วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เมื่อโต๊ะครูโกหกว่าเคาะลิฟะฮทั้งสี่ทำบิดอะฮหะสะนะฮ



ในภาพอาจจะมี ข้อความ


เมื่อโต๊ะครูโกหกว่าเคาะลิฟะฮทั้งสี่ทำบิดอะฮหะสะนะฮ
Saina Boyda-e
ผู้แปลฮาดิษว่าบิดอะห์ทุกชนิดรวมเป็นบิดิะห์ดอลาละห์เข้านรก จะมีความผิดดังนี้คือ 1แปลฮาดิษโดยไม่ได้อ้างอิงกับคำแปลของเหล่ามุชตาฮิดจะเกิดบาปร้ายแรง2 จะกระทบกระเทือนถึงบรรดาซอฮาบะห์ ซึงเขาเหล่านั้นได้กระทำบิดอะห์ฮาซานะห์ ชึ่งจะต้องตกอยู่ในความหมายของคำแปลของผู้นั้นอีกด้วยว่าบรรดาซอฮาบะห์เหล่านั้นจะต้องเข้านรก และคำแปลของผู้นั้นขัดแย้งกับฮาดิษที่ว่า ابوبكرفي الجنة وعمرفي الجنة وعثمان في الجنة وعلى في الجنة
@@@@
ชี้แจง
ท่านครู Saina Boyda-e ครับ ที่ท่านครูอ้างว่า
ผู้แปลฮาดิษว่าบิดอะห์ทุกชนิดรวมเป็นบิดิะห์ดอลาละห์เข้านรก จะมีความผิดดังนี้คือ 1แปลฮาดิษโดยไม่ได้อ้างอิงกับคำแปลของเหล่ามุชตาฮิดจะเกิดบาปร้ายแรง
ตอบ
มุจญตะฮิดท่านใดครับ บอกว่า บิดอะฮในเรื่องศาสนามีข้อยกเว้น คือ มีบิดอะฮที่ดีอยู่ด้วย
มาดูท่านนบีศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
وإياكم ومحدثات الأمور فإن كل محدثة بدعة وكل بدعة ضلالة
ความว่า : “และพวกเจ้าจงระวังสิ่งที่ถูกประดิษฐขึ้นใหม่ในศาสนา เพราะว่าทุกๆบิดอะฮฺนั้นคือความหลงผิด”-(รางานโดย อะบูดาวุด: 4607 และติรมีซีย์ : 2676)
ท่านอิบนุอุมัร (ร.ฎ) กล่าวว่า
كل بدعة ضلالة وإن رآها الناس حسنة
ทุกบิดอะฮคือการหลงผิด และแม้ว่ามนุษย์จะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดีก็ตาม –ดูที่มาข้างล่าง
رواه اللالكائي (رقم126)،وابن بطة (205)،والبيهقي في "المدخل إلى السنن"(191)،وابن نصر في "السنة" (رقم70) بسند صحيح كما في "علم أصول البدع" لعلي الحلبي (ص92).،
อิหม่ามอัชชาฏิบีย(ร.ฮ)กล่าวว่า
قول النبيِّ صلى الله عليه وسلم: ((كل بدعة ضلالة)) محمولٌ عند العلماء على عمومه، لا يُستثنى منه شيء ألبتة، وليس فيها ما هو حسنٌ أصلاً؛ إذ لا حسن إلا ما حسَّنه الشرع، ولا قبيح إلا ما قبَّحه الشرع، فالعقل لا يحسِّن ولا يقبِّح؛ وإنما يقول بتحسين العقل وتقبيحه أهلُ الضلال.
