วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เขาหาว่ากลุ่มคณะใหม่ใช้ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการแปลอัลกุรอ่านผิวเผินให้ความคลุมเครือ



ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ ข้อความ


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

เขาหาว่ากลุ่มคณะใหม่ใช้ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการแปลอัลกุรอ่านผิวเผินให้ความคลุมเครือ
อะหมัดรอชีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์
ที่ โรงเรียนมะเซาะฮะตุดดีน 2
14 กุมภาพันธ์ เวลา 18:45 น. · กรุงเทพมหานคร, Bangkok Metropolis · 
พบท่านอาจารย์รอฟิก ชมเผ่า ได้ในงานมะเซาะรำลึก ครบ 100 ปี ในคืนที่สองของงาน วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 เวลาประมาณ 22.00 น. ในหัวข้อ [ ُاَلتَّأْوِيْل ] อัตตะอฺวี้ล ไขความคลุมเครือ (ในเรื่องอายะฮ์มุตะชาบิฮาตและจากเล่ห์เหลี่ยมของกลุ่มแนวคิดวะฮฺฮาบีคณะใหม่ที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการแปลอัลกุรอ่านผิวเผินให้ความคลุมเครือแก่พี่น้องมุสลิม)
“ งานมะเซาะรำลึก ครบ 100 ปี งานใหญ่แห่งปี 2560 วันที่ 17,18,19 กุมภาพันธ์ 2560 จากบาแลสู่โรงเรียน ณ โรงเรียน(ปอเนาะ)มะเซาะฮะตุดดีน 2 (หลอแหล) กรุงเทพมหานคร สุขาภิบาล 3 เข้าทางซอยมีสทีน ”
ภาพ : อาจารย์รอฟิก ชมเผ่า ปราชญ์อะฮฺลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ แห่งจังหวัดนนทบุรี สมาชิกสภาอุลามาอฺ อัลฟะฏอนีย์ ดารุสสลาม มูลนิธิ
@@@@@
ชี้แจง

