วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561

การกินบุญบ้านผู้ตายไม่อร่อยอย่างที่คิด


ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป


การกินบุญบ้านผู้ตายไม่อร่อยอย่างที่คิด
ตามหลักศาสนาอิสลาม นั้น เมื่อคนใดได้เสียชีวิตลง คนเป็น ก็จะต้องรีกจัดการศพคือ
1. อาบน้ำศพ
2. ห่อศพ
3. ละหมาดให้แก่ศพ
4. ฝังศพ
สิ่งเหล่านี้จะต้องรีบจัดการ ดังที่ท่านท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ (เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ00)ได้กล่าวว่า ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม)ได้กล่าวว่า
«أسرعوا بالجنازة فإن تك صالحة فخير تقدمونها إليه، وإن تك سوى ذلك فشر تضعونه عن رقابكم
“พวกท่านจงรีบจัดการกับศพ(ญะนาซะฮฺ) เพราะหากเขาเป็นคนดี ก็เป็นสิ่งดีที่ท่านจะทำให้กับเขา แต่หากเขาเป็นอื่นจากนั้น ก็เป็นสิ่งเลวร้ายที่พวกท่านวางไว้บนต้นคอของเขา” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ และมุสลิม
...........
แต่ในสังคมมุสลิมบ้านเรามีจำนวนไม่น้อยไม่ปฏิบัติตามสุนนะฮนี้ เพราะ รอลูกหลาน หรือญาติ ที่อยู่ห่างใกล บ้างก็มีนัยในการประวิงเวลาจัดการศพ เพราะรอซอง จากแขกที่มาเยี่ยม
ในการณี ทรัพย์สิน ของผู้ตายนั้น คนที่มีชีวิตอยู่จะต้องจัดการดังนี้คือ
1.ชดใช้หนี้สินผู้ตาย (หากมี)
2. จัดการเรื่องพินัยกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตาย (หากผู้ตายทำไว้) ดังอัลกุรอ่านระบุว่า
مِن بَعْدِ وَصِيَّةٍ يُوصِي بِهَا أَوْ دَيْنٍ
ทั้งนี้หลังจากพินัยกรรมที่เขาได้สั่งเสียมันไว้หรือหลังจากหนี้สิน –อันนิสาอ/11
ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม)ได้กล่าวว่า
نفس المؤمن معلقة بدينه حتى يقضى عنه
“ชีวิต(วิญญาณ)ของผู้ศรัทธาจะถูกแขวนไว้เพราะหนี้สินที่เขามี จนกว่าจะมีการชดใช้แทนเขา” บันทึกโดยอัต-ติรมิซียฺ
3. จัดการแบ่งมรดกจากทรัพย์สินของผู้ตายให้แก่ทายาท
อิบนุญะรีร (ร.ฮ) กล่าวว่า
حَدَّثَنَا بِشْرُ بْنُ مُعَاذٍ قَالَ : حَدَّثَنَا يَزِيدُ قَالَ : حَدَّثَنَا سَعِيدٌ ، عَنْ قَتَادَةَ : مِنْ بَعْدِ وَصِيَّةٍ يُوصِي بِهَا أَوْ دَيْنٍ ، وَالدَّيْنُ أَحَقُّ مَا بُدِئَ بِهِ مِنْ جَمِيعِ الْمَالِ ، فَيُؤَدَّى عَنْ أَمَانَةِ الْمَيِّتِ ، ثُمَّ الْوَصِيَّةُ ، ثُمَّ يُقَسِّمُ أَهْلُ الْمِيرَاثِ مِيرَاثَهُمْ
บิชรุน บิน มุอาซ ได้เล่าเรา โดยได้กล่าวว่า ยะซีดได้เล่าเรา โดยเขากล่าวว่า สะอีดได้เล่าเรา ว่ารายงานจากเกาะตาดะฮ เกี่ยวกับอายะฮที่ว่า(ทั้งนี้หลังจากพินัยกรรมที่เขาได้สั่งเสียมันไว้หรือหลังจากหนี้สิน) ว่า หนี้สิน สมควรที่จะถูกเริ่มจัดการด้วยมันเป็นอันดับแรก จากบรรดาทรัพย์สิน แล้วถูกชดใช้แทนอามานะฮของผู้ตาย ,อันดับหลังจากนั้นคือ พินัยกรรม ,อันดับหลังจากนั้น เจ้าของมรดก (หมายถึงทายาท) จัดการแบ่ง บรรดามรดกของพวกเขา – ดูตัฟสีร อัฏเฏาะบะรีย์ เล่ม 8 หน้า 65 หะดิษหมายเลข 8779
