
การอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จริงหรือ
อัล-อัซฮะรีย์ อัช-ชาฟีอีย์ 1. แนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์นั้น เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงสูงส่งในเชิงนามธรรมและทรงมีคุณลักษณะที่สูงส่งเหนือบัลลังก์(อะรัช)
ท่านชัยคุลอิสลาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลอัสกอลานีย์กล่าวว่า
ท่านชัยคุลอิสลาม อัลฮาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลอัสกอลานีย์กล่าวว่า
وَلَا يَلْزَمُ مِنْ كَوْنِ جِهَتَىِ الْعُلُوِّ وَالسُّفْلِ مُحَالاً عَلىَ اللهِ أَنْ لاَ يُوْصَفُ بِالْعُلُوِّ ، لِأَنَّ وَصْفُهُ بِالْعُلُوَّ مِنْ جِهَةِ الْمَعْنَى ، وَالْمُسْتَحِيْلُ كَوْنُ ذَلِكَ مِنْ جِهَةِ الْحِسِّ وَلِذَلِكَ وَرَدَ فِىْ صِفَتِهِ الْعَالِى وَالعَلِىُّ وَالْمُتَعَالِى ، وَلَمْ يَرِدْ ضِدُّ ذَلِكَ ,إِنْ كَانَ قَدْ أَحَاطَ بِكُلِّ شَىْءٍ عِلْماُ جَلَّ وَعَزَّ
ความว่า “การที่มีสองทิศบน(คือมีสถานที่อยู่ทิศบน)และทิศล่างเป็นสิ่งเป็นไปไม่ได้(มุสตะฮีล)สำหรับอัลเลาะฮ์นั้น ก็ไม่จำเป็นที่พระองค์จะไม่มีคุณลักษณะที่สูงส่ง เพราะลักษณะความสูงส่งของพระองค์นั้น มาจากด้านของนามธรรม(คือสูงส่งมิใช่รูปธรรมที่อยู่ในความหมายว่าพระองค์มีสถานที่สถิต) และเป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้ กับ(การมีคุณลักษณะสูงส่ง)ดังกล่าวนั้นมาจากด้าน(ความหมาย)ที่เป็นรูปธรรมสัมผัสได้(คือมีสถานที่อยู่แบบสูงๆขึ้นไป) และด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ได้มีระบุว่าพระองค์มีคุณลักษณะ “อัลอาลีย์” “อัลอะลีย์” และ “อัลมุตะอาลีย์” (ทั้งสามเป็นพระนามของอัลเลาะฮ์ซึ่งหมายถึงพระองค์ทรงสูงส่งยิ่ง) และไม่มีระบุตรงกันข้ามกับสิ่งดังกล่าวเลย(คือไม่มีระบุว่าพระองค์ไม่ทรงสูงส่งเลย) และหากแม้ว่าพระองค์ทรงห้อมล้อมทุก ๆ สิ่งด้วยความรอบรู้ของพระองค์สักทีก็ตาม” ฟัตหฺอัลบารีย์: 6/136
@@@@@@
ชี้แจง
การอ้างว่า คำว่า ทิศเบื้องสูงเกี่ยวอัลลอฮนั้น คือ สูงในด้านนามธรรม ไม่ใช่อยู่เบื้องสูงที่เป็นรูปธรรม หรือ สูงทางด้านฐานะ ไม่ใช่ซาตอัลลอฮอยู่เบื้องสูง
ขอตอบว่า "ข้างต้นเป็นความเห็นล้วนๆตามแนวคิดปัญญานิยม
ซึ่งขัดกับอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ เช่น
1.อัลลอฮตาอาลา ตรัสว่า
1.อัลลอฮตาอาลา ตรัสว่า
تَعْرُجُ الْمَلائِكَةُ وَالرُّوحُ إِلَيْهِ فِي يَوْمٍ كَانَ مِقْدَارُهُ خَمْسِينَ أَلْفَ سَنَةٍ[
มะลาอิกะฮฺและอัรรูฮ์(ญิบริล)จะขึ้นไปหาพระองค์ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับห้าหมื่นปี (ของโลกนี้) -. อัล มาอะริจจ์:/ 4
อิบนุญะรีร (ขออัลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
อิบนุญะรีร (ขออัลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
تَصْعَد الْمَلَائِكَة وَالرُّوح , وَهُوَ جِبْرِيل عَلَيْهِ السَّلَام إِلَيْهِ , يَعْنِي إِلَى اللَّه جَلَّ وَعَزَّ ; وَالْهَاء فِي قَوْله { إِلَيْهِ } عَائِدَة عَلَى اسْم اللَّه
มลาอิกะฮและอัรรูหฺ ขึ้นไป และเขาคือ ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ยังพระองค์ หมายถึง ไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงเลิศยิ่ง และ อักษรฮา ในคำตรัสที่ว่า(อิลัยฮิ) กลับไปยังพระนามของอัลลอฮ (หมายถึงเป็นสรรพนามแทนชื่ออัลลอฮ) – ดู – ตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบาย ซูเราะฮอัลมะอาริจญ์ อายะฮที่ 4
........
