วาทกรรมโกหกบิดเบือนว่าอิหม่ามอะหมัดทำสิ่งที่นบีไม่ทำ
3. ท่าน อีหม่าม อะฮฺหมัด บิน ฮัมบัล (ร.ฮ)
قال عبد الله بن أحمد: كان أبي يصلي في كل يوم وليلة ثلاث مئة ركعة. فلما مرض من تلك الأسواط أضعفته، فكان يصلي في كل يوم وليلة مئة وخمسين ركعة، وقد كان قرب من الثمانين
“ ท่านอับดุลลอฮฺ บิน อะฮฺหมัด(บุตรชายอีหม่าม อะฮฺหมัด)ได้กล่าวว่า “บิดาของฉันได้ทำการละหมาด ในทุกๆวันคืน
#เป็นจำนวน 300 ร๊อกอัต...และขณะที่ท่านล้มป่วยหนัก สิ่งเหล่านั้นทำให้ท่านอยู่ในสภาพที่อ่อนเพลีย ....ท่านจึงละหมาด(สุนัต)ในแต่ละวันคืนนั้นแค่ 150 ร๊อกอัต และอายุของท่านก็เกือบๆ 80 ปี”
(โปรดดูใน مختصر تاريخ دمشق لابن رجب الحنبلي ส่วนที่ 1 หน้า 399
ท่านอีหม่าม อะฮฺหมัด บิน ฮัมบัล (ร.ฮ) #ได้กระทำการละหมาดสุนัตดังกล่าวโดยเอารูปแบบมาจากใคร?
ฮาดีษบทไหน? คอลีฟะฮฺผู้ทรงธรรมท่านใดกระทำไว้?...
#คำตอบจะยังคงวกวน#
#และผู้ตอบจะยังคงอยู่ในความลังเล#
#และสุดท้ายก็แถไปเรีอย#
ตราบใดที่ผู้ตอบยังไม่เข้าใจถ่องแท้ กับคำว่า
#Bidah# #บิดอะฮฺ# ##بدعة....
...... อัลลอฮฺเท่านั้นคือผู้ทรงชี้นำ.....
قال عبد الله بن أحمد: كان أبي يصلي في كل يوم وليلة ثلاث مئة ركعة. فلما مرض من تلك الأسواط أضعفته، فكان يصلي في كل يوم وليلة مئة وخمسين ركعة، وقد كان قرب من الثمانين
“ ท่านอับดุลลอฮฺ บิน อะฮฺหมัด(บุตรชายอีหม่าม อะฮฺหมัด)ได้กล่าวว่า “บิดาของฉันได้ทำการละหมาด ในทุกๆวันคืน
#เป็นจำนวน 300 ร๊อกอัต...และขณะที่ท่านล้มป่วยหนัก สิ่งเหล่านั้นทำให้ท่านอยู่ในสภาพที่อ่อนเพลีย ....ท่านจึงละหมาด(สุนัต)ในแต่ละวันคืนนั้นแค่ 150 ร๊อกอัต และอายุของท่านก็เกือบๆ 80 ปี”
(โปรดดูใน مختصر تاريخ دمشق لابن رجب الحنبلي ส่วนที่ 1 หน้า 399
ท่านอีหม่าม อะฮฺหมัด บิน ฮัมบัล (ร.ฮ) #ได้กระทำการละหมาดสุนัตดังกล่าวโดยเอารูปแบบมาจากใคร?
ฮาดีษบทไหน? คอลีฟะฮฺผู้ทรงธรรมท่านใดกระทำไว้?...
#คำตอบจะยังคงวกวน#
#และผู้ตอบจะยังคงอยู่ในความลังเล#
#และสุดท้ายก็แถไปเรีอย#
ตราบใดที่ผู้ตอบยังไม่เข้าใจถ่องแท้ กับคำว่า
#Bidah# #บิดอะฮฺ# ##بدعة....
...... อัลลอฮฺเท่านั้นคือผู้ทรงชี้นำ.....