คำพูดของนบี ศอ็ลฯ ที่ว่า (ทุกบิดอะฮ คือการหลงผิด) ในทัศนะบรรดาอุลามาอฺ ได้ถูกถือตามความหมายกว้างๆของมัน ไม่มีสิ่งใดยกเว้นเลย และในบิดอะฮนั้น ไม่มีสิ่งที่ดีในมัน มาแต่เดิม ยกเว้น สิ่งที่ศาสนบัญญัติได้ระบุว่ามันดี และไม่มีสิ่งใดเลว นอกจากสิ่งที่ศาสนบัญญัติระบุว่ามันเลว ดังนั้น สติปัญญา (เหตุผลทางปัญญา) จะไม่ตัดสินว่าดีหรือเลว ความจริง ผู้ที่กล่าวด้วยการเห็นว่าดีและเห็นว่าเลวของสติปัญญา (หมายถึงด้วยเหตุผลทางปัญญา) นั้นคือ ชาวบิดอะฮ
-ฟะตาวาอิหม่ามอัชชาฏิบีย์ 180-181
........................
จากรายละเอียดข้างต้น จึงสรุปได้ว่า ในศาสนบัญญัติ ไม่มีบิดอะฮที่ดี และ ผู้ที่ตัดสินว่าดีและเลวในเรื่องศาสนาด้วยเหตุผลทางปัญญา นั้น คือชาวบิดอะฮ
ชัยค์อัรรูมีย์ อัลหะนะฟีย์ ฮ.ศ 834 (ร.ฮ) กล่าวว่า
فَمَنْ اَحْدَثَ شَيْئًا يَتَقَرَّبُ بِهِ اِلَى اللهِ تَعَالَى مِنْ قَوْلٍ اَوْ فِعْلٍ ، فَقَدْ شَرَعَ مِنَ الدِّيْنِ مَا لَمْ يَاْذَنْ بِهِ اللهُ فَعُلِمَ اَنَّ كُلَّ بِدْعَةٍ مَنَ الْعِبَادَةِ الدِّيْنِيَّةِ لاَ تُكُوْنُ اِلاَّ سَيِّئَةً
แล้วผู้ใดประดิษฐ์สิ่งใดขึ้นมาใหม่ นำมันไปแสดงการใกล้ชิด(อิบาดะฮ) ต่ออัลลอฮ จากคำพูดหรือการกระทำ แน่นอนเขาได้บัญญัติศาสนา สิ่งซึ่งอัลลอฮไม่ทรงอนุมัติด้วยมัน ,เขาก็จะรู้ว่า ทุกบิดอะฮจากอิบาดะฮที่เกี่ยวกับศาสนา มันจะไม่เป็นอย่างอื่นนอกจาก เป็นสิ่งที่เลว - อิลมุอุศูลิลบิดอีของ อาลี บิน หะซัน อัลหัมบะลีย อัลอะษะรีย หน้า 101
แม้แต่อัลหาฟิซฮิบนุหะญัรปราชญ์มัซฮับชาฟิอี ก็บอกว่า
อัลหาฟิซอิบนุหะญัรอัลอัสเกาะลานีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า
فالبدعة في عرف الشرع مذمومة ، بخلاف اللغة ، فإن كل شيء أُحدث على غير مثال يسمى بدعة سواء كان محموداً ، أو مذموماً
บิดอะฮในนิยามของศาสนบัญญัตินั้น คือ สิ่งที่ถูกตำหนิ ต่างกับบิดอะฮในทางภาษา เพราะทุกสิ่ง ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยไม่มีแบบอย่างมาก่อนนั้น ถูกเรียกว่า บิดอะฮ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกชมเชยและถูกตำหนิก็ตาม - ดูฟัตหุลบารีย์ 13/253
......
ที่เราะพูดเรื่องบิดอะฮในทางศาสนบัญญัติ หมายถึงบิดอะฮในเรื่อง อิบาดะฮ ครับ ไม่ใช่บิดอะฮขี่เครื่องบิน ที่นักอนุรักษ์บิดอะฮชอบอ้างว่า "ถ้าตามนบีทำไมไม่ขี่อูฐ
2. ท่านครู Saina Boyda-e อ้างว่า
