
ขบวนการสร้างวาทกรรม”มุญัสสิม”ยัดเยียดให้วะฮบีย์
Matty Ibnufatim Hamady
21 ชม. •
21 ชม. •
...
วาฮะบีย์ยึดตามคำพูดของท่าน อิบนุตัยมียะห์ ว่า ไม่มีชาวสะลัฟคนไหนปฏิเสธรูปร่างเเก่อัลลอฮ์ ซึ่งเป็นการอ้างที่ไม่เป็นจริง เพราะ มีชาวสะลัฟมากมายที่ปฏเสธรูปร่างเเก่อัลลอฮ์ ยกเว้น พวกสาลัฟ ที่เป็นมุญัสสิมะห์ ซึ่งยึดว่า อัลลอฮ์มีรูปร่าง เเต่รูปร่างไม่เหมือนมัคลูก
ท่าน อิบนุตัยมียะฮ ได้อ้างว่า ไม่สะลัฟท่านใด ปฏิเสธเรื่องรูปร่างเเก่อัลลอฮ์ ซึ่งวาฮะบีย์ ก็ตามคำพูดของท่าน เอาไปพูดต่อ...
ليس في كتاب الله ولا سنة رسول الله صلى الله عليه وسلم ولا قول أحد من سلف الأمة وأئمتها أنه ليس بجسم وأن صفاته ليست أجساما وأعراضا فنفي المعاني الثابتة بالشرع بنفي ألفاظ لم ينف معناها شرع ولا عقل جهل وضلال
"ไม่ปรากฏในอัลกุรอ่าน, ซุนนะฮ ของท่านรอซูลุลลอฮ ศ็อลฯ และไม่ปรากฏคำพูดคนหนึ่งคนใดจากบรรดาอุมมะห์ ในยุคสะลัฟ และบรรดาอิหม่ามของพวกเขา ว่า แท้จริงพระองค์ ไม่ใช่รูปร่าง และ ไม่มีผู้ใดกล่าวว่า แท้จริงบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ ไม่ใช่มวลสาร/รูปร่างและบรรดาสิ่งของต่างๆ ดังนั้น การปฏิเสธ บรรดาความหมายที่ยืนยันด้วยบทบัญญัต ด้วย การปฏิเสธ บรรดาถ้อยคำ ที่ บทบัญญัติและสติปัญญาไม่ได้ปฏิเสธความหมายของมัน นั้น คือ ความโง่เขลาเเละหลงทาง – ( บะยานตัลบิสอัลญะมียะฮ เล่ม 1 หน้า 101 -อิบนุตัยมิยะห์ )
เเท้จริงเเล้วมี อุลามะสาลัฟ สะลัฟศอลิฮ์มากมายที่ได้ปฏิเสธรูปร่างของอัลลอฮ์ เเต่วะห์ฮะบีย์ ไม่อ่านตำราเหล่านี้ เเต่ไปยึดคำกล่าวของท่าน อิบนุตัยมียะห์ เเล้วไปสอนมนุษย์เเละคนอาวาม ว่า การฏิเสธรูปร่างนั้น ไม่มีในยุคสะลัฟ เเต่เป็นอะกีดะห์ของอะห์ลุลกาลาม เเละอาชาอีเราะห์ ซึ่งเราสามารถเห็นว่า วาห์ฮาบีย์ นั้น ญาฮิลมุรอกกับ ( เขลาโดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าตัวเองเขลา)
@@@@
ชี้แจง
ชี้แจง
ข้างต้นนาย Matty Ibnufatim Hamady พยายามสร้างว่าทกรรมเพื่อที่จะยัดเยียดคำว่ามุญัสสิม”(ผู้ที่เชื่อว่าอัลลอฮมีรูปร่างเหมือนมัคลูค)ใส่ร้ายคนที่ถูกเรียกว่า “วะฮบีย” ตามที่ตนเองคิดและมโน
