ตัวอย่างการใช้ตรรกเยาะเย้ยดูหมิ่นอัสสุนนะฮ
อับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์ผู้ดูแลกลุ่ม
แล้วบังชารีฟเคยได้ยินเสียงเรียกของพระเจ้าวะฮาบีย์ตอนที่เสด็จลงมาตอนดึกๆบ้างหรือป่าวครับ ถ้าเรียกแล้ววะฮาบีย์ไม่ได้ยิน แสดงว่า ทรงไม่ลงมา ไม่งั้นวะฮาบีย์ก็คงหูหนวกมั้งครับ
@@@@
ชี้แจง
ข้างต้น คือตัวอย่างการดูหมิ่นเยาะเย้ย อัสสุนนะฮ เกี่ยวกับ สิฟัตอัลนุซูล (การเสด็จลงมาของอัลลอฮ) ดังที่ มีรายงานว่า
เรื่องนี้มีหะดิษระบุว่า
ท่านอิมามบุคอรีย์และท่านอิมามมุสลิมได้บันทึกไว้ในตำราศอเฮี๊ยฮฺของท่านจากการราย งานของท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฏิฯ ความว่า
ท่านอิมามบุคอรีย์และท่านอิมามมุสลิมได้บันทึกไว้ในตำราศอเฮี๊ยฮฺของท่านจากการราย งานของท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฏิฯ ความว่า
، أن النبي صلى الله عليه وسلم قال: " ينزل رَبُّنَا تَبَارَكَ وَتَعَالَى كُلَّ لَيْلَةٍ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا حِينَ يَبْقَى ثُلُثُ اللَّيْلِ الآخِرُ يَقُولُ : مَنْ يَدْعُونِي فَأَسْتَجِيبَ لَهُ مَنْ يَسْأَلُنِي فَأُعْطِيَهُ مَنْ يَسْتَغْفِرُنِي فَأَغْفِرَ لَهُ"
“แท้จริง ท่านนบี ศ็อลฯ กล่าวว่า พระผู้อภิบาลจะเสด็จลงมา(นุซูล)ยังฟากฟ้าดุนยาในทุกค่ำคืนจนกระทั้งเหลือแค่ 1 ใน 3 สุดท้ายของกลางคืน โดยพระองค์จะทรงกล่าวว่า “ ผู้ใดวิงวอนต่อข้า ดังนั้นข้าจะตอบรับเขา และผู้ใดขอต่อข้า ข้าก็จะให้เขา และผู้ใดขออภัยโทษต่อข้า ก็จะอภัยโทษแก่เขา (หะดีษ บุคอรีย์ # 1145, มุสลิม # 1261)
อิหม่ามกุรฏุบีย์ ซึ่ง อยู่ในสายอัชอะรีย์ กล่าวว่า
وَالَّذِي عَلَيْهِ جُمْهُورُ أَئِمَّةِ أَهْلِ السُّنَّةِ أَنَّهُمْ يَقُولُونَ : يَجِيءُ وَيَنْزِلُ وَيَأْتِي . وَلَا يُكَيِّفُونَ ; لِأَنَّهُ لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
และ(ทัศนะ)ที่บรรดาอิหม่ามอะลิสสุนนะฮส่วนใหญ่ อยู่บนมัน แท้จริงพวกเขากล่าวว่า “ พระองค์เสด็จมา, เสด็จลงมา และ เสด็จมาถึง โดยที่พวกเขาไม่ได้อธิบายรูปแบบวิธีการ เพราะแท้จริง ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์ ทรงได้ยิน ทรงเห็นยิ่ง – ตัฟสีรอัลกุฏุบีย์ เล่ม 9 หน้า 127
อิหม่ามอัตติรมิซีย์ กล่าวว่า
