วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วาทกรรมของคนที่อ้างว่าคุณลักษณะอัลลอฮตามตัวบทไม่ใช่ความหมายจริง










วาทกรรมของคนที่อ้างว่าคุณลักษณะอัลลอฮตามตัวบทไม่ใช่ความหมายจริง


ราชสีห์ ผู้ภักดีของแผ่นดิน
28 ตุลาคม เวลา 7:29 น.
หากเราเข้าใจตัวบทแบบคำตรงหรือคำแท้ (ฮะกีกัต) มันก็ออกมาให้เห็นแบบเหมือนอากีดะเหมือนวาฮาบีทุกวันนี้ครับ แต่ถ้าหากเราทำการมอบหมายหรือตีความถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ภาพมันก็ไม่มีทางจะออกมาแบบนี้ได้อย่างแน่นอนครับ
พระองค์ทรงตรัสว่า
هُوَ الأََوَّلُ وَالآخِرُ وَالظَّاهِرُ وَالْبَاطِنُ
"พระองค์ทรงเป็นองค์แรก พระองค์ทรงเป็นองค์สุดท้าย พระองค์ทรงเป็นภายนอก และพระองค์ทรงเป็นภายใน" (อัล-หะดีด 3)
หมายถึงพระองค์ทรงเป็นองค์แรกและทรงกอดีมมีมาตั้งแต่เดิมโดยไม่มีจุดเริ่มต้น แต่ปรากฏว่าการเชื่อว่าพระองค์ทรงมีทิศที่กอดีม(ที่ไม่ใช่มัคโลค) นั้น ย่อมชี้ให้เห็นว่า อัลเลาฮฺทรงมีมาโดยอยู่พร้อมกับทิศของพระองค์ แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นเตาฮีดแห่งการมีนะครับ เพราะพระองค์ต้องเตาฮีด(เอกกะ)ในการเริ่มมีขึ้นมาด้วย เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์หรือเป็นสิ่งแรกแห่งการมี
ทั้งที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า
كان الله ولم يكن شيء غيره
" พระองค์ทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสิ่งใดเลย นอกจากพระองค์(เพียงองค์เดียว) " รายงานโดย อัล-บุคอรีย์
หมายถึง อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงยังคงมีมาตั้งแต่เดิมแล้ว โดยที่ไม่มีสิ่งใดอยู่พร้อมกับพระองค์ ไม่มีทิศ (ไม่ว่าจะมัคโลคหรือไม่มัคโลคก็ตาม) ไม่มีน้ำ ไม่มีอากาศ ไม่มีผืนดิน ไม่มีท้องฟ้า ไม่มีกุรซีย์ ไม่มีอะรัช ไม่มีมนุษย์ ไม่มีญิน ไม่มีมะลาอิกะฮ์ ไม่มีเวลา และไม่มีสถานที่ ดังนั้น พระองค์ทรงยังคงมีมาแต่เดิมโดยไม่มีสถานที่ และทรงมีมาก่อนที่จะมีสถานที่ และปัจจุบันพระองค์ยังคงมีุคุณลักษณะอย่างนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง

@@@@@

ชี้แจง

ข้างต้นคือวาทกรรมที่เป็นตรรกทางปัญญา เข้าใจว่า หาอิษบาต(ยืนยัน)บรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮ ที่ปรากฏในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ  เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับตรรกทางปัญญา และไม่กินกับปัญญา ตามความเข้าใจและการจินตนาการ   จึงมีการตีความให้สอดรับกับเหตุผลทางปัญญา  ทั้งๆที่สิ่งเหลานี้ อัลลอฮตาอาลาไม่ได้ให้อำนาจเขาในการกระทำเช่นนั้น

หลักการอิษบาตสิฟาต(การรับรองหรือยืนยัน)คุณลักษณะของอัลลอฮตาอาลานั้นคือ  การยืนยันคุณลักษณะของอัลลอฮตามความหมายจริงที่ปรากฏตามตัวบท (ไม่ใช่ความหมายผิวเผินอย่างที่ท่านครูคนหนึ่งอุปโลกน์คำนี้)  และสะลัฟเขาไม่อธิบายรูปแบบสิฟาต เพราะอัลลอฮ ทรงอยู่นอกเหนือจินตนาการและทรงไม่มีสิ่งใด เสมอเหมือน

อับนุอับดิลบีร (ฮ.ศ 368 - 463ْ ) กล่าวว่า

أهل السنة مجمعون على الإقرار بالصفات الواردة كلها في القرآن والسنة والإيمان بها وحملها على الحقيقة لا على المجاز إلا أنهم لا يكيفون شيئا من ذلك ولا يحدون فيه صفة محصورة