อิบนุญิระรีร ปราชญสะลัฟ ยืนยันว่า ญิบรีล ขึ้นไปยังอัลลอฮ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้อยู่เบื้องสูงคืออัลลอฮ แล้วมลาอิกะฮขึ้นไปยังพระองค์ มันเป็นไปไม่ได้ที่มลาอิกะฮขึ้นไปหาสถานะหรือฐานันดร ของอัลลอฮ ซึ่งเป็นนามธรรม ไม่ใช่ซาตหรือตัวตนของอัลลอ
อิบนุญิระรีร ปราชญสะลัฟ ยืนยันว่า ญิบรีล ขึ้นไปยังอัลลอฮ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้อยู่เบื้องสูงคืออัลลอฮ แล้วมลาอิกะฮขึ้นไปยังพระองค์ มันเป็นไปไม่ได้ที่มลาอิกะฮขึ้นไปหาสถานะหรือฐานันดร ของอัลลอฮ ซึ่งเป็นนามธรรม ไม่ใช่ซาตหรือตัวตนของอัลลอ
2. ชีวิตผู้ศรัทธาจะถูกนำขึ้นไปยังชั้นฟ้าที่อัลลอฮทรงอยู่บนมัน
อิบนิกะษีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบายว่า
وَفِي الْحَدِيث الَّذِي رَوَاهُ الْإِمَام أَحْمَد وَأَبُو دَاوُد وَالنَّسَائِيّ وَابْن مَاجَهْ مِنْ حَدِيث الْمِنْهَاج عَنْ زَاذَان عَنْ الْبَرَاء مَرْفُوعًا الْحَدِيث بِطُولِهِ فِي قَبْض الرُّوح الطَّيِّبَة قَالَ فِيهِ " فَلَا يَزَال يَصْعَد بِهَا مِنْ سَمَاء إِلَى سَمَاء حَتَّى يَنْتَهِي بِهَا إِلَى السَّمَاء الَّتِي فِيهَا اللَّه "
ในหะดิษซึ่งรายงานโดย อิหม่ามอะหมัด,อบูดาวูด,อันนะสาอีย์และอิบนุมาญะฮ จากหะดิษ อัลมินฮาจญ์ จากซาดาน จาก อัลบะรออฺ เป็นหะดิษสืบไปถึงนบี(หะดิษมัรฟัวะ) ซึ่งเป็นหะดิษที่มีเนื้อหายาว ในเรื่อง การเอาชีวิตที่ดี ท่านนบี ได้กล่าวในหะดิษดังกล่าวว่า “ เขาได้นำมัน ขึ้นไป จากฟากฟ้าหนึ่ง ไปยัง อีกฟากฟ้าหนึ่ง จนกระทั่งเขาได้นำมันไปถึงฟากฟ้าที่อัลลอฮ อยู่บนมัน – ตัฟสีรอิบนุกะษีร อรรถาธิบาย ซูเราะฮอัลมะอาริจญ์ อายะฮที่ 4
ในหะดิษซึ่งรายงานโดย อิหม่ามอะหมัด,อบูดาวูด,อันนะสาอีย์และอิบนุมาญะฮ จากหะดิษ อัลมินฮาจญ์ จากซาดาน จาก อัลบะรออฺ เป็นหะดิษสืบไปถึงนบี(หะดิษมัรฟัวะ) ซึ่งเป็นหะดิษที่มีเนื้อหายาว ในเรื่อง การเอาชีวิตที่ดี ท่านนบี ได้กล่าวในหะดิษดังกล่าวว่า “ เขาได้นำมัน ขึ้นไป จากฟากฟ้าหนึ่ง ไปยัง อีกฟากฟ้าหนึ่ง จนกระทั่งเขาได้นำมันไปถึงฟากฟ้าที่อัลลอฮ อยู่บนมัน – ตัฟสีรอิบนุกะษีร อรรถาธิบาย ซูเราะฮอัลมะอาริจญ์ อายะฮที่ 4
......