وَقَدْ قَالَ غَيْرُ وَاحِدٍ مِنْ أَهْلِ الْعِلْمِ فِي هَذَا الْحَدِيثِ وَمَا يُشْبِهُ هَذَا مِنْ الرِّوَايَاتِ مِنْ الصِّفَاتِ وَنُزُولِ الرَّبِّ تَبَارَكَ وَتَعَالَى كُلَّ لَيْلَةٍ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا قَالُوا قَدْ تَثْبُتُ الرِّوَايَاتُ فِي هَذَا وَيُؤْمَنُ بِهَا وَلَا يُتَوَهَّمُ وَلَا يُقَالُ كَيْفَ هَكَذَا رُوِيَ عَنْ مَالِكٍ وَسُفْيَانَ بْنِ عُيَيْنَةَ وَعَبْدِ اللَّهِ بْنِ الْمُبَارَكِ أَنَّهُمْ قَالُوا فِي هَذِهِ الْأَحَادِيثِ أَمِرُّوهَا بِلَا كَيْفٍ وَهَكَذَا قَوْلُ أَهْلِ الْعِلْمِ مِنْ أَهْلِ السُّنَّةِ وَالْجَمَاعَةِ
หลายคนจากในหมู่นักปราชญ์ผู้ทรงความรู้ได้กล่าว เกี่ยวกับหะดีษนี้และหะดีษต่างๆที่คล้ายคลึงกัน อย่างเช่น(หะดีษเกี่ยวกับ) คุณลักษณ์ต่างๆและการลงมาของพระผู้อภิบาลผู้ทรงสูงส่งในทุกค่ำคืนสู่ฟากฟ้าชั้นต่ำสุด โดยที่บรรดาปราชญ์เหล่านั้นได้กล่าวว่า บรรดารายงานในเรื่องนี้ เป็นที่แน่นอน และจะถูกศรัทธา จะไม่ถูกนึกมโนภาพ และจะไม่ถูกกล่าวว่าเป็นอย่างไร เรื่องราวทำนองนี้ได้ถูกรายงานมาจากท่านอิมามมาลิกบินอะนัส,ท่านซุฟยานอัษเษารีย์,ท่านอิบนุอุยัยนะฮฺ, และท่านอับดุลลอฮฺอิบนุอัลมุบาร็อค พวกเขากล่าวเกี่ยวกับบรรดาหะดีษเหล่านี้ว่า “ปล่อยมันให้ผ่านไปโดยไม่ต้องพรรณนาว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร และ ในทำนองนี้ คือ คำพูดของนักวิชาการ จากอะฮลุสสุนนะฮ วัลญะมาอะฮ
وَأَمَّا الْجَهْمِيَّةُ فَأَنْكَرَتْ هَذِهِ الرِّوَايَاتِ وَقَالُوا هَذَا تَشْبِيهٌ
และสำหรับญะฮมียะฮนั้น พวกเขาปฏิเสธบรรดารายงานเหล่านี้(หมายถึงหะดิษสิฟาต) และพวกเขากล่าวว่านี่คือ การตัชบีฮ) -หนังสือ สุนันอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้าที่ 50-51
...........
จะเห็นได้ว่า บรรดาหะดิษสิฟาต รวมถึงหะดิษอัลนุซูล(การเสด็จลงมาของอัลลอฮ) ปราชญสะลัฟให้การรับรอง โดยไม่นึกมโนภาพว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และไม่กล่าวว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร แต่พวกแนวคิดญะฮมียะฮปฏิเสธ และอ้างว่า การรับรองหะดิษสิฟาตเป็นตัชบีฮ (การเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค)
...........
