การทำน้ำซอฟัร (นิยายที่กลายเป็นศาสนา)

การทำน้ำซอฟัร (นิยายที่กลายเป็นศาสนา)

แกนนำอาชาอิเราะฮเจ้าเก่า บอกว่า

ถ้ากลุ่มวะฮฺฮาบี(คณะใหม่)ด่วนตัดสินการกระทำนี้ว่าตกศาสนา แน่นอน พวกวะฮฺฮาบีก็เท่ากับตัดสินกลุ่มชนที่ดีงามในยุคก่อนๆว่าตกศาสนาในทางอ้อมเช่นกัน ดังนั้น จงอย่าทำตัวเหมือนไปผ่าหัวใจของพี่น้องมุสลิมเหมือนรู้ว่าในใจของพี่น้องมุสลิมนั้นคิดเช่นไร ผมขอฝากไว้ด้วยนะครับ

@@@@

ชี้แจง

วะฮบีย์ท่านใด ช่างใจร้าย เหลือ ไปตัดสินเขาได้ไงว่าตกศาสนา เขาแค่ทำสิ่งที่ไม่มีในคำสอนอิสลาม ไม่มีในอัลกุรอ่านและไม่มีในอัสสุนนะฮเท่านั้น แต่...พึงระวังที่ส่งเสริมให้ทำ เพราะชาวบ้านคนอาวามที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ เรื่องอะกีดะฮ เอาไปกินโดยถือว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดื่มแล้วสามารถปกป้องจายความโชคร้าย และบาลาอฺต่างได้ มีความเชื่อว่า เดือนซอฟัร เป็นเดือนแห่งอัปมงคล ดังนั้น เพื่อขจัดมันไปให้พ้น และเพื่อชีวิตที่ปลอดภัย จึงรวบรวมอัลกุรอาน ที่มีคำว่า "อัสลาม السلام " ที่แปลว่า "ความสันติสุข ความปลอดภัย" เพื่อนำมาเขียนลงบนภาชนะต่างๆ แล้วนำภาชนะเหล่านั้นไปล้างน้ำ น้ำนั้นจะถูกเรียกว่า "น้ำซอฟัร" สรรพคุณคือ ใช้ดื่ม ใช้อาบ เพื่อขจัดอัปมงคลเภทภัย และเพื่อได้รับความจำเริญ ความเชื่อการกระทำสิ่งดังกล่าวถือว่าเป็นการเชื่อที่ผิด และเป็นการอุตริสิ่งใหม่ขึ้นมาในศาสนา โดยเชื่ออัลลอฮฺ จะประทานลงมาทุกปี ปีละ 320,000 ( สามแสนสองหมื่น ) บะลา ซึ้งทั้งหมดนี้ประทานลงมาในวันพุธสุดท้าย ของเดือนซอฟัร

เรื่องทำน้ำซอฟัรนี้เขาเอามาจากใหน ? ท่านรู้ไหม

คำตอบคือ เอามาจากตำราชื่อ

نهاية الزين في إرشاد المبتدئين

นิฮายะฮตุซซัยนฺ ฟีอิรชาดิลมุบตะดิอีน เขียนโดย ปราชญมาลายู ชื่อ

محمد نووي الجاوي البنتني‎

(มุหัมหมัด นะวะวีย์ อัลญาวีย์ อัลบันตานีย์ ฮ.ศ 1316 )

หน้า 67 มีข้อความว่า

ونقل بعض الفضلاء انه ورد انّ البلايا المقدرة فى السنة تنقل من اللوح المخفوظ الى السماء الدنيا فى ليلة اخر اربعاء من شهر صفر وانّ من كتب هذه الايات السبع فى اناء ومحا هن بماء وشربه لم يصيبه شيئ من تلك البلايا, وهى : سلام قولا من رب رحيم , سلام على نوح فى العالمين , سلام على ابراهيم , سلام على موسى وهارون سلام على ال ياسين , سلام عليكم طبتم فادخلوها خالدين , سلام هى حتى مطلع الفجر . وهى سبع سلامات.

และส่วนหนึ่งของบรรดาผู้ที่มีความประเสริฐ(ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียง) ได้รายงานว่า แท้จริงบรรดาบาลาอฺที่ถูกกำหนดไว้ในหนึ่งปี จะลงมาจากเลาหุลมะหฟุซ สู่ฟากฟ้าดุนยา ในคืนวันพุธสุดท้าย ของเดือนซอฟัร และแท้จริงผู้ใดเขียนเจ็ดอายะฮเล่านี้ในภาชนะ และลบมันด้วยน้ำและดื่มมัน ก็จะไม่มีสิ่งใดจากบรรดาบาลาอฺดังกล่าวนั้นประสบกับเขา คือ อายะฮที่ว่า

سَلَامٌ قَوْلًا مِّن رَّبٍّ رَّحِيمٍ ) 
“ความศานติ!” พระดำรัสหนึ่งจากพระเจ้าผู้ทรงเมตตาเสมอ-ยาสีน /58
سلام على نوح فى العالمين
ศานติจงมีแด่นูฮ์ในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย (อัซซอฟฟาต 79-80)
, سلام على ابراهيم
ขอศานติจงมีแด่อิบรอ-(อัซซอฟฟาต 109)
سلام على موسى وهارون 
“ศานติจงมีแด่มูซาและฮารูน ,“
سلام على ال ياسين

ศานติจงมีแด่วงศ์วานของยาซีน -(อัซซอฟฟาต 120-121)

, سلام عليكم طبتم فادخلوها خالدين

ศานติจงมีแด่พวกท่าน พวกท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น จงเข้าไปในสวรรค์เป็นผู้พำนักอยู่ตลอดกาล”(อัซซุมัร 73)

سلام هى حتى مطلع الفجر

ศานติมีในคืนนั้นจนกระทั่งรุ่งอรุณ”(อัลก็อดรฺ 5)
มันคือ 7 อายาตสะละมาต(อายาตแห่งความศานติ)
–ดู เชิงอรรถในหนังสือ นิฮายะฮตุซซัยนฺ ฟีอิรชาดิลมุบตะดิอีน หน้า 67 –สำนักพิมพ์ ดารุลกุตุบอัลอิลมียะฮ ปี ฮ.ศ 1422 ,ค.ศ 2002 ซึ่งอธิบายโดยผู้ตรวจทาน(ตะหกีก) ชื่อ อับดุลลอฮ มะหมูด มุหัมหมัดอุมัร 
............
หมายเหตุ คำว่า คำว่า “ สลาม سَلاَمٌ ” แปลว่า “ศานติ,ความปลอดภัย,
................
จากหลักฐานที่มีการอ้างทำน้ำซอฟัร ป้องกันบาลาอฺหรือเภทภัยต่างๆ ด้วยอายาตสะลามทั้ง 7นั้น ผู้อ้างไม่ได้อ้างหะดิษบทใดเลย แค่อ้างว่ามีบางส่วนของผู้ที่มีความประเสริฐ ได้รายงาน โดยไม่มีสายรายงานและไม่ระบุว่าใครเป็นคนพูด นี่คือตัวอย่างของการเขียนนิยายให้กลายเป็นคำสอนศาสนาแล้วนำมาสอนคนอาวามให้งมงายกับความเชื่อเหลวไหลนี้ พิจารณากันเถิดพี่น้อง ศาสนาไม่ใช่คำสอนที่มนุษย์ผูกเรื่องขึ้นมาเองนะครับ

والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
17/11/60

เอกสารเพิ่มเติม