อิบาดะฮยี่ห้อไหม่อะไหล่ประกอบเอง

อิบาดะฮยี่ห้อไหม่อะไหล่ประกอบเอง

ปัจจุบัน การผลิตอิบาดะฮเทียมเลียนแบบอิบาดะฮจริง มีให้เห็นมากมาย จนคนอาวามแยกไม่ออกว่า อะไรคือจริง อะไรคือของปลอม จึงนำมาใช้เหมาเข่งตามคำแนะนำของผู้ผลิต ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก

อิหม่ามอัชชาฏิบีย์กล่าวว่า

البدعة: طريقة في الدين مخترعة، تضاهي الشرعية، يقصد بالسلوك عليها ما يقصد بالطريقة الشرعية

บิดอะฮคือ แนวทางในเรื่อง ศาสนา ซึ่งถูกอุตริขึ้นมาใหม่ เลียนแบบศาสนบัญญัติ โดยมีจุดมุ่งหมายในการปฏิบัติ เหมือนกับจุดมุ่งหมายตามแนวทางศาสนบัญญัติ – ดูอัลเอียะติศอม เล่ม 1 หน้า

วิธีประดิษฐอิบาดะฮปลอม

1.เอาการเศาะละวาตนบี มาประกอบ (อ้างว่าศาสนาสอนให้เศาะละวาตนบี)
2. เอาการเศาะดะเกาะฮ มาประกอบ (อ้างว่าศาสนาสอนให้เศาะดะเกาะฮ)
3. เอาการอ่านอัลกุรอ่านมาประกอบ (อ้างว่า ศาสนาสอนให้อ่านอัลกุรอ่าน)
4. เอาการเล่าประวัตินบีมาประกอบ (อ้างว่า เอามาจากหนังกิศอศอัมบิยาอฺ เล่าประวัตินบีผิดด้วยหรือ)
5.เอาความเชื่อวิญญานนบีมา ณ สถานที่เทิดเกียรตินบี (อ้างว่าผู้เป็นนบีมีชีวิตในกุโบร์ ท่านจะไปใหนก็ได้)
ห้าข้อข้างต้น เป็นไหล่่ มาประกอบเองไม่ต้องอาศัยคำสั่งอัลลอฮและและแบบอย่างรอซูล กลายเป็นอิบาดะฮตัวใหม่ เรียกว่า "การเฉลิมฉลองวันเกิดนบี ( الاحتفال بالمولد النبوي )

บิดอะฮ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1.บิดอะฮหะกีกียะฮ (บิดอะฮแท้ๆ หรือ บิดอะฮเพียวๆไม่ปนผัก)

อิหม่ามชาฏิบีย์กล่าวว่า

إِن الْبِدْعَةَ الْحَقِيقِيَّةَ هِيَ الَّتِي لَمْ يَدُلَّ عَلَيْهَا دَلِيلٌ شَرْعِيٌّ لَا مِنْ كِتَابٍ، وَلَا سُنَّةٍ، وَلَا إِجماع، وَلَا قِيَاسٍ ، وَلَا اسْتِدْلَالٍ مُعْتَبَرٍ عِنْدَ أَهل الْعِلْمِ، لَا فِي الْجُمْلَةِ، وَلَا فِي التَّفْصِيلِ، وَلِذَلِكَ سُمِّيَتْ بِدْعَةً ـ كَمَا تَقَدَّمَ ذِكْرُهُ ـ؛ لأَنها شيءٌ مُخْتَرَعٌ عَلَى غَيْرِ مِثَالٍ سَابِقٍ،

แท้จริง บิดอะฮอัลหะกีกียะฮ คือ สิ่งที่ไม่มีหลักฐานทางศาสนบัญญัติ แสดงบอกบนมัน ไม่มีจากอัลกุรอ่าน ,ไม่มีจากสุนนะฮ ,ไม่มีจากอิจญมาอฺ ,ไม่มีจากการกิยาส และไม่มีการอ้างอิงหลักฐานที่เป็นที่ยอมรับ ในทัศนะของนักวิชาการ ไม่ว่าในแบบสรุปหรือในแบบที่แจกแจงรายละเอียด และเพราะดังกล่าวนั้น มันถูกเรียกว่า "บิดอะฮ" ดังสิ่งที่ได้ระบุมันมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะว่าแท้จริง มันคือสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่โดยไม่มีแบบอย่างมาก่อน -อัลเอียะติศอม 2/126

2. บิดอะฮอิฎอฟียะฮ (บิดอะฮที่ผูกพันกับหลักฐานทางศาสนา)

