บัยอะฮต่อมุรชิดผู้ชี้นำเป็นสุนนะฮของใครหรือ
การทำสัตยาบัน(บัยอะฮ)เพื่อจะทำการจงรักภักดีต่อครูบาอ่าจารย์ผู้ชี้นำ เป็นสุนนะฮของใครหรือ เพราะการบัยอะฮในอิสลามคือ การบัยอะฮต่อผู้นำที่ปกครองรัฐอิสลาม ว่าจะจงรักภักดี ไม่แข่งแย่งที่จะเป็นผู้นำและจะยอมมอบภารกิจการดูแลกิจการอิสลามให้แก่ผู้นำ จะไม่ก่อขบถเป็นต้น
อิบนุคอ็ลดูน(ร.ฮ) กล่าวว่า
อิบนุคอ็ลดูน(ร.ฮ) กล่าวว่า
اعلم أن البيعة هي العهد على الطاعة، كأن المبايع يعاهد أميره على أنه يسلم له النظر في أمر نفسه وأمور المسلمين، لا ينازعه في شيء من ذلك، ويطيعه فيما يكلفه به من الأمر على المنشط والمكره
พึงทราบไว้เถิดว่า แท้จริง บัยอะฮ(การทำสัตยาบัน)นั้น คือ การให้คำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดี เช่น ผู้ทำการบัยอะฮ ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อผู้นำของเขา ว่าจะมอบการตัดสินใจในกิจการของตัวเขาเองและบรรดากิจการของบรรดามุสลิมทั้งหลายให้แก่ผู้นำ เขาจะไม่ขัดแย้งกับผู้นำในสิ่งใดๆจากดังกล่าวและเขาจะเชื่อฟังผู้นำในเรื่อง ได้มอบหน้าที่แก่เขาด้วยมัน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม – ดู ตาริคอิบนิคอลดูน ๑/๒๖๑
ดร.อับดุลลอฮ บิน อับดิลละฮ บิน สุลัยมาน อัดดะมัยญีย์ แห่งมหาวิทยาลัยอุมมุลกุรอ กล่าวว่า
البيعة تعني إعطاء العهد من المبايع على السمع والطاعة للأمير، في المنشط والمكره، والعسر واليسر، وعدم منازعته الأمر، وتفويض الأمور إليه
การบัยอะฮนั้น หมายถึง การมอบคำมัญญาจากผู้ทำการบัยอะฮ ว่าจะรับฟังและจงรักภักดีต่อผู้นำ ในยามที่ชอบหรือไม่ชอบ ,ในยามที่ลำบากและในยามที่สะดวกสบาย และจะไม่แข่งแย่งผู้นำต่อกิจการนั้น และมอบหมายบรรดากิจการ(บริหารการปกครอง)แก่ผู้นำ (แล้วชัยค์อับดุลลอฮ ก็ได้อ้างอิงคำพูดอิบนุคอ็ลดูน ข้างต้น) – ดู อัลอิมามะฮอัลอุซมา อินดะ อะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ หน้า ๑๙๙
บัยอะฮ มีมีการทำกับท่านรซูลุลลอฮ (ศอ็ลฯ) มี ๔ ประเภทคือ
๑. บัยอะฮว่าจะรับอิสลาม (البيعة على الإسلام)
๒. บัยอะฮว่าจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือและปกป้อง (البيعة على النصرة والمنعة)
๓. บัยอะฮว่าจะร่วมการญิฮาด (البيعة على الجهاد )
๔. บัยอะฮว่าจะฮิจญเราะฮ (البيعة على الهجرة)
๕. บัยอะฮว่าจะรับฟังและจงรักภักดี (البيعة على السمع والطاعة )
- ดู อัลอิมามะฮอัลอุซมา อินดา อะฮลิสสุนนะฮ วัลญะมาอะฮ ของ อัดดุมัยญีย์ หน้า ๒๐๐ – ๒๐๕
บัยอะฮ มีมีการทำกับท่านรซูลุลลอฮ (ศอ็ลฯ) มี ๔ ประเภทคือ
๑. บัยอะฮว่าจะรับอิสลาม (البيعة على الإسلام)
๒. บัยอะฮว่าจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือและปกป้อง (البيعة على النصرة والمنعة)
๓. บัยอะฮว่าจะร่วมการญิฮาด (البيعة على الجهاد )
๔. บัยอะฮว่าจะฮิจญเราะฮ (البيعة على الهجرة)
๕. บัยอะฮว่าจะรับฟังและจงรักภักดี (البيعة على السمع والطاعة )
- ดู อัลอิมามะฮอัลอุซมา อินดา อะฮลิสสุนนะฮ วัลญะมาอะฮ ของ อัดดุมัยญีย์ หน้า ๒๐๐ – ๒๐๕
วิธีการทำสัตยาบันต่อผู้นำ
عن عبادة بن الصامت رضي الله عنه قال: بَايَـعْنَا رَسُولَ الله ﷺ عَلَى السَّمْعِ وَالطَّاعَةِ فِي العُسْرِ وَاليُسْرِ، وَالمَنْشَطِ وَالمَكْرَهِ، وَعَلَى أَثَرَةٍ عَلَيْنَا، وَعَلَى أَنْ لا نُنَازِعَ الأَمْرَ أَهْلَـهُ، وَعَلَى أَنْ نَقُولَ بِالحَقِّ أَيْنَمَا كُنَّا، لا نَخَافُ فِي الله لَومَةَ لائِمٍ -وفي رواية بعد أَنْ لا نُنَازِعَ الأَمْرَ أَهْلَـهُ- قَالَ: «إلَّا أَنْ تَرَوْا كُفْراً بَوَاحاً عِنْدَكُم مِنَ الله فِيهِ بُرْهَانٌ». متفق عليه
