วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

หลักนิติศาสตรอิสลามว่าด้วยเรื่องทำธุรกรรม(มุอามะลาต)




หลักนิติศาสตรอิสลามว่าด้วยเรื่องทำธุรกรรม(มุอามะลาต)
والأصل في العقود والمعاملات الصحة حتى يقوم دليل على البطلان والتحريم
แท้จริงหลักทั่วไปในเรื่อง การทำข้อตกลงและการทำธุรกรรมต่างๆนั้น คือ ความถูกต้อง(ใช้ได้) จนกว่าจะมีหลักฐานยืนยัน แสดงบอกว่าเป็นโมฆะและต้องห้าม -เอียะลามอัลมุวักกิอีน 1/344
أن الأصل في الأشياء المخلوقة الإباحة حتى يقوم دليل يدل على النقل عن هذا الأصل
แท้จริงหลักทั่วไป(หลักเดิม)ในบรรดาสิ่งต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นมา นั้น อนุญาต จนกว่า จะมีหลักฐานยืนยันแสดงบอกถึง การเปลี่ยนแปลงจากหลักเดิมนี้ -ฟัตหุลเกาะดีร ของอัชเชากานีย์ 1/64
อิหม่ามมุหัมหมัด อัตตะมีมีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
القاعدة الثانية: أن كل شيء سكت عنه الشارع فهو عفو لا يحل لأحد أن يحرمه أو يوجبه أو يستحبه أو يكرهه:
لقوله تعالى: {يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا لا تَسْأَلوا عَنْ أَشْيَاءَ إِنْ تُبْدَ لَكُمْ تَسُؤْكُمْ} 1. وقال النبي صلى الله عليه وسلم: "وسكت عن أشياء رحمة بكم غير نسيان، فلا تسألوا عنها ".
กฏข้อที่สอง
แท้จริงทุกๆสิ่งที่ผู้บัญญัติศาสนบัญญัติ ได้นิ่งเงียบจากมัน มันคือ การอนุโลม ไม่อนุญาตให้คนใด กำหนดมันว่าเป็นสิ่งต้องห้าม หรือ กำหนดมันว่าเป็นวาญิบ หรือ กำหนดมันว่าเป็นสิ่งที่ชอบให้กระทำหรือกำหนดมัน ว่าเป็นมักรูฮ เพราะอัลลอฮตาอาลาตรัสว่า (ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าถามถึงสิ่งต่างๆ หากสิ่งเหล่านี้ถูกเปิดเผยขึ้น แล้วมันก็จะก่อให้เกิดความเลวร้าย แก่พวกเจ้า - อัลมาอิดะฮ/101) และท่านนบี ศ็อลฯ กล่าวว่า ทรงนิ่งเงียบจากสิ่งต่างๆ คือความเมตตาต่อพวกท่าน โดย(พระองค์)ไม่ได้หลงลืม ดังนั้นพวกท่านอย่าถามเกี่ยวกับมัน - อัรบะอุเกาะวาอิด ตะดูรุลอะหกาม หน้า 3
อิบนุลกอ็ยยิม(ร.ฮ) กล่าวว่า
وَهُوَ - سُبْحَانَهُ - لَوْ سَكَتَ عَنْ إبَاحَةِ ذَلِكَ وَتَحْرِيمِهِ لَكَانَ ذَلِكَ عَفْوًا لَا يَجُوزُ الْحُكْمُ بِتَحْرِيمِهِ وَإِبْطَالِهِ ، فَإِنَّ الْحَلَالَ مَا أَحَلَّهُ اللَّهُ ، وَالْحَرَامَ مَا حَرَّمَهُ ، وَمَا سَكَتَ عَنْهُ فَهُوَ عَفْوٌ ، فَكُلُّ شَرْطٍ وَعَقْدٍ وَمُعَامَلَةٍ سَكَتَ عَنْهَا فَإِنَّهُ لَا يَجُوزُ الْقَوْلُ بِتَحْرِيمِهَا ، فَإِنَّهُ سَكَتَ عَنْهَا رَحْمَةً مِنْهُ مِنْ غَيْرِ نِسْيَانٍ وَإِهْمَالٍ
และพระองค์ (ซ.บ) ถ้าทรงนิ่งเงียบจากการอนุญาตดังกล่าวและการห้ามมัน แน่นอนดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ทรงอภัย (อนุโลมให้) ไม่อนุญาตให้ตัดสิน ด้วยการต้องห้ามของมัน และการเป็นโมะฆะของมัน เพราะแท้จริง การหะล้าลนั้น คือสิ่งที่อัลลอฮทรงกำหนดให้มันเป็นสิ่งหะล้าล และ หะรอมนั้น คือสิ่งที่พระองค์กำหนดให้มันเป็นสิ่งหะรอม และสิ่งใดที่ทรงนิ่งเงียบจากมัน คือ การอภัย (การอนุโลม) เพราะทุกๆ เงื่อนไข,ทุกๆข้อตกลงและทุกๆการทำธุรกรรม ที่ทรงนิ่งเงียบจากมัน ก็ไม่อนุญาตให้กล่าว ด้วยการกำหนดมันให้เป็นสิ่งหะรอม เพราะแท้จริง ทรงนิ่งเงียบจากมัน คือ ความเมตตา จากพระองค์ โดยปราศจากการลืมและการละเลย -เอียะลามอัลมุวักกิอีน 1/344-345
...................
สรุปคือ
1.ไม่อนุญาตให้คนใด กำหนดมันว่าเป็นสิ่งต้องห้าม หรือ กำหนดมันว่าเป็นวาญิบ หรือ กำหนดมันว่าเป็นสิ่งที่ชอบให้กระทำหรือกำหนดมัน ว่าเป็นมักรูฮ ในสิ่งที่ศาสนาไม่ได้บอกไว้
2. ในเรื่อง เพราะทุกๆ เงื่อนไข,ทุกๆข้อตกลงและทุกๆการทำธุรกรรม ที่ทรงนิ่งเงียบจากมัน ก็ไม่อนุญาตให้กล่าว ด้วยการกำหนดมันให้เป็นสิ่งหะรอม เพราะแท้จริง ทรงนิ่งเงียมจากมัน คือ ความเมตตา จากพระองค์
...........
เพราะฉะนั้น อย่าเที่ยวค้นขอนไม้หาตะขาบ ใช้ความรู้สึกและความคิดเห็น ว่านั้น หะรอม นั้นวาญิบ นั้นขายได้ นั้นห้ามขาย ห้ามใช้ จะให้คนอาวาม กลับเข้าไปอยู่ในถ้ำ กินรากไม้และใช้ของป่าหรือ" ศาสนาเป็นเรื่องง่ายแต่กลับมีคนพยายามทำให้ยากขึ้นทุกวัน
อะสัน หมัดอะดั้ม
24/11/61

เอกสารอ้างอิง

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น