วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วะฮาบีย์ตักฟีรีย์วาทกรรมของคนลวงโลก



ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ในภาพอาจจะมี ข้อความ
วะฮาบีย์ตักฟีรีย์วาทกรรมของคนลวงโลก
มีคนบางกลุ่มที่มักจะอ้างตัวเองว่าคนหมู่มาก มีสะนัดสืบไปยังลูกหลานนบี จนถึงนบี แต่อาภัพทางวิชาการและหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงมาสนับสนุนแนวคิดของตน ประกอบกับความอิจฉาริษยา ความอคติและการปกป้องหมู่คณะและผลประโยชน์ จึงคิดกลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อมอมเมาคนอาวามว่า คนที่เห็นต่างกับตนคือ พวกวะฮบีย์ลัทธิใหม่ ที่ชอบตัดสินคนอื่นว่า เป็นกาเฟร
ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ) อิบนุกอ็ยยิม (ร.ฮ) ชัยค์มุหัมหมัด บิน อับดุลวาฮาบ ชัยค์อัลบานีย์ ,ชัยค์บินบาซ ,ชัยค์ อิบนุอุษัยมีน โดนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะบางคนแค่ไปชุบตัวมาจากต่างประเทศ มีความรู้แค่หางอึง ก็มานั่งตั้งป้อมใช้วาทกรรมเขียนหนังสือโจมตีปราชญข้างต้นว่าหลงทาง ส่วนตนเอนเองคือยอดนักปราชญ์ของแท้ -นะอูซุบิลละฮ
เท่าที่ศึกษามา บรรดานักปราชญ์ที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็น "วะฮบีย"ตัดสินใครซุ่มสี่สุ่มห้า ว่าคนนั้น คนนี้เป็นการเฟรเลย หากไม่มีหลักฐานเพียงพอ
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ)กล่าวว่า
وليس لأحد أن يكفر أحدًا من المسلمين ـ وإن أخطأ وغلط ـ حتي تقام عليه الحجة، وتبين له المحَجَّة، ومن ثبت إسلامه بيقين لم يزل ذلك عنه بالشك، بل لا يزول إلا بعد إقامة الحجة، وإزالة الشبهة‏.
และ ไม่อนุญาตแก่คนหนึ่งคนใด ตัดสินคนหนึ่งคนใดจากบรรดามุสลิมว่าเป็นกาเฟร และแม้เขาจะผิดพลาด และทำความผิด จนกว่าจะมีหลักฐานยืนยันบนมัน และข้อพิสูจน์ได้ปรากฏชัดเจนสำหรับมันแล้ว และผู้ใด การเป็นอิสลามของเขา มีความแน่นอนด้วยความมั่นใจ (การเป็นอิสลาม)ดังกล่าวนั้น จะไม่หมดไป จากเขา ด้วยเหตุของการสงสัย ยิ่งกว่านั้น มันยังคงดำรงอยู่ นอกจาก หลังจากที่หลักฐานยืนยัน และ ความคลุมเครือไม่หมดไป -ฟะตาวาอิบนุตัยมียะฮ เล่ม 12 หน้า 466
...........
จะเห็นได้ว่า อิบนุตัยมียะฮ เป็นผู้ที่รอบคอบและระหมัดระวังในเรื่องหุกุมการตักฟีรมาก
ชัยค์มุหัมหมัด บิน อับดุลวาฮาบ ก็เป็นปราชญ์อีกคนที่ถูกพวกมาเฟียร์ในคราบศาสนา ใส่ร้ายป้ายสีว่า ชอบตัดสินคนว่าเป็นกาเฟร ซึ่งความจริงหาใช่เช่นนั้น
ดูมาดูคำพูดของเช็คมุหัมหมัด บิน อับดุลวะฮับ
وأما الكذب والبهتان، فمثل قولهم: إنا نكفر بالعموم، ونوجب الهجرة إلينا على من قدر على إظهار دينه، وإنا نكفر من لم يكفر، ومن لم يقاتل، ومثل هذا وأضعاف أضعافه، فكل هذا من الكذب والبهتان، الذي يصدون به الناس عن دين الله ورسوله. وإذا كنا لا نكفر من عبد الصنم، الذي على عبد القادر، والصنم الذي على قبر أحمد البدوي، وأمثالهما، لأجل جهلهم، وعدم من ينبههم، فكيف نكفر من لم يشرك بالله إذا لم يهاجر إلينا، أو لم يكفر ويقاتل؟: {سُبْحَانَكَ هَذَا بُهْتَانٌ عَظِيمٌ
สำหรับการโกหกและการใส่ร้าย เช่น คำพูดของพวกเขาที่ว่า “ เราตัดสินการเป็นกุฟูรโดยรวม และ(ใส่ร้ายว่า)เราบังคับให้ผู้ที่มีความสามารถในการแสดงออกศาสนาของเขา(ที่อยู่ในเมือง) ให้อพยพมายังเรา และ(ใส่ร้ายว่า)เราตัดสินว่าเป็นกุฟุร ผู้ที่ไม่ได้กล่าวว่าเป็นกาเฟร และ ผู้ที่ไม่ร่วมทำสงคราม(กับเรา) และเหมือนกับสิ่งนี้มีมากมาย และทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากการโกหกและใส่ร้าย ของผู้ที่ ขัดขวางมนุษย์จากศาสนาของอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ และในเมื่อเราไม่ได้ตัดสินว่าเป็นกุฟุร ผู้ที่อิบาดะฮต่อเจว็ด ที่มีอยู่บน(กุบูร)อับดุลเกาะดีร และรูปเจว็ด ที่อยู่บนกุบูร อะหมัดอัลบะดะวีย์ และบรรดาที่เหมือนกับทั้งสองนั้น เพราะความไม่รู้ของพวกเขา และเพราะไม่มีผู้ตักเตือนพวกเขา แล้วเราจะตัดสินการเป็นกุฟุร กับผู้ที่ไม่ได้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮได้อย่างไร เมื่อเขาไม่อพยพมายังเรา หรือไม่กล่าวว่าเป็นกุฟุร หรือไม่ทำสงคราม(ร่วมกับเรา) (มหาบริสุทธิ์ พระองค์ท่าน (โอ้อัลลอฮ) นี่คือ การใสร้าย อันมหันต์ – ดู อัดดุรอรอัสสานียะฮ เล่ม 1 หน้า 104
@@@
ขนาด ผู้ที่ไปอิบาดะฮที่รูปเจว็จบนหลุมศพอับดุลกอเดรและอะหมัด อัลบะดะวีย์ ท่านเช็คมุหัมหมัด บิน อับดุลวะฮับ ยังไม่ตัดสินว่าเป็นกุฟุรเลย เพราะท่านถือว่า พวกนั้นไม่รู้และไม่มีใครตักเตือน แล้วท่านจะไปตัดสินการเป็นคนว่าเป็นกุฟุร โดยรวม โดยไม่มีสาเหตุได้อย่างไร
..........
ผมได้ยกตัวอย่างทัศนะของปราชญ์ที่ถูกแก๊งอันธพาลในคราบนักการศาสนา มักจะใส่ร้ายโจมตีบ่อย ก็พิสูจน์ได้ว่า "คำว่าวะฮาบีย์ตักฟีรีย์" เป็นแค่วาทกรรมลวงโลกที่เกิดจากอคติและความแค้นของนักการศาสนาที่อนุรักษ์ชิริก ,บิดอะฮและปกป้องแนวคิดของพวกตนเท่านั้น
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
7/2/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น