@@@@
เป็นสะลัฟคนที่สามที่นาย Faisal Dalawii Azharii นักศึกษาอัลอัซฮัร นำมาอ้างบิดเบือน ว่า อิหม่ามอะหมัด (ร.ฮ) ทำในสิ่งที่นบีไม่ทำ เพื่อเป็นข้ออ้างสนับสนุนบิดอะฮที่ถูก ชื่อว่า "บิดอะฮหะสะนะฮ ทั้งๆ ที่สะลัฟ ได้ยืนยันว่า บิดอะฮคือการหลงผิด
ดังที่ท่านอิบนุอุมัร (ร.ฎ) กล่าวว่า
ดังที่ท่านอิบนุอุมัร (ร.ฎ) กล่าวว่า
كل بدعة ضلالة وإن رآها الناس حسنة
ทุกบิดอะฮคือการหลงผิด และแม้ว่ามนุษย์จะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดีก็ตาม –ดูที่มาข้างล่าง
رواه اللالكائي (رقم126)،وابن بطة (205)،والبيهقي في "المدخل إلى السنن"(191)،وابن نصر في "السنة" (رقم70) بسند صحيح كما في "علم أصول البدع" لعلي الحلبي (ص92).
อิหม่ามอะหมัด (ร.ฮ)เองก็ยืนยันว่า บิดอะฮคือการหลงผิด เช่น
قَالَ : حَدَّثَنَا عَبْدُوسُ بْنُ مَالِكٍ الْعَطَّارُ ، قَالَ : سَمِعْتُ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ أَحْمَدَ بْنَ مُحَمَّدِ بْنِ حَنْبَلٍ ، يَقُولُ : " أُصُولُ السُّنَّةِ عِنْدَنَا : التَّمَسُّكُ بِمَا كَانَ عَلَيْهِ أَصْحَابُ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ , وَالاقْتِدَاءُ بِهِمْ , وَتَرْكُ الْبِدَعِ , وَكُلُّ بِدْعَةٍ فَهِيَ ضَلالَةٌ ,........
คำแปลตัวบท
คำแปลตัวบท
อะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน หัมบัล กล่าวว่า รากฐานอัสสุนนะฮ ในทัศนะของเราคือ การยึดมั่น ด้วยสิ่งที่บรรดาเศาะหาบะฮของรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ยืนหยัดอยู่บนมัน ปฏิบัติตามพวกเขา , ทิ้งบรรดาบิดอะฮ และทุกบิดอะฮ มันคือ การหลงผิด, ....................ชัรหุอุศูลอัลเอียะติกอด อะฮลิสสุนนะฮ เล่ม 1 หน้า 156
อิหม่ามอะหมัด( ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
والسنة عندنا آثار رسول الله صلى الله عليه وسلم، والسنة تفسر القرآن وهي دلائل القرآن وليس في السنة قياس، ولا تضرب لها الأمثال، ولا تدرك بالعقول ولا الأهواء إنما هو الاتباع وترك الهوى
และ อัสสุนนะฮนะฮ ในทัศนะของเราคือ บรรดาร่องรอย(หะดิษ)ของรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และอัสสุนนะฮ นั้น มันทำหน้าที่อรรถาธิบายอัลกุรอ่าน และมันคือ บรรดาหลักฐานของอัลกุรอ่าน และในอัสสุนนะฮนั้นไม่มีการกิยาส(ที่ขัดแย้งกับตัวบท) ,ไม่มีการยกตัวอย่างมาเทียบกับอัสสุนนะฮ และ อัสสุนนะฮ จะไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยความคิดเห็นและอารมณ์ ความจริง มัน(อัสสุนนะฮ)คือ การเจริญรอยตามและละทิ้งการตามอารมณ์เท่านั้น
- ชัรหุอุศูลุสสุนนะฮของอิหม่ามอะหมัด อธิบาย โดย الشيخ عبد العزيز بن عبد الله الراجحي เรื่อง معنى السنة وعلاقتها بالقرآن
- ชัรหุอุศูลุสสุนนะฮของอิหม่ามอะหมัด อธิบาย โดย الشيخ عبد العزيز بن عبد الله الراجحي เรื่อง معنى السنة وعلاقتها بالقرآن
...............