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ) ยืนยันว่า “คำว่า รูปร่าง(جسم )เกี่ยวกับสิฟาตอัลลอฮ ไม่ปรากฏในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ไม่ว่าในเชิงยอมรับ(อิษบาต) หรือในเชิงปฏิเสธ(نفي )ก็ไม่มี เพราะฉะนั้น สิ่งไม่มีแล้วนำมาอธิบายเกี่ยวกับสิฟาตได้อย่างไร เพราะแนวทางสะละลัฟนั้น จะพรรณนาคุณลักษณะของอัลลอฮตามที่อัลลอฮและนบีของพระองค์บอกไว้ จะไม่เกินเลยไปกว่านั้น
อับดุรเราะหมาน บิน อัล-กอสิม (ฮ.ศ 191) ศิษย์อิหม่ามมาลิกกล่าวว่า
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ) ยืนยันว่า “คำว่า รูปร่าง(جسم )เกี่ยวกับสิฟาตอัลลอฮ ไม่ปรากฏในอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ไม่ว่าในเชิงยอมรับ(อิษบาต) หรือในเชิงปฏิเสธ(نفي )ก็ไม่มี เพราะฉะนั้น สิ่งไม่มีแล้วนำมาอธิบายเกี่ยวกับสิฟาตได้อย่างไร เพราะแนวทางสะละลัฟนั้น จะพรรณนาคุณลักษณะของอัลลอฮตามที่อัลลอฮและนบีของพระองค์บอกไว้ จะไม่เกินเลยไปกว่านั้น
อับดุรเราะหมาน บิน อัล-กอสิม (ฮ.ศ 191) ศิษย์อิหม่ามมาลิกกล่าวว่า
لا ينبغي لأحد أن يصف الله إلا بما وصف به نفسه في القرآن ، ولا يشبه يديه بشيء ، ولا وجهه بشيء ، ولكن يقول : له يدان كما وصف نفسه في القرآن، وله وجه كما وصف نفسه ، يقف عندما وصف به نفسه في الكتاب ، فإنه تبارك وتعالى لا مثل له ولا شبيه ولكن هو الله لا إله إلا هو كما وصف نفسه
ไม่สมควรแก่คนใด ที่จะพรรณา(อธิบาย)คูณลักษณะแก่อัลลอฮ นอกจากด้วยสิ่งที่อัลลอฮ ทรงพรรณาคุณลักษณะให้แก่ตัวของพระองค์ด้วยมัน(ด้วยคุณลักษณะดังกล่าว)ในอัลกุรอ่าน และเขาจะไม่เปรียบ สองมือของพระองค์ด้วยสิ่งใดๆ และ(ไม่เปรียบ)ใบหน้าของพระองค์ด้วยสิ่งใดๆ แต่ให้เขากล่าว ว่า "พระองค์ทรงมีสองมือ เช่นสิ่งที่พระองค์พรรณาคุณลักษณะให้แก่พระองค์เองในอัลกุรอ่านและพระองค์มีใบหน้า ดังเช่นสิ่งที่พระองค์ทรงพรรณาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เอง ,เขาหยุด ณ สิ่งที่พระองค์ทรงพรรณาให้แก่ตัวของพระองค์ด้วยมันในคัมภีร์ เพราะแท้จรงพระองค์ผู้ทรงจำเริญและทรงสูงส่ง ไม่มีการเสมอเหมือนสำหรับพระองค์ และไม่มีผู้คล้ายคลึงสำหรับพระองค์ แต่ว่า พระองค์คือ อัลลอฮ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ดังสิ่งที่พระองค์ทรงพรรณาคุณลักษณะ แก่พระองค์เอง - อุศูลุสสุนนะฮ ของ อิบนุสะมะนัยนฺ หน้า 75
.....................