จะเห็นได้ว่า บรรดาหะดิษสิฟาต รวมถึงหะดิษอัลนุซูล(การเสด็จลงมาของอัลลอฮ) ปราชญสะลัฟให้การรับรอง โดยไม่นึกมโนภาพว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และไม่กล่าวว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร แต่พวกแนวคิดญะฮมียะฮปฏิเสธ และอ้างว่า การรับรองหะดิษสิฟาตเป็นตัชบีฮ (การเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค)
อัล-อาญรีญ์ ปราชญสะลัฟ( ฮ.ศ 280-230ْ ได้กล่าวว่า
والإيمان بهذا واجب لا يسع المسلم العاقل أن يقول كيف ينزل , ولا يرد هذا إلا المعتزلة
และการศรัทธา ต่อเรื่องนี้นั้น เป็นวาญิบ ไม่เปิดโอกาสให้มุสลิมผู้มีสติปัญญา กล่าวว่า พระองค์ทรงเสด็จลงมาอย่างไร และไม่มีใครปฏิเสธ สิ่งนี้ นอกจากพวกมุอฺตะซิละฮ - กิตาบุชชะรีอะฮ หน้า 306 บทว่าด้วยเรื่อง
باب الإيمان والتصديق بأن الله عزوجل ينزل إلى السماء الدنيا كل ليلة
والإيمان بهذا واجب لا يسع المسلم العاقل أن يقول كيف ينزل , ولا يرد هذا إلا المعتزلة
และการศรัทธา ต่อเรื่องนี้นั้น เป็นวาญิบ ไม่เปิดโอกาสให้มุสลิมผู้มีสติปัญญา กล่าวว่า พระองค์ทรงเสด็จลงมาอย่างไร และไม่มีใครปฏิเสธ สิ่งนี้ นอกจากพวกมุอฺตะซิละฮ - กิตาบุชชะรีอะฮ หน้า 306 บทว่าด้วยเรื่อง
باب الإيمان والتصديق بأن الله عزوجل ينزل إلى السماء الدنيا كل ليلة
อัลกอฎี อิยาฎ (ร.ฮ)กล่าวว่า
واعلم أن من استخف بالقرآن أو المصحف، أو بشيء منه، أو سبهما، أو جحده أو حرفاً منه أو آية، أو كذب به، أو بشيء منه، أو كذب بشيء مما صرح به فيه من حكم أو خبر، أو أثبت ما نفاه، أو نفى ما أثبته على علم منه بذلك، أو شك في شيء من ذلك فهو
كافر عند أهل العلم بإجماع
พึงทราบไว้เถิดว่า ผู้ใดดูถูก อัลกุรอ่าน หรือ เล่มอัลกุรอ่าน หรือ สิ่งใดจากมัน หรือ ด่าทอมัน ทั้งสอง หรือปฏิเสธมันหรือ อักษรใดๆจากมัน หรืออายะฮใดๆจากมัน หรือ ปฏิเสธ(ไม่เชื่อ) มัน หรือ สิ่งใดๆจากมัน หรือปฏิเสธ หุกุม หรือ หะดิษ ที่ถูกให้ชัดเจน ด้วยมัน ในอัลกุรอ่าน หรือ รับรองสิ่งที่มัน(อัลกุรอ่าน)ปฏิเสธมัน หรือ ปฏิเสธ สิ่งที่อัลกุรอ่านรับรองมัน บนความรู้ จากมัน(หรือบนความสงสัย ในสิ่งใดๆจากดังกล่าวนั้น เขาคือ กาเฟร ในทัศนะนักวิชาการ ด้วยมติเอกฉันท์ - ดู ชัรห อัชชิฟาอ 2/545
.........
ในประเด็นเรื่อง อะกีดะฮ นี้พึงระวัง ในกรณี ไปปฏิเสธในสิ่งที่อัลกุรอ่านได้ยืีนยันหรือรับรองไว้ เกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮ และไป รับรองในสิ่งที่อัลกุรอ่านได้ปฏเสธไว้ อย่าได้เยาะเย้ยแค่เพื่อสะใจ แต่อันตรายคือ จะนำพาไปสู่การสิ้นสภาพการเป็นมุสลิมได้-วัลอิยาซุบิลละฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
8/1/61
.........
ในประเด็นเรื่อง อะกีดะฮ นี้พึงระวัง ในกรณี ไปปฏิเสธในสิ่งที่อัลกุรอ่านได้ยืีนยันหรือรับรองไว้ เกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮ และไป รับรองในสิ่งที่อัลกุรอ่านได้ปฏเสธไว้ อย่าได้เยาะเย้ยแค่เพื่อสะใจ แต่อันตรายคือ จะนำพาไปสู่การสิ้นสภาพการเป็นมุสลิมได้-วัลอิยาซุบิลละฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
8/1/61
เอกสารอ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น