อะฮ์ลุสสุนนะฮ์ มีมติเห็นพ้องกัน ในการยอมรับบรรดาคุณลักษณะ(ซิฟาต) ทั้งหมดที่ปรากฏในอัลกุรอ่านและซุนนะฮ์ และศรัทธาต่อมัน และถือมันตามความหมายจริง(ฮะกีกัต) ไม่ใช่ตามความหมายในเชิงอุปมาอุปมัย นอกจากว่า แท้จริงพวกเขา ไม่ได้อธิบายวิธีการว่าเป็นอย่างไรจากซิฟัตดังกล่าวเลย และพวกเขาไม่ได้จำกัดในนั้น เป็นคุณลักษณะหนึ่งลักษณะที่เฉพาะ
...............

-ข้างต้นคือ อะกีดะฮสะลัฟ คือการยอบรับคุณลักษณะของอัลลอฮ ตามที่ปรากฏในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ  ศรัทธาและถือตามความหมายจริง       

ส่วนอะกีดะฮตามความเชื่อของบาบอ ราชสีห์ ผู้ภักดีของแผ่นดินนั้น
อิบนุอับดิลบัร (ร.ฮ) บอกว่าเป็นทัศนะของอะฮลุลบิดอะฮ ,พวกมุอตะซิละฮ ,พวกญะฮมียะฮและเคาะวาริจญ  คือ

وأما أهل البدع والجهمية والمعتزلة كلها والخوارج فكلهم ينكرها ولا يحمل شيئا منها على الحقيقة ويزعمون أن من أقر بها مشبه وهم عند من أثبتها نافون للمعبود

และสำหรับ พวกบิดอะฮ์ พวกญะฮ์มียะฮ และพวกมุอฺตะซิละฮ์ พวกเขาทั้งหมดนั้น และพวกเคาะวาริจญ์ ทั้งหมด ปฏิเสธมัน และไม่ได้ถือตามความหมายฮะกีกัตจากมัน(บรรดาซิฟาตดังกล่าว)
พวกเขาอ้างว่า ผู้ที่ยอมรับมัน(ตามความหมายฮะกีกัต)นั้นเป็นพวกมุชับบะฮะฮ์ ( คือเป็นผู้ที่นำอัลลอฮ์ไปเทียบกับมัคลู๊ก )และในทัศนะของพวกเขาถือว่า ผู้ที่ยอมรับมัน เป็นผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้าผู้ควรเคารพภักดี
.............

พวกอะฮลุลบิดอะฮ พวกมุอตะซิละฮ พวกญะฮมียะฮ พวกเขาคัดค้านการยืนยันสิฟาตตามความหมายที่มีมาตามตัวบท โดยเข้าใจว่า การยืนยันความหมายตามตัวบท นั้น เป็นการเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค และนี่คือ อะกีดะฮอะฮลุลบิดอะฮ 

ท่านอิบนุอับดุลบัร (ร.ฮ)กล่าวสรุปว่า

والحق فيما قاله القائلون بما نطق به كتاب الله وسنة رسوله وهم أئمة الجماعة والحمد لله
และความถูกต้องนั้น มันอยู่ในสิ่งที่บรรดาผู้ที่มีทัศนะตามที่กิตาบุลเลาะฮ์และซุนนะฮ์ของรอซูลของพระองค์ได้กล่าวเอาไว้ พวกเขาคือ ผู้นำแห่งอัลญะมาอะฮ์ อัลฮัมดุลิ้ลละฮ์

- ดู อัตตัมฮิด เล่มที่ 7 หน้า 145
..................

จากรายละเอียดข้างต้นสรุปว่า
1.อะฮลุสสุนนะฮ ยืนยันคุณลักษณะของอัลลอฮ ตามความหมายจริงที่มีมาตามตัวบท
2.อะกีดะฮอะฮลุลบิดอะฮ  มุอตะซิละฮ และญะฮมียะฮ ปฏิเสธความหมายจริงที่มีมาตามตัวบท โดยอ้างว่าผู้ที่ยืนยันความหมายจริงตามตัวบท เป็นการเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค
อิบนุอับดิลบัร(ร.ฮ) ได้แยกแยะไว้ชัดเจนระหว่างอะกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮ กับ อะกีดะฮอะฮลุลบิดอะฮ   ผู้อ่านพิจารณาเองว่าจะเดินตามแนวทางใหน

والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
31/10/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น