
อิบาดะฮที่ถูกกล่าวไว้กว้างๆแล้วมาจำกัดโดยปราศจากหลักฐานมันคือบิดอะฮ
อุดม ชาญชัยพิชิต
เมื่อวานนี้ เวลา 5:08 น. · Ban Tha It, Nonthaburi
เมื่อยังมีคนต่อต้านการทำเมาลิดก็ต้องโพสให้เข้าใจแบบนี้.....
ฝากข้อคิดเอาไว้ผิดพลาดตรงใหนช่วยตักเตือนด้วย
»»»»»»»»»»»»»»»»»
ทุกๆการกระทำของท่านนบี(ซล)เป็นซุนนะห์เป็นอิบาดะห์และอิบาดะห์นั้นแบ่งเป็นสองชนิดใหญ่ๆคือ
1.จำกัดเจาะจงรูปแบบเช่น.ละหมาด.ถือศีลอด.ทำฮัจยี
2.ไม่จำกัดรูปแบบคือทำไม่เหมือนได้หรือไม่ทำเลยก็ได้เช่น,การทานอาหาร,การเดินทาง,การนอน,การอ่านกรุอ่าน,การซอลาวาต,การขอดุอา,การบริจาค,การเรียน,การสอน,ทั้งหมดได้รับการใช้ให้กระทำและไม่จำกัดว่าต้องกระทำและกระทำแบบใหนและมีวิธีการในการทำเช่นใร,ขอเพียงอย่าทำในสิ่งที่ตรงกับข้อห้ามเอาไว้เท่านั้น,ฉนั้นอิบาดะห์ชนิดนี้จึงเกิดสิ่งใหม่ๆในอิบาดะห์ชนิดนี้ตลอดเวลาที่มีวิทยาการใหม่ๆเกิดขึ้นเข่นการเดินทาง.จากม้าเป็นรถม้าจนถึงจรวดในขณะนี้ส่วนการดื่มกินเรากินได้หลากหลายไม่จำเป็นต้องเหมือนท่านนบี(ซล)ทั้งๆที่การทานอาหารของท่านเป็นซุนนะห์เป็นอิบาดะห์
ถ้าลืมหรือไม่เคยเรียนในหัวข้อของอิบาดะห์แล้วไซร้ก็จะหลงทางแบ่งอิบาดะห์ไม่เป็นซึ่งอาจนำพาไปสู่การเป็นกุโฟรด้วยการปฏเสธกรุอ่านหรือหะดิษด้วยการแบ่งดุนยาออกจากศาสนาโดยมั่นใจแบบนั้นว่าไม่เกี่ยวกับศาสนาเขาก็เป็นคนที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาทันที,,,ด้วยความไม่รู้ไม่เรียนหรือเรียนแต่ไม่เข้าใจนั้นเอง
เมื่อวานนี้ เวลา 5:08 น. · Ban Tha It, Nonthaburi
เมื่อยังมีคนต่อต้านการทำเมาลิดก็ต้องโพสให้เข้าใจแบบนี้.....