1.การอธิบายคุณลักษณะให้แก่อัลลอฮนั้นจะต้องอธิบายคุณลักษณะด้วยสิ่งที่อัลลอฮได้อธิบายคุณลักษณะของพระองค์ในอัลกุรอ่าน
2. สะลัฟกล่าวว่าอัลลอฮทรงมีสองมือ และใบหน้า ตามที่อัลลอฮอธิบายคุณลักษณะในอัลกุรอ่าน โดยไม่เปรียบกับสิ่งใดๆ
3. ให้หยุดกับสิ่งที่อัลลอฮอธิบายคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เอง ที่ระบุในคัมภีร์
.....
อิบนุตัยมียะฮได้อ้างถึงคำพูดอิหม่ามอะหมัดว่า
قال الإمام أحمد: "لا يوصف الله إلا بما وصف به نفسه أو وصفه به رسوله، لا يتجاوز القرآن والحديث
อิหม่ามอะหมัด ได้กล่าวว่า “อัลลอฮจะไม่ถูกอธิบายคุณลักษณะ ยกเว้นด้วยสิงที่ พระองค์ทรงอธิบายคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์ด้วยมัน หรือ รซูลของพระองค์ได้อธิบายคุณลักษณะแก่พระองค์ ด้วยมัน เขาจะไม่เกินเลยอัลกุรอ่านและอัลหะดิษ –ดูมัจญมัวอัลฟะตาวา เล่ม 5 หน้า 26
อีกประการหนึ่งคือ การยืนยันความหมายบรรดาสิฟาตในทางภาษาตามรูปคำที่มีมาตามตัวบทไม่มีสะลัฟคนใด บอกว่า คือการเอาอัลลอฮตาอาลาไปเปรียบกับมัคลูค (ตัชบีฮ)อย่างที่พวกแนวคิดมุอตะซิละฮและญะฮมียะฮมโน
นุอัยมฺ บิน หัมมาด (ฮ.ศ 288)กล่าวว่า
.....................
1.การอธิบายคุณลักษณะให้แก่อัลลอฮนั้นจะต้องอธิบายคุณลักษณะด้วยสิ่งที่อัลลอฮได้อธิบายคุณลักษณะของพระองค์ในอัลกุรอ่าน
2. สะลัฟกล่าวว่าอัลลอฮทรงมีสองมือ และใบหน้า ตามที่อัลลอฮอธิบายคุณลักษณะในอัลกุรอ่าน โดยไม่เปรียบกับสิ่งใดๆ
3. ให้หยุดกับสิ่งที่อัลลอฮอธิบายคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เอง ที่ระบุในคัมภีร์
.....
อิบนุตัยมียะฮได้อ้างถึงคำพูดอิหม่ามอะหมัดว่า
قال الإمام أحمد: "لا يوصف الله إلا بما وصف به نفسه أو وصفه به رسوله، لا يتجاوز القرآن والحديث
อิหม่ามอะหมัด ได้กล่าวว่า “อัลลอฮจะไม่ถูกอธิบายคุณลักษณะ ยกเว้นด้วยสิงที่ พระองค์ทรงอธิบายคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์ด้วยมัน หรือ รซูลของพระองค์ได้อธิบายคุณลักษณะแก่พระองค์ ด้วยมัน เขาจะไม่เกินเลยอัลกุรอ่านและอัลหะดิษ –ดูมัจญมัวอัลฟะตาวา เล่ม 5 หน้า 26
อีกประการหนึ่งคือ การยืนยันความหมายบรรดาสิฟาตในทางภาษาตามรูปคำที่มีมาตามตัวบทไม่มีสะลัฟคนใด บอกว่า คือการเอาอัลลอฮตาอาลาไปเปรียบกับมัคลูค (ตัชบีฮ)อย่างที่พวกแนวคิดมุอตะซิละฮและญะฮมียะฮมโน
นุอัยมฺ บิน หัมมาด (ฮ.ศ 288)กล่าวว่า
مَنْ شَبَّهَ اللَّهَ بِشَيْءٍ مِنْ خَلْقِهِ فَقَدْ كَفَرَ ، وَمَنْ أَنْكَرَ مَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ فَقَدْ كَفَرَ ، وَلَيْسَ فِيمَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ وَلَا رَسُولُهُ تَشْبِيهٌ
และ นุอัยมฺ บิน หัมมาด กล่าวว่า “ ผู้ใดเปลียบเทียบอัลลอฮ ว่าคล้ายคลึงด้วยสิ่งใดๆจากมัคลูคของพระองค์ แน่นอน เขาเป็นกุฟุร และผู้ใด ปฏิเสธ สิ่งที่อัลลอฮทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมัน แน่นอนเขาเป็นกุฟุร และ สิ่งที่อัลลอฮ ทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมันและสิ่งที่รอซูลของพระองค์ (พรรณนาคุณลักษณะแก่พระองค์ด้วยมัน)นั้น ไม่ใช่เป็นการตัชบีฮ(หมายถึงไม่ใช่เป็นเปรียบเทียบว่าอัลลอฮคล้ายคลึงกับมัคลูค) – ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฎาะหาวียะฮ เล่ม หน้า 85 และ ดู ชัรหุอุศูลเอียะติกอด อะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ เล่ม 2 หน้า 532 หะดิษหมายเลข 936
...........
