
ระวังการบิดเบือนจุดมุ่งหมายอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ(เพื่อสนับสนุนบิดอะฮ)
Chaya Ilmudhulu
2 ธันวาคม เวลา 11:37 น. ·
งานเมาลิดคืออะไร ทำได้หรือไม่ได้ ? อ่านให้จบ แล้วจะได้เข้าใจ
งานเมาลิดคืออะไร ทำได้หรือไม่ได้ ? อ่านให้จบ แล้วจะได้เข้าใจ
(4.1) ไม่ใช่นาบีไม่ทำ ประเด็นก็คือห้าม เพราะหลายอย่างสมัยนาบีไม่เคยทำ ไม่เคยมี แต่สมัยคอลีฟะทำ เช่นรวบรวมฮาดีษ อาซานวันศุกร์ สองครัง รวมตัวละหมาด ตารอเวะห ทุกคืน อย่าบอกว่านาบียอมรับ เพราะไม่ใช่สมัยนาบี หรือสมัยนาบีไม่ทำ สมัยซอหาบะหไม่ทำ สมัยตาบีอีนทำ เช่นตัฟสีรกุรอ่าน และฟิก ลๆ นาบีสังให้ทำไหม ตัฟสีรอิบนุลกาสีร วะหบีชอบอ้างมา ถ้าดีจริงนาบี สังซอฮาบัตทำแล้วสิ ไม่ต้องให้อิบนุลกาสีรทำแล้ว ดูหลักฐานของวะหบีอ้างผิดๆคืออัลลอหกล่าว
وماأتىاكم الرسول فخذوه ومانهاكم عنه فانتهوا سورة حشر اية 7
สิ่งอะรัยทีรอซูลให้ أتى ความหวาม أعطى แก่พวกท่าน จงรับเถิด ( أموال) หรือ (غنيمة) และสิ่งอะรัยทีรอซูลห้ามไม่ให้รับ (أموال )หรือ (غنيمة) พวกเจ้าจงทิ้งเถิด ดูในตัฟสีร الطَّبَري
แต่วะหบี แปล สิ่งอะรัยทีนาบีพาให้พวกเจ้า (กุรอ่าน ฮาดีษ) จงรับเถิด และอะรัยทีนาบีห้าม (บิดอะห)จงทิ้งสะ แปลเองมัง แล้วถ้าเราแปลเหมือนวะหบี (1)สิ่งทีนาบีนำมา (2) สิ่งทีนาบีห้าม (3) สิ่งทีนาเงียบ คือไม่นำมา และไม่ห้าม ข้อ 3 นี้เหละทีเราต้องการ ทำได้หรือไม่ เช่น รวมตัวกันซอลาลาวัต รวบรวมหาดีษ รวมละหมาดตาราเวหทุกๆคื้น คำตอบคือ ทำได้ครับ เพราะมีตัวบทในฮาดีษ รายงานจาก البزار
และซอเฮะโดย الحاكم
แต่วะหบี แปล สิ่งอะรัยทีนาบีพาให้พวกเจ้า (กุรอ่าน ฮาดีษ) จงรับเถิด และอะรัยทีนาบีห้าม (บิดอะห)จงทิ้งสะ แปลเองมัง แล้วถ้าเราแปลเหมือนวะหบี (1)สิ่งทีนาบีนำมา (2) สิ่งทีนาบีห้าม (3) สิ่งทีนาเงียบ คือไม่นำมา และไม่ห้าม ข้อ 3 นี้เหละทีเราต้องการ ทำได้หรือไม่ เช่น รวมตัวกันซอลาลาวัต รวบรวมหาดีษ รวมละหมาดตาราเวหทุกๆคื้น คำตอบคือ ทำได้ครับ เพราะมีตัวบทในฮาดีษ รายงานจาก البزار
และซอเฮะโดย الحاكم
ما أحل الله في كتابه فهو حلال وما حرم الله في كتابه فهو حرام وما سكت عنه فهو عفو