ฝากข้อคิดเอาไว้ผิดพลาดตรงใหนช่วยตักเตือนด้วย
»»»»»»»»»»»»»»»»»
ทุกๆการกระทำของท่านนบี(ซล)เป็นซุนนะห์เป็นอิบาดะห์และอิบาดะห์นั้นแบ่งเป็นสองชนิดใหญ่ๆคือ
1.จำกัดเจาะจงรูปแบบเช่น.ละหมาด.ถือศีลอด.ทำฮัจยี
2.ไม่จำกัดรูปแบบคือทำไม่เหมือนได้หรือไม่ทำเลยก็ได้เช่น,การทานอาหาร,การเดินทาง,การนอน,การอ่านกรุอ่าน,การซอลาวาต,การขอดุอา,การบริจาค,การเรียน,การสอน,ทั้งหมดได้รับการใช้ให้กระทำและไม่จำกัดว่าต้องกระทำและกระทำแบบใหนและมีวิธีการในการทำเช่นใร,ขอเพียงอย่าทำในสิ่งที่ตรงกับข้อห้ามเอาไว้เท่านั้น,ฉนั้นอิบาดะห์ชนิดนี้จึงเกิดสิ่งใหม่ๆในอิบาดะห์ชนิดนี้ตลอดเวลาที่มีวิทยาการใหม่ๆเกิดขึ้นเข่นการเดินทาง.จากม้าเป็นรถม้าจนถึงจรวดในขณะนี้ส่วนการดื่มกินเรากินได้หลากหลายไม่จำเป็นต้องเหมือนท่านนบี(ซล)ทั้งๆที่การทานอาหารของท่านเป็นซุนนะห์เป็นอิบาดะห์
ถ้าลืมหรือไม่เคยเรียนในหัวข้อของอิบาดะห์แล้วไซร้ก็จะหลงทางแบ่งอิบาดะห์ไม่เป็นซึ่งอาจนำพาไปสู่การเป็นกุโฟรด้วยการปฏเสธกรุอ่านหรือหะดิษด้วยการแบ่งดุนยาออกจากศาสนาโดยมั่นใจแบบนั้นว่าไม่เกี่ยวกับศาสนาเขาก็เป็นคนที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาทันที,,,ด้วยความไม่รู้ไม่เรียนหรือเรียนแต่ไม่เข้าใจนั้นเอง
@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นคือ การใช้ความคิดเห็นส่วนตีโดยปราศจากหลักฐานวิชาการ พูดเอง เออเอง ตัดสินเอง ไร้ซึ่งคุณค่าทางวิชาการ
ขอเรียนว่า
อิบาดะฮที่ไม่จำกัดรูปแบบ ไม่จำกัดเวลา และสถานที่ แล้วมาจำกัดโดยคิดว่าดี โดยปราศจากหลักฐาน นั้นคือ บิดอะฮ เพราะการจำกัดในสิ่งที่กล่าวไว้กว้างๆนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ ไม่ใช่อุลามาอฺ
การเจาะจงในสิ่งที่ศาสนากล่าวไว้กว้างๆนั้น ตามหลักนิติศาสตร์อิสลามหรือเกาวะอีดอุศูลุลฟิกฮ ก็มีการกล่าวเอาไว้ เช่น
อัลหาฟิซอิบนุหะญัร(ร.ฮ)กล่าวในกรณีการคุตบะฮละหมาดกุุสูฟว่า ไม่ได้จำกัดเฉพาะการบอกให้รู้เกี่ยวกับสาเหตุกุสูฟอย่างเดียวโดย กล่าวว่า
وَالْأَصْلُ مَشْرُوعِيَّةُ الِاتِّبَاعِ ، وَالْخَصَائِصُ لَا تَثْبُتُ إِلَّا بِدَلِيلٍ .
อัลหาฟิซอิบนุหะญัร(ร.ฮ)กล่าวในกรณีการคุตบะฮละหมาดกุุสูฟว่า ไม่ได้จำกัดเฉพาะการบอกให้รู้เกี่ยวกับสาเหตุกุสูฟอย่างเดียวโดย กล่าวว่า
وَالْأَصْلُ مَشْرُوعِيَّةُ الِاتِّبَاعِ ، وَالْخَصَائِصُ لَا تَثْبُتُ إِلَّا بِدَلِيلٍ .