อิหม่ามอะหมัด (ร.ฮ) ยึดมั่นในสุนนะฮ แต่มีคนบิดเบือนว่า ท่านทำบิดอะฮ -นะอูซุบิลละฮ
อิหม่ามอะหมัด (ร.ฮ) ยึดมั่นในสุนนะฮ แต่มีคนบิดเบือนว่า ท่านทำบิดอะฮ -นะอูซุบิลละฮ
การอ้างว่าอิหม่ามอะหมัด (ร.ฮ)ทำสิ่งที่นบีไม่ทำ ข้างต้น
ไม่น่าเชื่อว่า คุณ Faisal Dalawii Azharii เรียนถึงเมืองนอกเมืองนา ที่มหาลัยอัลอัซฮัร แต่ ไม่เข้าใจคำว่า “นัฟลุลมุฏลัก” ดังนั้นผม ขอเรียนว่า
ละหมาดสุนัต นอกจากละหมาดสุนัตที่ควบคู่ไปกับละหมาดฟัรดู หรือ ที่เรียกว่า “รอวาติบ”เช่น ละหมาดสุนัตก่อน-หลังละหมาดฟัรดู แล้ว ก็มีละหมาดสุนัต ถูกจำกัดเวลาและสาเหตุ เช่น ละหมาดอีด ละหมาดขอฝน เป็นต้น และมีสุนัตอีกประเภทหนึ่ง เรียกกันว่า สุนัตมุฏลัก หรือ นัฟลุ้ลมุฏลัก คือ การละหมาดสุนัต ที่ไม่ได้จำกัดจำนวนและเวลา ยกเว้น ห้ามทำในเวลาที่ต้องห้าม เราจะทำจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ โดยไม่ผูกมัดตัวเองและ จำกัดเวลา ในโอกาสนั้น โอกาสนี้ ดังนิยามว่า
ละหมาดสุนัต นอกจากละหมาดสุนัตที่ควบคู่ไปกับละหมาดฟัรดู หรือ ที่เรียกว่า “รอวาติบ”เช่น ละหมาดสุนัตก่อน-หลังละหมาดฟัรดู แล้ว ก็มีละหมาดสุนัต ถูกจำกัดเวลาและสาเหตุ เช่น ละหมาดอีด ละหมาดขอฝน เป็นต้น และมีสุนัตอีกประเภทหนึ่ง เรียกกันว่า สุนัตมุฏลัก หรือ นัฟลุ้ลมุฏลัก คือ การละหมาดสุนัต ที่ไม่ได้จำกัดจำนวนและเวลา ยกเว้น ห้ามทำในเวลาที่ต้องห้าม เราจะทำจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ โดยไม่ผูกมัดตัวเองและ จำกัดเวลา ในโอกาสนั้น โอกาสนี้ ดังนิยามว่า
النفل المطلق وهو النفل الذي يقوم صاحبه ليتطوع به فقط
นัฟลุ้ลมุฏลัก คือ นัฟลุ้ลที่ เจ้าของของมัน กระทำขึ้น เพื่อให้เป็นความ สมัครใจ ด้วยมันเท่านั้น มาดูหะดิษเกี่ยวกับเรื่องนี้
ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า
ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า
الصلاة خير موضوع ، فمن استطاع أن يستكثر فليستكثر
การละหมาด เป็นสิ่งที่ถูกวางไว้ที่ดี ดังนั้น ผู้ใดสามารถเพิ่มให้มากได้ ก็จงเพิ่มให้มากเถิด – รายงานโดย อัฏฏอ็บรอนีย์ และอัลบานีย์ ระบุไว้ใน เศาะเหียะญามุอัศเศาะฆัยร หะดิษหมายเลข 3870 ว่า เป็นหะดิษหะซัน
ورواه أيضا الطبراني عن أبي ذر بلفظ الصلاة خير موضوع من شاء أقل، ومن شاء أكثر،
ورواه أحمد وابن حبان والحاكم وصححه عن أبي ذر
ورواه أحمد وابن حبان والحاكم وصححه عن أبي ذر
และอัฏฏอ็บรอนีย์ ได้รายงานจากอบีซัรรินอีก ด้วนสำนวน ที่ว่า “การละหมาด เป็นสิ่งที่ถูกวางไว้ที่ดี ผู้ใดประสงค์จะทำน้อยก็ได้ ผู้ใดประสงค์จะทำมากก็ได้ – รายงานโดยอะหมัด อิบนุหิบบาน และอัลหากิม และเขาระบุว่า เป็นหะดิษเศาะเฮียะ จาก อบีซัรริน - ดูตัคริจญ อะหาดิษ เอียะยาออุลูมิดดีน หะดิษหมายเลข 541 หน้า 481
..............