สิ่งทีอัลลอห ฮาลาลในคำภี ก็คือ ฮาลาล และ สิ่งทีอัลลอห ห้ามในคำภี ก็คือห้าม และ สิ่งที่อัลลอหไม่ได้กล่าวในคำภี ก็คือ อาภัยให้ เช่น รวบรวมตัว กันสอลาวาต รวบรวบฮาดีษ ตัฟสีรมาจากอุลามาอ์ เช่น ตัฟสีรอิบนุลกาสีร ถ้าตัฟสีรมาจากนาบีไม่เป็นรัย ลๆ แต่วะหบีบอกฮาดีษบทนี้ คือเจาะจง เรืองอาดัต พูดก็ผิดๆ ถ้าบอกเรืองมูอามาลัต อย่างชัวร์หน่อย แต่ก็โกหกเหมือนกัน เพราะไม่มีศอหาบะหและสาลัฟเจาะจงหาดีษนี้ คือเรืองมูอามาลัต เพราะสัยยีดีนาอาลี รวบรวมละหมาดตาราเวะหทุกๆคืนแบบยามาอะห โดยนาบีไม่เคยบังคับมาก่อน จะละหมาดคนเดิยวก็ได้ ยามาอะหก้ได้ แต่สมัย คอลีฟะอูมัร ถ้าจะทำในมัสยิดบังคับแบบยามาอะห อย่างเดิยว และอีหมามสาฟีอี ถ้าทิ้งละหมาด ต้องก็ดอ โดยนาบีไม่เคยทิ้งละหมาด ไม่เคยก็ดอ ความเข้าใจของวะหบีผิดอีกประเด็น
@@@@
ชี้แจง
ยังคงมีการบิดเบือนหะดิษเพื่อสนับสนุนบิดอะฮไม่หยุดย่อน ยังคงบิดเบือนหะดิษเพื่อโจมตีให้ร้ายคนที่ถูกเรียก"วะฮบีย" อย่างต่อเนื่อง ยังคงต่อแหลกลับกลองที่อ้างว่าแนวทางซูฟีย์คือพวกที่ขัดเกลาหัวใจแล้ว
ขอตอบดังนี้
1.นาย Chaya Ilmudhulu "อ้างว่า หลักฐานของวะหบีอ้างผิดๆคืออัลลอหกล่าว
وماأتىاكم الرسول فخذوه ومانهاكم عنه فانتهوا سورة حشر اية 7
สิ่งอะรัยทีรอซูลให้ أتى ความหวาม أعطى แก่พวกท่าน จงรับเถิด ( أموال) หรือ (غنيمة) และสิ่งอะรัยทีรอซูลห้ามไม่ให้รับ (أموال )หรือ (غنيمة) พวกเจ้าจงทิ้งเถิด ดูในตัฟสีร الطَّبَري
แต่วะหบี แปล สิ่งอะรัยทีนาบีพาให้พวกเจ้า (กุรอ่าน ฮาดีษ) จงรับเถิด และอะรัยทีนาบีห้าม (บิดอะห)จงทิ้งสะ แปลเองมัง
.............
ตอบ
แต่วะหบี แปล สิ่งอะรัยทีนาบีพาให้พวกเจ้า (กุรอ่าน ฮาดีษ) จงรับเถิด และอะรัยทีนาบีห้าม (บิดอะห)จงทิ้งสะ แปลเองมัง
.............
ตอบ
ข้างต้นคือการโกหกบินเบือนให้ร้ายคนที่ถูกเรียกวะฮบีย ทั้งนี้เพราะ คำแปลที่เราใช้กันคือ
وَمَا آتَاكُمُ الرَّسُولُ فَخُذُوهُ وَمَا نَهَاكُمْ عَنْهُ فَانتَهُوا ۚ
และอันใดที่รอซูลได้นำมายังพวกเจ้า ก็จงยึดเอาไว้ และอันใดที่ที่ท่านได้ห้ามพวกเจ้าก็จงละเว้นเสีย -สูเราะฮฺ อัล-หัชร์/7 -ฉบับจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการอิสลามประเทศซาอุดิอาราเบีย
............................
เพราะฉะนั้น นาย Chaya Ilmudhulu โกหกที่อ้าง ว่าวะฮบีย์แปลว่า แต่วะหบี แปล สิ่งอะรัยทีนาบีพาให้พวกเจ้า (กุรอ่าน ฮาดีษ) จงรับเถิด และอะรัยทีนาบีห้าม (บิดอะห)จงทิ้งสะ....( ซูฟียฏอรีกัตเขาชำระหัวใจให้สะอาดแล้ว มิใช่หรือยังโกหกอีกหรือ)
............................