2 จะกระทบกระเทือนถึงบรรดาซอฮาบะห์ ซึงเขาเหล่านั้นได้กระทำบิดอะห์ฮาซานะห์ ชึ่งจะต้องตกอยู่ในความหมายของคำแปลของผู้นั้นอีกด้วยว่าบรรดาซอฮาบะห์เหล่านั้นจะต้องเข้านรก และคำแปลของผู้นั้นขัดแย้งกับฮาดิษที่ว่า ابوبكرفي الجنة وعمرفي الجنة وعثمان في الجنة وعلى في الجنة
......
ตอบ
โต๊ะครูโกหกครับ เพราะการกระทำของเคาะลิฟะฮรอชิดีน เกี่ยวกับเรื่องศาสนา ล้วนเป็นสิ่งที่นบี ศอ็ลฯรับรอง ไม่ใช่บิดอะฮ ครับ ดังที่ท่านนบีกล่าวว่า
عليكم بسنتي وسنة الخلفاء الراشدين المهديين من بعدي ، تمسكوا بها وعضوا عليها بالنواجذ ، وإياكم ومحدثات الأمور ، فإن كل محدثة بدعة ، وكل بدعة ضلالة
พวกท่านจงยึดมั่นในสุนนะฮ(แบบอย่าง)ของฉัน และบรรดาเคาะลิฟะฮผู้ชี้ทางที่ถูกต้อง ผู้ได้รับทางนำหลังจากฉัน จงยึดถือมัน และจงกัดกรามต่อมัน(หนักแน่นอดทน) และพึงระวังสิ่งที่ถูกอุตริขึ้นใหม่ในศาสนา และแท้จริงทุกสิ่งอุตริขึนใหม่นั้น เป็นบิดอะฮ และทุกบิดอะฮ นั้น เป็นการหลงผิด" - บันทึกโดยอะหมัด และ อัตติรมิซีย์
......
สำหรับ คำว่า "สุนนะฮเคาะลิฟะฮ" นั้น อัลมุบาเราะกะฟูรีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า
قلت: ليس المراد بسنة الخلفاء الراشدين إلا طريقتهم الموافقة لطريقته صلى الله عليه وسلم، قال القاري في المرقاة: فعليكم بسنتي: أي بطريقتي الثابتة عني واجباً أو مندوباً، وسنة الخلفاء الراشدين: فإنهم لم يعملوا إلا بسنتي
ข้าพเจ้ากล่าวว่า " จุดประสงค์ของคำว่า สุนนะฮเคาะลิฟะฮรอชิดีน นั้น ไม่ใช่อื่นใด นอกจาก แนวทางของพวกเขา ที่สอดคล้องกับแนวทางของรซูลุลลอฮ (ศอ็ลฯ ) ,อัลกอรีย์ ได้กล่าวใน อัลมิรกอต ว่า "พวกท่านจงยึดมั่นด้วยสุนนะฮของฉัน" หมายถึงแนวทางของฉัน ที่แน่นอนจากฉัน ที่เป็นวาญิบและเป็นสุนัต ,และ(คำว่า ) "สุนนะฮบรรดาเคาะลิฟะฮรอซิดีน" ก็เพราะพวกเขาจะไม่ปฏิบัตินอกจาก ด้วยสุนนะฮของฉัน - ดู ตุหฟะตุลอะหวะซีย์ เล่ม 3 หน้า 50
...............
บรรดาเคาะลิฟะฮ รอชิดีน พวกเขาจะไม่ทำอะไรในเรื่องศาสนาออกนอกแนวทางหรือสุนนะฮนบี ศอ็ลฯหรอก อย่างได้อ้างเดาสุ่ม ตามอารมณ์
เพราะฉะนั้นอย่าได้อ้างโกหกว่า บรรดาเคาะลิฟะฮทำบิดอะฮ แล้วเอามาอ้างสนับสนุนบิดอะฮที่ตัวกระทำ ไม่อย่างนั้นนรกจะกินหัวนะครับท่านครู

والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
30/12/60





เอกสารอ้างอิง








 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น