..............
ท่านอิหม่ามอะหมัด ละหมาดสุนัตมุฏลักด้วยความสมัครใจ ท่านจะทำมากน้อยเท่าไหร่ก็ได้ และท่านไม่ได้สอนคนอื่นว่า ต้องจำกัดเท่านั้น เท่านี้
ในฟิกฮมัซฮับชาฟิอี ระบุว่า
ในฟิกฮมัซฮับชาฟิอี ระบุว่า
( وَلَا حَصْرَ لِلنَّفْلِ الْمُطْلَقِ ) وَهُوَ الَّذِي لَا يَتَقَيَّدُ بِوَقْتٍ وَلَا سَبَبٍ أَيْ لَا حَصْرَ لِعَدَدِهِ وَلَا لِعَدَدِ رَكَعَاتِهِ لِخَبَرِ { الصَّلَاةُ خَيْرُ مَوْضُوعٍ فَاسْتَكْثِرْ مِنْهَا أَوْ أَقِلَّ } فَلَهُ أَنْ يُصَلِّيَ مَا شَاءَ
(ไม่มีการจำกัด สำหรับสุนัตมุฏลัก) และมันคือ (สุนัต)ที่ ไม่จำกัดเวลาลา และสาเหตุ หมายถึง ไม่จำกัดจำนวนของมัน และไม่จำกัดจำนวนเราะกะอัตของมัน เพราะมีหะดิษระบุว่า(“การละหมาด เป็นสิ่งที่ถูกวางไว้ที่ดี ผู้ใดประสงค์จะทำมากก็ได้ ผู้ใดประสงค์จะทำน้อยก็ได้ - ดู นิฮายะตุลมุหตาจญ อิลาชัรหอัลมินฮาจญ ของชัยค์รอมลี เล่ม 2 หน้า 129 เรื่อง ละหมาดสุนัต
........
ผมไม่เข้าใจว่า คุณ Faisal Dalawii Azharii และคณะ อ่านตำราฟิกฮมัซฮับชาฟิอีหรือเปล่า จึงได้อ้างบิดเบือนว่า การละหมาดหลายเราะกะอัต ที่เป็นสุนัตมุฏลัก คือบิดอะฮ และ ข้อมูลที่อ้างล้วนเอามาจากเว็บซุนนะฮสะติวเด้น จึงถามว่า ผู้รู้เว็บไซด์นี้อ่านตาราหรือเปล่าหรือว่านั่งเทียนเขียน
........
ผมไม่เข้าใจว่า คุณ Faisal Dalawii Azharii และคณะ อ่านตำราฟิกฮมัซฮับชาฟิอีหรือเปล่า จึงได้อ้างบิดเบือนว่า การละหมาดหลายเราะกะอัต ที่เป็นสุนัตมุฏลัก คือบิดอะฮ และ ข้อมูลที่อ้างล้วนเอามาจากเว็บซุนนะฮสะติวเด้น จึงถามว่า ผู้รู้เว็บไซด์นี้อ่านตาราหรือเปล่าหรือว่านั่งเทียนเขียน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/12/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/12/60
เอกสารเพิ่มเติม


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น