เมือไม่ใช่เป็นการเปรียบกับมัคลูค แล้วจะกลายเป็นคนให้รูปร่างอัลลอฮเหมือนมัคลูคได้อย่างไร
ส่วนในกรณีอ้างว่า สะลัฟบางส่วน ได้กล่าวถึง คำว่า “รูปร่าง” จึงขอถามนาย Matty Ibnufatim Hamady ว่า พวกเขาเข้าใจอย่างที่ท่านอยากให้เป็นเพื่อยัดเยียดใส่ร้ายคนที่ถูกเรียกว่า”วะฮบีย์”หรือเปล่า)
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์กล่าวว่า
...........
เมือไม่ใช่เป็นการเปรียบกับมัคลูค แล้วจะกลายเป็นคนให้รูปร่างอัลลอฮเหมือนมัคลูคได้อย่างไร
ส่วนในกรณีอ้างว่า สะลัฟบางส่วน ได้กล่าวถึง คำว่า “รูปร่าง” จึงขอถามนาย Matty Ibnufatim Hamady ว่า พวกเขาเข้าใจอย่างที่ท่านอยากให้เป็นเพื่อยัดเยียดใส่ร้ายคนที่ถูกเรียกว่า”วะฮบีย์”หรือเปล่า)
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์กล่าวว่า
ليس يلزم من إثبات صفاته شيء من إثبات التشبيه والتجسيم، فإن التشبيه إنما يقال: يدٌ كيدنا ...
ส่วนหนึ่งจากการรับรองบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ นั้น ไม่จำเป็นว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการรับรองการตัชบิฮ(การคล้ายคลึง)และตัจญซีม(การให้รูปร่าง) เสมอไป ความจริงการตัชบิฮ(การเปรียบเทียบสิฟัตอัลลอฮกับมัคลูต)นั้น เช่น มือ เหมือนกับมือของเรา.....- อัลอัรบะอีน ฟี สิฟาติรอ็บบิลอาละมีน เล่ม 1 หน้า 104
ส่วนหนึ่งจากการรับรองบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ นั้น ไม่จำเป็นว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการรับรองการตัชบิฮ(การคล้ายคลึง)และตัจญซีม(การให้รูปร่าง) เสมอไป ความจริงการตัชบิฮ(การเปรียบเทียบสิฟัตอัลลอฮกับมัคลูต)นั้น เช่น มือ เหมือนกับมือของเรา.....- อัลอัรบะอีน ฟี สิฟาติรอ็บบิลอาละมีน เล่ม 1 หน้า 104
พวกญะฮมียะฮปฏิเสธการอิสติวาอของอัลลอฮ เหนือบัลลังก์(อะรัช) เพราะอ้างว่า เป็นการให้รูปร่างแก่อัลลอฮ
อิหม่ามอุษมาน บิน สะอีดอัดดาริมีย์จึงกล่าวว่า
وأما قولك: كجسم على جسم، فإنا لا نقول: إنه كجسم على جسم، لكنَّا نقول: ربٌّ عظيمٌ، ومَلِكٌ كبيرٌ، نورُ السماوات والأرض، وإله السماوات والأرض، على عرشٍ مخلوقٍ عظيمٍ، فوق السماء السابعة.