..................
แต่....ในสังคมบ้านเราส่วนมาก สิ่งที่เขาให้ความสำคัญและเริ่มก่อนคือ
1. จัดหุงหาอาหาร เพื่อต้อนรับแขก 
2. ไปเชิญบรรดาผู้นำศาสนาและโต๊ะละแบมา ละหมาดญะนาซะฮ
3. เตรียมข้าวสาร อาหารแห้งใส่ถุง และเตรียมซองไว้แจกผู้ที่มาละหมาดศพ และมาอ่านตัลกีน
ขอเตือนว่า
ในกรณีครอบครัวนั้นมีเด็กกำพร้าเล็กๆ หรือยังไม่บรรลุศาสนาภาวะ การนำทรัพย์สินในบ้านผู้ตาย มาจัดซื้อจัดทำอาหารเลี้ยงแขก เลื้ยงโต๊ะละแบบ 3 วัน 7 วันนั้น ถือเป็นการกินทรัพย์สินเด็กกำพร้า โดยอธรรม เพราะ เด็กกำพร้าเหล่านี้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นด้วย และ ละแบบางคนที่มากินบ้านผู้ตาย มักจะอ้างว่า เป็นทรัย์สินที่มีผู้บริจาคให้ครอบครัวผู้ตาย.....
จึงถามละแบนักกินบุญทั้งหลายว่า “ทรัยย์สินที่มีผู้บริจาคให้ เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกันของครอบครัวผู้ตายไม่ใช่หรือ แล้วท่านขอหะลาลจากเด็กกำพร้าที่มีส่วนในทรัย์สินนั้นหรือยัง และทำได้ไหม เมื่อเด็กกำพร้ายังไม่บรรลุศาสนภาวะ
ในหนังสือ “มัตนุ คอลีล” ของนักวิชาการมัษฮับมาลิกีย์ มีกล่าวเอาไว้ว่า …
وَأَمَّا اْلإجْتِمَاعُ عَلَى طَعَامِ بَيْتِ الْمَيِّتِ فَبِدْعَةٌ مَكْرُوْهَةٌ إِنْ لَمْ يَكُنْ فِى الْوَرَثَةِ صَغِيْرٌ، وَإِلاَّ فَهُوَ حَرَامٌ …..
“อนึ่ง การไปชุมนุมกินอาหารกันที่บ้านคนตาย ถือเป็นบิดอะฮ์ที่น่ารังเกียจ หากว่าในทายาทผู้ตายไม่มีเด็กเล็ก (ยังไม่บรรลุศาสนภาวะ), … แต่ถ้า (ผู้ตาย) มี (ทายาทที่ยังเล็กอยู่) ก็ถือว่า (การไปชุมนุมกินอาหารที่บ้านผู้ตาย) เป็นเรื่องต้องห้าม (หะรอม)” (จากหนังสือ “อัล-มันฮัลฯ” อันเป็นหนังสืออธิบายสุนันของท่านอบูดาวูด เล่มที่ 4 ส่วนที่ 8 หน้า 272) …
อัลลอฮตาอาลา ได้เตือนเรื่องการกินทรัพย์สิน เด็กกำพร้าว่า

إِنَّ الَّذِينَ يَأْكُلُونَ أَمْوَالَ الْيَتَامَى ظُلْمًا إِنَّمَا يَأْكُلُونَ فِي بُطُونِهِمْ نَارًا وَسَيَصْلَوْنَ سَعِيرًا

แท้จริงบรรดาผู้ที่กินทรัพย์ของบรรดาเด็กกำพร้าด้วยความอธรรมนั้น แท้จริงพวกเขากินไฟเข้าไปในท้องของพวกเขาต่างหากและพวกเขาก็จะเข้าไปสู่เปลวเพลิง – อันนิสาอิ/10
……………………………
เพราะฉะนั้น ขอเตือนพี่น้องมุสลิม ผู้ยำเกรงต่ออัลลอฮว่า “ การกินบุญบ้านผู้ตาย ไม่อร่อยอย่างที่คิด
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
26/1/61

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น