หลักเดิม(ของการอิบาดะฮ)นั้น คือ สิ่งที่ถูกบัญญัติให้ปฏิบัติตาม และบรรดาการเจาะจงนั้น จะไม่ถูกยืนยัน นอกจากด้วยหลักฐาน -ฟัตหุลบารี 2/534
อิหม่าม อิบนุดะกีกีลอีด ปราชญมัวฮับชาฟิอี กล่าวว่า
อิหม่าม อิบนุดะกีกีลอีด ปราชญมัวฮับชาฟิอี กล่าวว่า
إنَّ هَذِهِ الْخُصُوصِيَّاتِ بِالْوَقْتِ أَوْ بِالْحَالِ وَالْهَيْئَةِ ، وَالْفِعْلُ الْمَخْصُوصُ : يَحْتَاجُ إلَى دَلِيلٍ خَاصٍّ يَقْتَضِي اسْتِحْبَابَهُ بِخُصُوصِهِ
แท้จริงบรรดาการเจาะจงเหล่านี้ ด้วยเวลา หรือ โอกาส และ วิธีการ และการกระทำที่ถูกเจาะจง ต้องอาศัยหลักฐานที่เฉพาะ ตัดสิน การส่งเสริมให้ปฏิบัติมัน ด้วยการเจาะจงมัน – อุมดะอ อัลอะหกามของ อิบนุดะกีก ๑/๑๑๙
ข้างต้นคือหลักการเกี่ยวกับฟิกฮ ของปราชญมัซอับชาฟิอี ว่า การเจาะจง ต้องมีหลักฐาน
ข้างต้นคือหลักการเกี่ยวกับฟิกฮ ของปราชญมัซอับชาฟิอี ว่า การเจาะจง ต้องมีหลักฐาน
อิหม่ามอัชชาฏิบีย์ (ร.ฮ) กล่าวถึงตัวอย่างของบิดอะฮว่า
ومنها التزام العبادات المعينة، في أوقات معينة ، لم يوجد لها ذلك التعيين في الشريعة ، كالتزام صيام يوم النصف من شعبان ، وقيام ليلته
ส่วนหนึ่งจากมัน(บิดอะฮ)คือ การยึดติดกับการปฏิบัติบรรดาอิบาดะฮที่เฉพาะ ในบรรดาเวลาที่เฉพาะ ,การเจาะจงดังกล่าวนั้น ไม่พบสำหรับมัน ในศาสนบัญญัติ เช่น การยึดติดกับการถือศีลอด นิสฟูชะอบาน และการละหมาดในคำคืนนั้น - อัลเอียะติศอม 1/46
.............
จึงสรุปว่า อิบาดะฮที่ถูกกล่าวเอาไว้กว้างๆ ไม่จำกัด การมาจำกัดรูปแบบ นั้นต้องมีหลักฐาน
.............
จึงสรุปว่า อิบาดะฮที่ถูกกล่าวเอาไว้กว้างๆ ไม่จำกัด การมาจำกัดรูปแบบ นั้นต้องมีหลักฐาน
อัลบานีย์ (ร.ฮ)กล่าวถึงส่วนหนึ่งของบิดอะฮว่า
كل عبادة أطلقها الشارع وقيدها الناس ببعض القيود مثل المكان أو الزمان أو صفة أو عدد.
ทุกๆอิบาดะฮที่ผู้บัญญัตฺศาสนบัญญัติ(หมายถึงอัลลอฮหรือรอซูล) ได้กล่าวเอาไว้กว้างๆ และมนุษย์มาจำกัดมัน ด้วยบางส่วนของการจำกัด เช่น จำกัดสถานที่ หรือจำกัดเวลา หรือจำกัดลักษณะ หรือจำกัดจำนวน - อะหกามอัลญะนาอิซ หน้า 306
ทุกๆอิบาดะฮที่ผู้บัญญัตฺศาสนบัญญัติ(หมายถึงอัลลอฮหรือรอซูล) ได้กล่าวเอาไว้กว้างๆ และมนุษย์มาจำกัดมัน ด้วยบางส่วนของการจำกัด เช่น จำกัดสถานที่ หรือจำกัดเวลา หรือจำกัดลักษณะ หรือจำกัดจำนวน - อะหกามอัลญะนาอิซ หน้า 306
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
25/12/59
อะสัน หมัดอะดั้ม
25/12/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น