1. จากอุบาดะฮฺ บิน อัศศอมิต เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวความว่า" พวกเราได้ทำสัตยาบัน ต่อท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่าจะเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม ทั้งในเรื่องที่ยาก และเรื่องที่ง่าย ในสิ่งที่รัก และสิ่งที่ไม่พอใจ ในเรื่องที่เราต้องเสียสละ ให้แก่ผู้อื่น เราไม่แข่งแย่งกิจการ (ตำแหน่ง) กับผู้ที่เป็นเจ้าของอยู่ เราจะพูดในเรื่องสัจธรรม ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ไหน เราจะไม่กลัวการตำหนิ ในกิจการของอัลลอฮฺ
– อีกสายรายงาน หลังจากเราไม่แก่งแย่งกิจการ (ตำแหน่ง) กับผู้ที่เป็นเจ้าของอยู่ เขากล่าวว่า ยกเว้นในกรณีที่พวกท่าน มีหลักฐานอย่างชัดแจ้ง ถึงการปฏิเสธต่ออัลลอฮฺ ของพวกเขา” (บันทึกโดย อัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7056 , มุสลิม ในบทอัลอิมาเราะฮฺ หมายเลขหะดีษ 1709 เป็นสำนวนของท่าน)
1. จากอุบาดะฮฺ บิน อัศศอมิต เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวความว่า" พวกเราได้ทำสัตยาบัน ต่อท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่าจะเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม ทั้งในเรื่องที่ยาก และเรื่องที่ง่าย ในสิ่งที่รัก และสิ่งที่ไม่พอใจ ในเรื่องที่เราต้องเสียสละ ให้แก่ผู้อื่น เราไม่แข่งแย่งกิจการ (ตำแหน่ง) กับผู้ที่เป็นเจ้าของอยู่ เราจะพูดในเรื่องสัจธรรม ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ไหน เราจะไม่กลัวการตำหนิ ในกิจการของอัลลอฮฺ
– อีกสายรายงาน หลังจากเราไม่แก่งแย่งกิจการ (ตำแหน่ง) กับผู้ที่เป็นเจ้าของอยู่ เขากล่าวว่า ยกเว้นในกรณีที่พวกท่าน มีหลักฐานอย่างชัดแจ้ง ถึงการปฏิเสธต่ออัลลอฮฺ ของพวกเขา” (บันทึกโดย อัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7056 , มุสลิม ในบทอัลอิมาเราะฮฺ หมายเลขหะดีษ 1709 เป็นสำนวนของท่าน)
عن جرير بن عبدالله رضي الله عنه قال: بَايَـعْتُ النَّبِيَّ ﷺ عَلَى السَّمْعِ وَالطَّاعَةِ، فَلَقَّنَنِي فِيمَا اسْتَطَعْتُ، وَالنُّصْحِ لِكُلِّ مُسْلِـمٍ. متفق عليه
2. จากญะรีร บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า "ฉันได้ทำสัตยาบันต่อท่าน รอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่าจะเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม ดังนั้น ท่านได้สอนฉัน ในสิ่งที่ฉันมีความสามารถ และให้คำปรึกษาตักเตือน แก่มุสลิมทุกคน” (บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7204 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 56 เป็นสำนวนของท่าน
@@@@@@
การทำสัตย์ยาบันกับชัยค์หรืออาจารย์ผู้ชี้นำ เป็นแบบอย่างของใครหรือ อาจารย์คือ ผู้นำที่มีอำนาจปกครองรัฐอิสลามหรือ การที่มีการนำหะดิษที่เศาะหาบะฮทำบัยอะฮกับท่านนบี ศอ็ลฯ มาอ้างเป็นหลักฐานในการทำบัยอะฮกับอาจารย์เพื่อรับเฏาะรีกัต มันสมควรแล้วหรือ
والله أعلم بالصواب
@@@@@@
การทำสัตย์ยาบันกับชัยค์หรืออาจารย์ผู้ชี้นำ เป็นแบบอย่างของใครหรือ อาจารย์คือ ผู้นำที่มีอำนาจปกครองรัฐอิสลามหรือ การที่มีการนำหะดิษที่เศาะหาบะฮทำบัยอะฮกับท่านนบี ศอ็ลฯ มาอ้างเป็นหลักฐานในการทำบัยอะฮกับอาจารย์เพื่อรับเฏาะรีกัต มันสมควรแล้วหรือ
والله أعلم بالصواب
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดหมัดอะดั้ม
๕/๑๐/๕๙
ปล. หากใครประสงค์จะนำหลักฐานมาหักล้างก็ยินดี แต่ไม่หะลาลนำไปฟิตนะฮตามอารมณ์
๕/๑๐/๕๙
ปล. หากใครประสงค์จะนำหลักฐานมาหักล้างก็ยินดี แต่ไม่หะลาลนำไปฟิตนะฮตามอารมณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น