และสำหรับ คำพูดของท่านที่ว่า (พระองค์)เหมือนกับ รูปร่าง อยู่บน รูปร่าง เพราะแท้จริงเราไม่ได้กล่าว ว่า แท้จริง พระองค์ เหมือนกับ รูปร่าง อยู่บน รูปร่าง แต่เรากล่าวว่า พระผู้อภิบาลผู้ทรงยิ่งใหญ่ ,ราชาผู้ทรงเกรียงไกร ,รัศมีแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และพระเจ้าแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน อยู่บน อะรัชที่ถูกสร้าง อันมหึมา อยู่เหนือชั้นฟ้าที่เจ็ด –
نقض الدارمي على المريسي(1/441
..........
อาชาอิเราะฮแนวคิดญะฮมียะฮเชื่อว่าถ้ายอมรับการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮเหนืออะรัชจริงๆตามตัวบท ก็เท่ากับว่าให้รูปร่างแก่อัลลอฮ แต่ บรรดาสะลัฟ ไม่ได้เข้าใจเหมือนอาชาอิเราะฮญะฮมียะฮ เพราะสะลัฟยืนยันการอยู่เบื้องของอัลลอฮจริงๆ โดยไม่ถามว่ารูปแบบวิธีการเป็นอย่างไร
เพราะฉะนั้นอย่าได้แอบอ้างสะลัฟ บิดเบือนอะกีดะฮและยัดเยียดคำว่า “มุญัสสิม”ให้แก่วะฮบีย์เลยครับ
อิหม่ามอุษมาน บิน สะอีดอัดดาริมีย์จึงกล่าวว่า
وأما قولك: كجسم على جسم، فإنا لا نقول: إنه كجسم على جسم، لكنَّا نقول: ربٌّ عظيمٌ، ومَلِكٌ كبيرٌ، نورُ السماوات والأرض، وإله السماوات والأرض، على عرشٍ مخلوقٍ عظيمٍ، فوق السماء السابعة.
และสำหรับ คำพูดของท่านที่ว่า (พระองค์)เหมือนกับ รูปร่าง อยู่บน รูปร่าง เพราะแท้จริงเราไม่ได้กล่าว ว่า แท้จริง พระองค์ เหมือนกับ รูปร่าง อยู่บน รูปร่าง แต่เรากล่าวว่า พระผู้อภิบาลผู้ทรงยิ่งใหญ่ ,ราชาผู้ทรงเกรียงไกร ,รัศมีแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และพระเจ้าแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน อยู่บน อะรัชที่ถูกสร้าง อันมหึมา อยู่เหนือชั้นฟ้าที่เจ็ด –
نقض الدارمي على المريسي(1/441
..........
อาชาอิเราะฮแนวคิดญะฮมียะฮเชื่อว่าถ้ายอมรับการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮเหนืออะรัชจริงๆตามตัวบท ก็เท่ากับว่าให้รูปร่างแก่อัลลอฮ แต่ บรรดาสะลัฟ ไม่ได้เข้าใจเหมือนอาชาอิเราะฮญะฮมียะฮ เพราะสะลัฟยืนยันการอยู่เบื้องของอัลลอฮจริงๆ โดยไม่ถามว่ารูปแบบวิธีการเป็นอย่างไร
เพราะฉะนั้นอย่าได้แอบอ้างสะลัฟ บิดเบือนอะกีดะฮและยัดเยียดคำว่า “มุญัสสิม”ให้แก่วะฮบีย์เลยครับ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัอะดั้ม
2/2/61
อะสัน หมัอะดั้ม
2/2/61
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น