และหะดิษที่ท่านอิบนิกะษีร อ้างก็เป็นหะดิษเศาะเฮียะ รายงานโดย อิหม่ามอะหมัด หะดิษหมายเลข 18063 ในมัจญมัวะอัซซวาอิดระบุว่า บรรดาผู้รายงานมัน เป็นบรรดาผู้รายงานที่ถูกต้อง(رجاله رجال الصحيح)
หะดิษนี้อิหม่ามอัลกุฏุบีย ระบุไว้ในหนังสือ อัลอัสหนา ฟี ชัรหอัลอัสมาอิลหุสนา หน้า 152 ว่า เป็นหะดิษเศาะเฮียะ
และหะดิษที่ท่านอิบนิกะษีร อ้างก็เป็นหะดิษเศาะเฮียะ รายงานโดย อิหม่ามอะหมัด หะดิษหมายเลข 18063 ในมัจญมัวะอัซซวาอิดระบุว่า บรรดาผู้รายงานมัน เป็นบรรดาผู้รายงานที่ถูกต้อง(رجاله رجال الصحيح)
หะดิษนี้อิหม่ามอัลกุฏุบีย ระบุไว้ในหนังสือ อัลอัสหนา ฟี ชัรหอัลอัสมาอิลหุสนา หน้า 152 ว่า เป็นหะดิษเศาะเฮียะ
أن روح المؤمن إذا خرجت عند الموت يعرج به فتنفتح له أبواب السماء سماء سماء حتى ينتهي إلى السماء التي فيها الله تبارك وتعالى وهو حديث صحيح سنده
แท้จริง ชีวิตผู้ศรัทธา เมื่อมันออกมา ขณะที่เสียชีวิต เขาจะถูกนำขึ้นไป แล้วบรรดาประตูฟากฟ้าถูกเปิด ให้เขา ชั้นฟ้าหนึ่ง ชั้นฟ้าหนึ่ง(หมายถึง จากฟากฟ้าหนึ่ง ไปยัง อีกฟากฟ้าหนึ่ง) จนกระทั้ง มาถึงฟากฟ้าที่อัลลอฮ ผู้ทรงบริสุทธิ์ และสูงส่ง อยู่บนมัน และมันคือ หะดิษที่สายรายงานของมันเศาะเฮียะ และระบุไว้ในอัลอัรบะอีน ฟิ สิฟาตรอบบิลอาละมีน ของ อิหม่ามอัซซะฮะบีย์ หน้า 52
............
หะดิษข้างต้น แสดงให้เห็นการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ (ซ.บ)อย่างชัดเจน ที่มีมาตามตัวบท ที่ตีแสกหน้า กลุ่มแนวคิดญะฮมียะฮที่ปฏิเสธ ดังกล่าว
3. หะดิษเมียะรอจญ์ที่ญิบรีลนำท่านนบี ศอ็ลฯขึ้นไปยังอัลลอฮ และรับบทบัญญัติการละหมาด 5 เวลา ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า
............
