
ตรรกของละแบใส้แห้ง
Ana Muhammad Ameen
เมื่อมีความเห็นต่างระหว่างปราชมัซฮับ เราไม่ได้ไปฮูกุมของไหนถูกของไหนผิดเพราะต่างปราชก็มีหลักฐานของแต่ละคน เมื่อที่มาของหลักฐานต่างกันหรือความเข้าใจของตัวบทไม่เหมื่อนกัน ฮูกุมก็จะออกต่างกัน อยู่ที่คนรุ่นหลังสืบหาว่าคนไหนหลักฐานหนักกว่ากัน
عن عمرو بن العاص رضي الله عنه أنه سمع رسول الله ﷺ يقول: «إذَا حَكَمَ الحَاكِمُ فَاجْتَـهَدَ ثُمَّ أَصَابَ، فَلَـهُ أَجْرَانِ، وَإذَا حَكَمَ فَاجْتَـهَدَ، ثُمَّ أَخْطَأَ، فَلَـهُ أَجْرٌ». متفق عليه
ความหมาย จากอัมรู บิน อัลอาศ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ เขาได้ยินท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “เมื่อผู้ปกครองต้องการจะตัดสิน ดังนั้นเขาได้วินิจฉัย ปรากฏว่าถูกต้องเขาจะได้รับผลบุญสองเท่า และเมื่อเขาต้องการจะตัดสินดังนั้นเขาได้วินิจฉัยปรากฏว่าผิดพลาดเขาจะได้รับหนึ่งผลบุญ” (บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7352 และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 1716)
ความหมาย จากอัมรู บิน อัลอาศ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ เขาได้ยินท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “เมื่อผู้ปกครองต้องการจะตัดสิน ดังนั้นเขาได้วินิจฉัย ปรากฏว่าถูกต้องเขาจะได้รับผลบุญสองเท่า และเมื่อเขาต้องการจะตัดสินดังนั้นเขาได้วินิจฉัยปรากฏว่าผิดพลาดเขาจะได้รับหนึ่งผลบุญ” (บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7352 และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 1716)
ถึงผมไม่ค่อยมีความรู้ทางศาสนาเท่าไร แต่คนอาเล็มและอูลามะ เขาไม่เอาเเละไม่ยอมรับหรอกถ้ามีอูลามะที่ออกฮูกุมโดยไม่มีหลักฐานจากกุรอานและฮาดิส ถ้าไม่มีในตัวบทที่เปะๆ ก็จะมีฮูกุมอิจมะและกียาสเข้ามา ทั้ง 4 มัซฮับก็ใช้หลักการนี้ทั้งนั้น
@@@@
@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นเป็นตรรกของคนดันทุรังที่จะทำสิ่งที่เป็นบิดอะฮ สวนทางกับอัสสุนนะฮ ที่มีตัวบทมาแล้วชัดเจน ว่า ในกรณีการตาย ให้เพื่อนบ้าน และญาติใกล้ชิด สงเคราะห์ครอบครัวผู้ตาย คือ ทำอาหารไปเลี้ยงคนในครอบครัวผูตาย ดังที่อิหม่ามชาฟิอี (ร.ฮ) กล่าวว่า
وَأُحِبُّ لِجِيرَانِ الْمَيِّتِ أو ذِي قَرَابَتِهِ أَنْ يَعْمَلُوا لِأَهْلِ الْمَيِّتِ في يَوْمِ يَمُوتُ وَلَيْلَتِهِ طَعَامًا يُشْبِعُهُمْ فإن ذلك سُنَّةٌ وَذِكْرٌ كَرِيمٌ وهو من فِعْلِ أَهْلِ الْخَيْرِ قَبْلَنَا وَبَعْدَنَا لِأَنَّهُ لَمَّا جاء نَعْيُ جَعْفَرٍ قال رسول اللَّهِ صلى اللَّهُ عليه وسلم اجْعَلُوا لِآلِ جَعْفَرٍ طَعَامًا فإنه قد جَاءَهُمْ أَمْرٌ يَشْغَلُهُمْ
และข้าพเจ้า ชอบให้เพื่อนบ้านของผู้ตายหรือบรรดาญาติใกล้ชิดของเขา การที่พวกเขาทำอาหารให้แก่ครอบผู้ตาย ในวันที่เขาตายและในตอนกลางคืนของมัน(ของการตาย) เพราะแท้จริง ดังกล่าวนั้น คือ อัสสุนนะฮ และเป็นซิกิรที่มีเกียรติ และมันคือ ส่วนหนึ่ง จากการกระทำของ คนทำดี ก่อนและหลังจากพวกเรา เพราะแท้จริง เมื่อข่าวการตายของญะอฟัร ได้มาถึง ,ท่านรซูลุลลอฮ สอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า “พวกท่านจงทำอาหารให้แก่ครอบครัวของญะอฟัร เพราะแท้จริง สิ่ง(การตาย)ที่ทำให้พวกเขามีภาระยุ่ง – อัลอุม เล่ม 1 หน้า 278
…………..