เพราะฉะนั้น นาย Chaya Ilmudhulu โกหกที่อ้าง ว่าวะฮบีย์แปลว่า แต่วะหบี แปล สิ่งอะรัยทีนาบีพาให้พวกเจ้า (กุรอ่าน ฮาดีษ) จงรับเถิด และอะรัยทีนาบีห้าม (บิดอะห)จงทิ้งสะ....( ซูฟียฏอรีกัตเขาชำระหัวใจให้สะอาดแล้ว มิใช่หรือยังโกหกอีกหรือ)
2 นาย Chaya Ilmudhulu แปลว่า "สิ่งอะรัยทีรอซูลให้ أتى ความหวาม أعطى แก่พวกท่าน จงรับเถิด ( أموال) หรือ (غنيمة) และสิ่งอะรัยทีรอซูลห้ามไม่ให้รับ (أموال )หรือ (غنيمة) พวกเจ้าจงทิ้งเถิด ดูในตัฟสีร الطَّبَري
......
ตอบ
......
ตอบ
ดูคำแปลของนาย Chaya Ilmudhulu แล้ว ไม่ต่างอะไรกับเด็กฝึกหัด ไม่ประสีประสาในการใช้คำเลยสักนิดเดียว
และขอเรียนผู้อ่านว่า "อายะฮนี้แม้จะเกี่ยวกับ เรื่อง "เฆาะนีมะฮ(ทรัพย์สินที่ยึดได้จากข้าศึก) แต่บทเรียนของอายะฮนี้ ครอบคลุมถึง สิ่งที่ท่านนบีนำมาในเรื่องคำสอนศาสนา จำเป็นมุสลิมทุกคนจะต้องยึดถือปฏิบัติ
และขอเรียนผู้อ่านว่า "อายะฮนี้แม้จะเกี่ยวกับ เรื่อง "เฆาะนีมะฮ(ทรัพย์สินที่ยึดได้จากข้าศึก) แต่บทเรียนของอายะฮนี้ ครอบคลุมถึง สิ่งที่ท่านนบีนำมาในเรื่องคำสอนศาสนา จำเป็นมุสลิมทุกคนจะต้องยึดถือปฏิบัติ
อิบนุอัลอัรบีย์ ( أبو بكر بن العربي ) ฮ.ศ 468 -543 ได้กล่าวถึงทัศนะที่อธิบายอายะฮนี้ 3 ทัศนะ และท่านได้กล่าวถึงคำอธิบายทัศนะที่สามว่า
الثَّالِثُ : مَا أَمَرَكُمْ بِهِ مِنْ طَاعَتِي فَافْعَلُوهُ وَمَا نَهَاكُمْ عَنْهُ مِنْ مَعْصِيَتِي فَاجْتَنِبُوهُ . وَهَذَا أَصَحُّ الْأَقْوَالِ ; لِأَنَّهُ لِعُمُومِهِ تَنَاوَلَ الْكُلَّ ، وَهُوَ صَحِيحٌ فِيهِ مُرَادٌ بِهِ .
ทัศนะที่สาม : สิ่งใดที่เขา(รอซูล)ได้สั่งพวกเจ้า ด้วยมัน จากการภักดีต่อข้า พวกเจ้าจงปฏิบัติมันเถิด และ สิ่งใดที่เขา(รอซูล) ได้ห้ามพวกเจ้าจากมัน จากสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อข้า พวกเจ้าก็จงห่างใกลจากมัน และนี้คือทัศนะที่ถูกต้องที่สุด ของบรรดาทัศนะต่างๆ เพราะแท้จริง เพราะการกล่าวโดยรวม(อุมูม)ของมัน มันกินความหมายทั้งหมด และมันคือ ทัศนะที่ถูกต้อง ที่เป็นจุดมุ่งหมายด้วยมัน - ตัฟสีร อะหกามอัลกุรอ่าน ของอิบนุอัลอะเราะบีย์ เล่ม 4 หน้า 215
...................
