปรดปรานแก่บรรดามัคลูค ทั้งสองไม่ได้ถูกกำ(ถูกปิด)จากความดี และทรงมีใบหน้า ไม่เหมือนบรรดาอวัยวะของมัคลูค ซึ่ง ประกอบด้วยเนื้อและเลือด....
4. อิบนุญะรีร ยืนยัน การหัวเราะ และเสด็จลงมายังดุนยาของอัลลอฮโดยไม่ตีความแต่อาชาอิเราะฮกาลามียะฮไม่ยอมรับความหมายตามตัวบท
อิบนุญะรีร กล่าวว่า
ونقول: يضحك إلى من شاء من خلقه. ولا نقول: إن ذلك كشر عن أسنان.
ويهبط كل ليلةٍ إلى السماء الدنيا.
และเรากล่าวว่า พระองค์ทรงหัวเราะ แก่ผู้ที่ทรงประสงค์จากมัคลูคของพระองค์ และเราจะไม่กล่าวว่า แท้จริง (การหัวเราะ)ดังกล่าวนั้น คือ การแย้มจากบรรดาฟัน (หมายถึงแย้มให้เห็นฟัน) - .อัตตับศีร ฟีมะอาลิมิดดีน หน้า 141-145
..........
ข้างต้นคือ อะกีดะฮ ที่ตรงกับสิ่งที่บรรดามุสลิมที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ ยึดถือและเชื่อมัน แต่...ไม่มีสักข้อเดียวที่ตรงกับตรรกของอาชาอิเราะฮที่แอบอ้างว่ามีอะกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮ
ส่วนการที่อิบนุญะรีร (ร.ฮ) ปฏิเสธคำว่า อวัยวะ (جارحة ) ชัยค์ อับดุลอะซีซ บิน บาซ ได้กล่าวในการอธิบายเพิ่มเติมว่า
وما سكت الله عنه نسكت عنه لا نزيد ولا ننقص هكذاأهل السنة والجماعة لايزيدون ولا ينقصون, يرون ماجائت به النصوص ويقولون (ليس كمثله شيء وهو السميع البصير)
และสิ่งใดที่อัลลอฮทรงนิงเงียบจากมัน เราก็นิ่งเงียบจากมัน เราจะไม่เพิ่มเติมและเราจะไม่ตัดตอน เช่นนี้แหละคือ อะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ พวกเขาจะไม่เพิมเติม และพวกเขาจะไม่ตัดตอน ,พวกเขา ดูสิ่งที่บรรดาตัวบทได้มีมาด้วยมัน และพวกเขากล่าวว่า (ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็นยิ่ง) - ดู ตะอลีก อัตตับศีร ฟี มะอาลิมีดดีน ของชัยค์บินบาซ หน้า 39-40
.............
ทั้งนี้เพราะคำว่า "คำว่าเป็นอวัยวะ" หรือไม่เป็นอวัยวะ ไม่ระบุไว้ในตัวบทอัลกุอ่าน จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง ดังที่ชัยค์บินบาซได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ -ดูรายละเอียดหน้า 39-40

والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/1/60
ปล. พยายามที่จะหาหลักฐานโจมตีผู้อื่น โดยใช้ตรรกชง เอามาเถอะครับ สักพันเล่มเกวียนก็ไม่มีปัญหา สัจธรรมคือสัจธรรม ความเท็จคือความเท็จ อัลลอฮทรงเปิดโปงให้มนุษย์รู้เอง











เอกสารอ้างอิง





 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ





 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น