จากคำพูดของอิหม่ามชาฟิอีข้างต้น สรุปได้ว่า
1.การที่เพื่อนบ้านและญาติๆผู้ตายทำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวผู้ตายคือสุนนะฮของท่านนบี
2. เมื่อท่านนบี ศอ็ลฯทราบข่าวการตายของท่านญะอฺฟัร บิน อบีฏอลิบ ท่านได้สั่งให้เหล่าเศาะหาบะฮทำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวญะอฟัร
เมื่อปรากฏหลักฐานชัดเจนอยู่แล้วว่า การนำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวผู้ตาย ย้ำ ครอบครัวผู้ตาย(ไม่ใช่ละแบที่ถูกเชิญมาหรือแขกที่มาเยี่ยม)
เพราะฉะนั้นการอ้างหลักการอิจญติฮาด เป็นการอ้างบิดเบือนหลักการศาสนา เพราะตามหลักนิติศาสตร์อิสลามระบุว่า
…………..
จากคำพูดของอิหม่ามชาฟิอีข้างต้น สรุปได้ว่า
1.การที่เพื่อนบ้านและญาติๆผู้ตายทำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวผู้ตายคือสุนนะฮของท่านนบี
2. เมื่อท่านนบี ศอ็ลฯทราบข่าวการตายของท่านญะอฺฟัร บิน อบีฏอลิบ ท่านได้สั่งให้เหล่าเศาะหาบะฮทำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวญะอฟัร
เมื่อปรากฏหลักฐานชัดเจนอยู่แล้วว่า การนำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวผู้ตาย ย้ำ ครอบครัวผู้ตาย(ไม่ใช่ละแบที่ถูกเชิญมาหรือแขกที่มาเยี่ยม)
เพราะฉะนั้นการอ้างหลักการอิจญติฮาด เป็นการอ้างบิดเบือนหลักการศาสนา เพราะตามหลักนิติศาสตร์อิสลามระบุว่า
لا مساغ للاجتهاد في مورد النص
ไม่อนุญาต (ไม่มีช่องทาง)สำหรับการ อิจญติฮาด ในสิ่งที่มีตัวบท –ดู ชัรหอัลเกาะวาอิดอัลฟิกฮียะฮ ของชัยค์มุหัมหมัด อัรซัรกอ หน้า 147
............
หลักฐานที่เป็นตัวบท มันมีชัดขนาดนี้ ยังแถ เพื่อที่จะให้มีการเลี้ยงอาหาร โดยครอบครัวผู้ตาย และไปเชิญละแบมาอ่านอัลกุรอ่าน ,การตะฮลีล อุทิศบุญให้ผู้ตาย ซึ่งเป็นการหาประโยชน์ กับการตาย ถ้าไม่เรียก “ละแบใส้แห้ง” จะเรียกอะไรดีให้สาสมกับคนที่ไม่แย่แสกับสุนนะฮนบี แต่กลับปกป้องบิดอะฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
29/1/61
............
หลักฐานที่เป็นตัวบท มันมีชัดขนาดนี้ ยังแถ เพื่อที่จะให้มีการเลี้ยงอาหาร โดยครอบครัวผู้ตาย และไปเชิญละแบมาอ่านอัลกุรอ่าน ,การตะฮลีล อุทิศบุญให้ผู้ตาย ซึ่งเป็นการหาประโยชน์ กับการตาย ถ้าไม่เรียก “ละแบใส้แห้ง” จะเรียกอะไรดีให้สาสมกับคนที่ไม่แย่แสกับสุนนะฮนบี แต่กลับปกป้องบิดอะฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
29/1/61

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น