ข้างต้นคือจุดมุ่งหมายของอายะฮคือ สิ่งใดที่ท่านรอซูล ศอ็ลฯสั่ง ที่เกี่ยวกับการภักดีต่ออัลลอฮ ก็ให้ปฏิบัติตาม และสิ่งใดที่ท่านรซูลุลลอฮ (ศอ็ลฯ)ห้ามเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮ ก็จงห่างใกล และนี้คือทัศนะที่ถูกต้อง
หลักการเอาบทเรียนจากอัลกุรอ่านมีอยู่ว่า
العبرة بعموم اللفظ لا بخصوص السبب
"การพิจารณานั้น ต้องพิจารณาที่ถ้อยคำที่ความหมายครอบคลุม ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะที่สาเหตุ"
3. นาย Chaya Ilmudhulu อ้างหะดิษต่อไปนี้ว่าสิ่งใดที่นบี ศอ็ลฯไม่ห้าม ไม่ทำ ก็สามารถทำได้คือ
وما أحل الله فى كتابه فهو حلال وما حرم فهو حرام ، وما سكت عته فهو عفو
สิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงอนุมัตในคำภีร์ของพระองค์นั้น คือสิ่งที่หะลาล และสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามนั้น คือสิ่งที่หะรอม และสิ่งที่พระองค์ทรงนิ่งจากมัน ย่อมเป็นการอนุโลมให้
........
........
ตอบ
นาย Chaya Ilmudhulu บิดเบือนหลักการของหะดิษ
หะดิษข้างต้น เกี่ยมกับประเด็นทางสังคมในเรื่องหะรอม หะลาล ไม่ได้เกี่ยวกับ เรื่องอิบาดะฮแต่อย่างใด
หลักการศาสนาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกิจการทางโลก
หลักการศาสนาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกิจการทางโลก
الْأَصْلُ فِي الْأَشْيَاءِ الْإِبَاحَةُ حَتَّى يَدُلُّ الدَّلِيلُ عَلَى التَّحْرِيمِ
หลักเดิมในบรรดาสิ่งต่างๆนั้น คือการอนุญาต จนกว่า จะมีหลักฐานแสดงบอกว่า เป็นการห้าม- อัลอัชบาตวัลนะซออิร หน้า 60
หมายถึง บรรดากิจการต่างๆในทางโลก หรือ เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นเรื่องปกติวิสัยของมนุษย์ ในทางโลก(อาดัต) หรือด้านปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ทางสังคม (มุอามะลาต) เรื่อง อาหาร การกิน หากไม่มีตัวบทจากศาสนบัญญัติมาแสดงบอกว่า ห้าม ก็ถือว่า สิ่งนั้น เป็นสิ่งอานุญาต
.........
ท้ายนี้ ขอฝากเตื่อนผู้ศึกษา ต้องระวังข้อมูลที่คนเอาอัลกุรอ่านหะดิษมาบิดเบือน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นบิดอะฮ และท้ายนี้ขอดุอาต่ออัลลอฮ โปรดชี้นำ Chaya Ilmudhulu ด้วยเพราะ เขาเขียนนั่งเทียน คิดเอง เออเอง ไม่ยอมศึกษาหลักฐาน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
19 /12/60
หมายถึง บรรดากิจการต่างๆในทางโลก หรือ เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นเรื่องปกติวิสัยของมนุษย์ ในทางโลก(อาดัต) หรือด้านปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ทางสังคม (มุอามะลาต) เรื่อง อาหาร การกิน หากไม่มีตัวบทจากศาสนบัญญัติมาแสดงบอกว่า ห้าม ก็ถือว่า สิ่งนั้น เป็นสิ่งอานุญาต
.........
ท้ายนี้ ขอฝากเตื่อนผู้ศึกษา ต้องระวังข้อมูลที่คนเอาอัลกุรอ่านหะดิษมาบิดเบือน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นบิดอะฮ และท้ายนี้ขอดุอาต่ออัลลอฮ โปรดชี้นำ Chaya Ilmudhulu ด้วยเพราะ เขาเขียนนั่งเทียน คิดเอง เออเอง ไม่ยอมศึกษาหลักฐาน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
19 /12/60
เอกสารเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น