ผมไม่ทราบว่า คุณ    อะหมัดรอชีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์  เอาส่วนใหนมาคิดกล่าวหาว่า ##"กลุ่มแนวคิดวะฮฺฮาบีคณะใหม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการแปลอัลกุรอ่านผิวเผินให้ความคลุมเครือแก่พี่น้องมุสลิม##
.................
คุณรู้ไหมว่า แค่อาจารย์ คุณ แปล คำว่า (الظاهر )เกียวกับตัวบทอายะฮและหะดิษสิฟาตว่า "ความหมายผิวเผิน" มันก็แหวกแนวบิดเบือนให้ความสับสนแก่มุสลิมแล้ว คุณไปเอาแนวคิดมาจากใหน ที่อ้างว่า "ความหมายของอายาตและหะดิษสิฟาต ที่อัลลอฮและนบีบอก คือ ความหมายแบบผิดเผิน ตามจินตนาการของคุณ
ความจริง หมายถึง ความหมายของสิฟาตที่ปรากฏตามตัวบท ไม่ใช่ผิวเผิน อย่างที่คุณอ้าง
คำว่า "อัซซอฮีรคือ
المعنى اللغوي الظاهر الواضح من سياق الكلام
ความหมายในทางภาษาที่ปรากฏชัดเจนจากความหมายของคำพูด
อิบนุกุดามะฮ (ร.ฮ)กล่าวว่า
الظاهر وهو ما يسبق إلى الفهم منه عند الإطلاق معنى مع تجويز غيره وإن شئت قلت ما احتمل معنيين هو في أحدهما أظهر
อัซซอฮีร คือ ความหมายที่เกิดขึ้นก่อนในความเข้าใจ เมื่อถูกกล่าว (เมื่อคำนั้นถูกกล่าว) โดยที่ความหมายอื่นก็เป็นไปได้ และหากท่านต้องการ ท่านก็กล่าวว่า (หมายถึง) สิ่งที่เป็นไปได้ทั้งสองความหมาย โดยที่ความหมายหนึ่งในสองความหมายนั้น ชัดเจนกว่า -ดู เราเฎาะตุลนาซีร 1/178
ซูฟยาน บิน อุยัยนะฮ(ฮ.ศ 198) กล่าวว่า
كُلُّ شَيْءٍ وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ فِي الْقُرْآنِ ، فَقِرَاءَتُهُ تَفْسِيرُهُ ، لا كَيْفَ وَلا مِثْلَ
ทุกสิ่งที่อัลอฮ พรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์ด้วยมัน การอ่านมัน คือ การอธิบายมัน ไม่มีการถามว่าเป็นอย่างไร และไม่มีการยกตัวอย่างเปรียบเทียบ 
كتاب الصفات للدارقطني (ص70)؛ شرح أصول اعتقاد أهل السنة والجماعة للالكائي (ج3 ص431)
อัลอัศบะฮานีย์ (ฮ.ศ 538) อธิบายคำพูดอิบนุอุยัยนะฮว่า
فقراءته تفسيره" أي هو على ظاهره لا يجوز صرفه إلى المجاز بنوع من التأويل
การอ่านของมัน คือการตัฟสีรมัน หมายถึง มันอยู่บนความหมายที่ปรากฏของมัน ไม่อนุญาตให้ผันมันไปสู่ความหมายเชิงอุปมา (มะญาซ) ด้วยชนิดใดๆ จากการตีความ
العلو للعلي الغفار للذهبي (ص263)؛ وكتاب العرش له (ج2 ص359-360
มาดูอิหม่ามอัซซะฮะบีย์อาธิบายดังนี้
وكما قال سفيان وغيره "قراءتها تفسيرها"، يعني أنها بينة واضحة في اللغة، لا يبتغى بها مضائق التأويل والتحريف. وهذا هو مذهب السلف مع إتفاقهم أيضا أنها لا تُشْبِه صفات البشر بوجه إذ الباري لا مثل له لا في ذاته ولا في صفاته 
และดังที่ ซูฟยานและอื่นจากเขา กล่าวว่า “การอ่านมัน คือ การตัฟสีรมัน หมายถึง แท้จริงมันมีความหมายชัดเจน และแจ่มแจ้งในทางภาษา และไม่สมควร ทำให้ยุ่งยากด้วยการตีความและเปลี่ยนแปลงความหมาย และนี้คือ แนวทางของสะลัฟ พร้อมทั้งการเห็นฟ้องของพวกเขา อีกว่า ไม่คล้ายคลึงกับ บรรดาลักษณะของมนุษย์ จะด้วยทางใดๆ (ก็ตาม) เพราะ พระผู้ทรงสร้าง ไม่มีตัวอย่างเปรียบเทียบใดๆสำหรับพระองค์ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับซาตของพระองค์ และ ไม่ว่าเกี่ยวกับบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ก็ตาม –ดู อัลอุลูวีย ลิอะลียิลฆอฟฟาร หน้า 251
ยกตัวอย่าง หะดิษนูซูล (หะดิษที่กล่าวถึงทรงเสด็จลงมา) ท่าน อบูสุลัยมัน อัลคิฏอบีย์ (ฮ.ศ 388) อธิบายว่า
هذا الحديث وما أشبهه من الأحاديث في الصفات كان مذهب السلف فيها الإيمان بها، وإجراءها على ظاهرها ونفي الكيفية عنها.
หะดิษนี้ และ สิ่งที่คล้ายคลึงกับมัน จากบรรดาหะดิษสิฟาต ปรากฏว่า มัซฮับสะลัฟ ในมัน(ในบรรดาหะดิษสิฟาต) คือ การศรัทธาด้วยมัน และปล่อยมันให้ดำเนินไปตามความหมายที่ปรากฏของมัน และปฏิเสธการอธิบายรูปแบบวิธีการจากมัน – ดู 
الأسماء والصفات للبيهقي (ج2 ص377) 
เพราะฉะนั้น คำพูดสะลัฟ ไม่ได้หมายถึงห้ามแปลความหมายในทางภาษา โดยให้อ่านทับศัพท์
อบูลกอซิม อิสมาอีลอัลอัศบะฮานีย์ (ฮ.ศ 535)
وقد سُئل عن صفات الرب تعالى فقال: (مذهب مالك، والثوري، والأوزاعي، والشافعي، وحماد ابن سلمة، وحماد بن زيد، وأحمد، ويحيى بن سعيد القطان، وعبد الرحمن بن مهدي، وإسحاق بن راهويه، أن صفات الله التي وصف بها نفسه، ووصفه بها رسوله، من السمع، والبصر، والوجه، واليدين، وسائر أوصافه، إنما هي على ظاهرها المعروف المشهور، من غير كيف يتوهم فيها، ولا تشبيه ولا تأويل،
แท้จริงเขา(อบูลกอซิม อิสมาอีลอัลอัศบะฮานีย์)ถูกถามเกี่ยวกับ บรรดาคุณลักษณะ ของพระเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง (เขากล่าวว่า "มัซฮับมาลิก,อัษเษารีย์,อัลเอาซาอีย์,อัชชาฟิอี,หัมมาด บิน สะละมะฮ ,หัมมาด บิน เซด ,อะหมัด,ยะหยา บิน สะอีด อัลกอฏฏอน ,อับดุรเราะหมาน บิน มะฮดีย์ และอิสหาก บิน รอฮะวียะฮ คือ แท้จริงบรรดาสิฟาตของอัลลอฮ ที่พระองค์ทรงพรรนณาคุณลักษณะ แก่พระองค์เองด้วยมัน และที่รอซูลของพระองค์ ได้พรรณาคุณลักษณะแก่พระองค์ด้วยมัน จากคำว่า อัสสัมอฺ(ทรงได้ได้ยิน) ,อัลบะศอร(ทรงเห็น),อัลวัจญฮ)ใบหน้า ,อัลยะดัยน(สองมือ)และบรรดาคุณลักษณะอื่น ของพระองค์ ,ความจริง มันอยู่ บนความหมายที่ปรากฏของมัน ที่เป็นที่รู้จักที่เป็นที่แพร่หลาย โดยไม่ถามว่าเป็นอย่างไร ที่เขานึกมโนภาพในมัน ,ไม่เปรียบเทียบและไม่ทำการตีความ - 
العلو للعلي الغفار للذهبي (ص263)؛ وكتاب العرش له (ج2 ص359-360)
......................
เพราะฉะนั้น การที่คุณ อะหมัดรอชีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์ นั่งเทียนกล่าวหาวะฮบีย์และโฆษณาชวนเชื่อให้คนอาวามเข้าใจผิด คุณทำงานศาสนาเพื่ออัลลอฮจริงหรือ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/2/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น