อิหม่ามชาฏิบีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า

وأَما الْبِدْعَةُ الإِضافية فَهِيَ الَّتِي لَهَا شَائِبَتَانِ: إِحداهما لَهَا مِنَ الأَدلة مُتَعَلَّق، فَلَا تَكُونُ مِنْ تِلْكَ الْجِهَةِ بِدْعَةً. والأُخرى لَيْسَ لَهَا مُتَعَلَّق إِلا مِثْلَ مَا لِلْبِدْعَةِ الْحَقِيقِيَّةِ

สำหรับบิดอะฮอัลอิฎอฟียะฮนั้น คือ บิดอะฮที่มี 2 ส่วนประสม คือ
2.1 มันมีหลักฐานมาเกี่ยวข้อง มันจะไม่เป็นบิดอะฮในด้านดังกล่าว (เพราะอ้างหลักฐาน-ผู้แปล)
2.2 มันไม่มีหลักฐานมาเกี่ยวข้อง นอกจาก เหมือนกับสิ่งที่เป็นของบิดอะฮหะกียะฮ( เพราะไม่มีหลักฐานมาเจาะจง-ผู้แปล) -อัลเอียะติศอม 2/126

ขอยกตัวอย่างเช่น 
การเศาะละวาตนบี มีหลักฐานชัดเจนที่สอนให้เศาะละวาตนบี ในด้านนี้ไม่ใช่บิดอะฮ แต่การเจาะจง การเศาะลาตนบี ในเวลา และสถานที่ที่เฉพาะ โดยมีความเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ประเสริฐ โดยที่บทบัญญัติศาสนา ไม่ได้กำหนดการเจาะจงไว้ ในด้านนี้ถือเป็นบิดอะฮ หรือเช่น การอาซาน ในขณะที่นำมัยยิตออกจากบ้าน เป็นต้น การอาซานมีหลักฐาน แต่การเจาะจงนำมาใช้ในกรณีเอามัยยิตออกจากบ้าน ไม่มีหลักฐานทางศาสนบัญญัติ

อิหม่ามอัชชาฏิบีย์กล่าวว่า

وَمِنَ الْبِدَعِ الْإِضَافِيَّةِ الَّتِي تَقْرُبُ مِنَ الْحَقِيقِيَّةِ : أَنْ يَكُونَ أَصْلُ الْعِبَادَةِ مَشْرُوعًا ؛ إِلَّا أَنَّهَا تُخْرَجُ عَنْ أَصْلِ شَرْعِيَّتِهَا بِغَيْرِ دَلِيلٍ تَوَهُّمًا أَنَّهَا بَاقِيَةٌ عَلَى أَصْلِهَا تَحْتَ مُقْتَضَى الدَّلِيلِ ، وَذَلِكَ بِأَنْ يُقَيَّدَ إِطْلَاقُهَا بِالرَّأْيِ ، أَوْ يُطْلَقَ تَقْيِيدُهَا ، وَبِالْجُمْلَةِ ؛ فَتَخْرُجُ عَنْ حَدِّهَا الَّذِي حُدَّ لَهَا

และส่วนหนึ่งจากบิดอะฮ อัลอิฎอฟียะฮ ที่ ใกล้เคียง กับ บิดอะฮหะกีกียะฮ คือ รากฐานของอิบาดะฮนั้น เป็นสิ่งที่ถูกบัญญัติไว้ เว้นแต่มันออกจาก รากฐาน ของ การบัญญัติใช้ของมัน โดยไม่มีหลักฐาน โดยการเข้าใจผิดว่า มันยังคงอยู่บนรากฐานของการบัญญัติใช้ ภายใต้จุดมุ่งหมายของหลักฐาน และดังกล่าวนั้น โดยการ จำกัด การระบุเอาไว้กว้างๆของบทบัญญัติ ด้วยความเห็น หรือ กำหนดให้ บทบัญญัติที่เฉพาะเจาะจง ให้เป็นหลักการกว้างๆ สรุปคือ มันถูกกำหนดให้มันออกจากขอบเขตของมัน จาก สิ่งซึ่ง มันถูกกำหนดขอบเขตไว้แล้ว – ดู อัลเอียะติศอม
เล่ม 2 หน้า 486 
...................
จากคำพูดของอิหม่ามชาฏิบีย์คือ การจำกัดเฉพาะสิ่งที่ศาสนาได้บัญญัติเอาไว้กว้างๆด้วยความเห็นนั้น เป็นบิดอะฮ 
ที่เรียกว่า “บิดอะฮอิฎอฟียะฮ”นั้น เพราะสิ่งนั้นมีบัญญัติไว้ แต่นำไปปฏิบัตินอกกรอบของศาสนา

والله أعلم بالصواب

อะสัน หมัดอะดั้ม
6/12/60