วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความจริงที่พิสูจน์ได้ว่า ไม่วาญิบให้ปิดหน้า





ความจริงที่พิสูจน์ได้ว่า ไม่วาญิบให้ปิดหน้า
รายงานจากอิบนุอับบาส (ร.ฎ)ว่า
"كانَ الفَضْلُ بنُ عَبّاسٍ رَضِي اللهُ عَنْهُمَا رديفَ رسولِ اللهِ صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّمْ فجاءَت امْرأَةٌ مِنْ خثَعَم فجعل الفَضْلُ ينظُرُ إليْها وتَنْظُرُ إليهِ وجعلَ النَّبيُ صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّمْ يصْرِفُ وَجْهَ الفَضْلِ إلى الشِّقِّ الآخَر فَقَالت: يَا رَسُولَ الله! إِنَّ فَرِيضَةَ الله عَلَى عِبَادِهِ في الحَجِّ أَدْركتْ أَبي شيخاً كبيراً لا يثبتُ عَلَى الرَّاحلة، أفأَحُجُّ عَنْهُ؟ قَالَ: "نَعَمْ". وَذَلِكَ في حَجّةِ الوَدَاع. مُتّفقٌ عَليْه وَاللَّفظُ للبُخَارِيِّ
รายงานจากอับดุลลอฮ บิน อับบาส ว่าแท้จริง เขากล่าวว่า (ปรากฏว่า อัลฟัฎลุ บิน อับบาส คนติดตามท่านรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ แล้วมีสตรีคนหนึ่งจากชาวค็อษอัมได้มา ทำให้อัลฟัฎลฺ มองนาง และนางก็มองเขา และท่านรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ ได้ผินหน้าของอัลฟัฎลุ ไปด้านอื่น แล้วนางผู้นี้ได้กล่าวว่า “โอ้ท่านรซูลุลลอฮ ! บิดาของดิฉันได้ แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถที่จะขี่พาหนะได้ ดิฉันจะทำฮัจญ์แทนเขาได้ไหม? ท่านรซูลุลลอฮ ศ็อลฯ กล่าวว่า “ครับ” และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการทำฮัจญ์อำลา –มุตตะฟักอะลัยฮิ และสำนวนนี้รายงานโดยบุคอรีย
..............
วิเคราะหจากหะดิษข้างต้น
1.การบัญญัติเรื่องฮัจญ เกิดในปี ฮ.ศ ที่ 9 (ดูฟัตวาอัลลุจญนะฮ 11/10 และมีการเห็นต่างกันอยู่) ในขณะที่เรื่อง ฮิญาบ ถูกบัญญัติใน ปี ฮ.ศ ที่ 5 เพราะซูเราะฮอัลอะหซาบ ประทานลงมาในปีที่ 5 ซึ่งระบุเรื่องฮิญาบ ใน อายะฮที่ 53
2.ชี้ให้เห็นว่า การบัญญัติเรื่องฮิญาบ มาก่อนเรื่อง การทำหัจญ์ และผู้หญิงสาวชาวคอ็ษอัมคนนี้ ไม่ได้ปิดหน้า เพราะถ้าปิดหน้า ท่านนบี ศ็อลฯ จะไม่ผินหน้าของอัลฟัฎลุไปทางอื่น แน่นอน เพราะการมองคนที่ปิดหน้าปกติจะไม่มีผลต่อความรู้สึกทางเพศ เพราะไม่รู้ว่าเป็นใครหน้าตาเป็นอย่างไร
อัลหาฟิซอิบนุหะญัร (ร.ฎ)กล่าวว่า
فِي رِوَايَةِ شُعَيْبٍ : " وَكَانَ الْفَضْلُ رَجُلًا وَضِيئًا - أَيْ : جَمِيلًا - وَأَقْبَلَتِ امْرَأَةٌ مِنْ خَثْعَمَ وَضِيئَةٌ ، فَطَفِقَ الْفَضْلُ يَنْظُرُ إِلَيْهَا وَأَعْجَبَهُ حُسْنُهَا " .
ในรายงานหนึ่งของชุอัยบ ระบุว่า และปรากฏว่า อัลฟัฏลุนั้นเป็นชายที่หล่อ และหญิงหน้าตาสวยคนหนึ่งจากชาวค็อษอัม ได้มา แล้วอัลฟัฏลฺ เริ่มมองนาง และความสวยของนางทำให้เขาประทับใจ -ฟัตหุลบารีย์ 4/81
......
ต้องยอมรับความจริงกันบ้าง หากผู้หญิงปิดหน้า หรือคลุมหน้า มีด้วยหรือที่ผู้ชายมองแล้วประทับใจในความสวยของนาง เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ แน่นอนหญิงสวยชาวค็อษอัมไม่ได้คลุมหน้า เลยทำให้ชายหนุ่มหล่ออย่างอัลฟัฎลฺ มองและประทับใจหรือพอใจในความสวยของนาง ท่านรซูลุลลอฮ ศ็อลฯจึงเอามือไปผินหน้าของอัลฟัฏลฺให้หันไปทางอื่น
2.ส่วนที่ชัยค์ที่เป็นปราชญร่วมสมัยบางท่านที่มีทัศนะให้ปิดหน้า โต้แย้งหะดิษนี้ เพียงอาศัยสมมุติฐานและการตีความตามความเห็นเท่านั้น
3. ถ้าอิสลามมีบัญญัติให้คลุมหน้า แน่นอนย่อมไม่มีบัญญัติห้ามมองผู้หญิง เพราะเมือทุกส่วนของร่างกายถูกปิดหมดแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะห้าม เพราะเหตุผลการห้ามคือสิ่งที่นำไปสู่ฟิตนะฮ
เช่น ที่ท่านนบี ศ็อลฯ
«يَا مَعْشَرَ الشَّبَابِ، مَنِ اسْتَطَاعَ مِنْكُمْ الْبَاءَةَ فَلْيَتَزَوَّجْ؛ فَإِنَّهُ أَغَضُّ لِلْبَصَرِ
บรรดาผู้เป็นหนุ่มทั้งหลาย ผู้ใดในหมู่พวกท่านที่มีความสามารถจะครองคู่ก็จงแต่งงานเสีย เพราะแท้จริงแล้วมัน(การแต่งงานนั้น)ทำให้ลดสายตา(จากการมองสิ่งต้องห้าม)ได้ดีกว่า- รายงานโดยบุคอรี
.......
ในเมื่อผู้หญิงถูกปิดหน้าหรือคลุมหน้า ตามที่อ้างว่าเป็นวาญิบ ทำไมจึงห้ามผู้ชายไม่ให้มอง และให้ลดสายตา เพื่อไม่ให้มอง แสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงไม่ได้วาญิบให้ปิดหน้า แต่มีบัญญัติห้ามมอง เพราะจะทำให้เกิดฟิตนะฮ
อะสัน หมัดอะดั้ม
21/11/61

เอกสารอ้างอิง  

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น