หะดิษข้างต้น แสดงให้เห็นการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ (ซ.บ)อย่างชัดเจน ที่มีมาตามตัวบท ที่ตีแสกหน้า กลุ่มแนวคิดญะฮมียะฮที่ปฏิเสธ ดังกล่าว
3. หะดิษเมียะรอจญ์ที่ญิบรีลนำท่านนบี ศอ็ลฯขึ้นไปยังอัลลอฮ และรับบทบัญญัติการละหมาด 5 เวลา ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า
قَالَ - فَلَمْ أَزَلْ أَرْجِعُ بَيْنَ رَبِّي تَبَارَكَ وَتَعَالَى وَبَيْنَ مُوسَى - عَلَيْهِ السَّلاَمُ –
นบี ศอ็ลฯ กล่าวว่า ดังนั้นฉันจึงเทียวไปเทียวมาระหว่างองค์อภิบาลของฉันผู้ทรงจำเริญและสูงส่ง กับนบีมูซา อลัยฮิสสลาม
.............
ข้อสังเกต – การไปมาระหว่างอัลลอฮ กับ มูซา ชี้ให้ว่า นบี ศอลฯ รู้ว่าอัลลอฮอยู่ใหน และรู้ว่าอยู่เบื้องสูง
.............
ข้อสังเกต – การไปมาระหว่างอัลลอฮ กับ มูซา ชี้ให้ว่า นบี ศอลฯ รู้ว่าอัลลอฮอยู่ใหน และรู้ว่าอยู่เบื้องสูง
อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮ (ฮ.ศ 223-311) กล่าวว่า
وَفِي الأَخْبَارِ دَلالَةٌ وَاضِحَةٌ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عُرِجَ بِهِ مِنَ الدُّنْيَا إِلَى السَّمَاءِ السَّابِعَةِ ، وَأَنَّ اللَّهَ تَعَالَى فَرَضَ عَلَيْهِ الصَّلَوَاتِ عَلَى مَا جَاءَ فِي الأَخْبَارِ ، فَتِلْكَ الأَخْبَارُ كُلُّهَا دَالَّةٌ عَلَى أَنَّ الْخَالِقَ الْبَارِئَ فَوْقَ سَبْعِ سَمَاوَاتِهِ
ในบรรดาการบอกเล่า(หมายถึงหะดิษอัลเมียะรอจญ) คือหลักฐาน แสดงว่า แท้จริงนบี ศอ็ลฯ ถูกนำขึ้น จากดุนยา สู่ชั้นฟ้าที่เจ็ด และอัลลอฮ ตาอาลา ได้กำหนดละหมาดห้าเวลา ให้เป็นข้อบังคับ บนสิ่งที่มีมาในบรรดาคำบอกเล่า(หมายถึงหะดิษเมียะรอจญ์) และ บรรดาคำบอกเล่า(หะดิษ) ทั้งหมด แสดงบอกว่า พระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรค์ ผู้ทรงให้บังเกิด อยู่เหนือเจ็ดชั้นฟ้าของพระองค์ - กิตาบุตเตาฮีด หน้า 119
อิบนุคุซัยมะฮ ปราชญยุคสะลัฟ ยืนยันว่า หะดิษเมียะรอจญเป็นหลักฐานว่าอัลลอฮอยู่เหนือเจ็ดชั้นฟ้า
........
หลักฐานที่กล่าวมาทั้งหมด ก็พอเพียงแล้วที่จะยืนยันการอยู่เบื้องซูงของอัลลอฮ ด้วยตัวตนของพระองค์ ไม่ใช่แค่ความหมาย นามธรรมหรือฐานันดร อย่างที่อาชาอิเราะฮสายกาลามียะฮอ้าง
อิบนุคุซัยมะฮ ปราชญยุคสะลัฟ ยืนยันว่า หะดิษเมียะรอจญเป็นหลักฐานว่าอัลลอฮอยู่เหนือเจ็ดชั้นฟ้า
........
หลักฐานที่กล่าวมาทั้งหมด ก็พอเพียงแล้วที่จะยืนยันการอยู่เบื้องซูงของอัลลอฮ ด้วยตัวตนของพระองค์ ไม่ใช่แค่ความหมาย นามธรรมหรือฐานันดร อย่างที่อาชาอิเราะฮสายกาลามียะฮอ้าง
والله أعلم بالصواب
นายอะสัน หมัดอะดั้ม
21/12/60
นายอะสัน หมัดอะดั้ม
21/12/60
เอกสารอ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น