
ตรรกคนทำเมาลิด(เอาหลักฐานถือศีลอดวันอชูรอมาเป็นหลักฐานการทำเมาลิด)
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม
หลังจากที่ เขาได้ออกฟัตวาเช่นนี้ เขาได้ ยืนยันทัศนะของตน ด้วยการยึดฮาดิษศอฮิฮ นี้
قال : وقد ظهر لي تخريجها على أصل ثابت وهو ما ثبت في الصحيحين من أن النبي صلى الله عليه وسلّم قدم المدينة فوجد اليهود يصومون يوم عاشوراء فسألهم فقالوا هو يوم أغرق الله فيه فرعون ونجى موسى فنحن نصومه شكراً لله تعالى.
فيستفاد منه فعل الشكر لله على ما من به في يوم معين من إسداء نعمة أو دفع نقمة ، ويعاد ذلك في نظير ذلك اليوم من كل سنة ، والشكر لله يحصل بأنواع العبادة كالسجود والصيام والصدقة والتلاوة ، وأي نعمة أعظم من النعمة ببروز هذا النبي نبي الرحمة في ذلك اليوم ، وعلى هذا فينبغي أن يتحرى اليوم بعينه حتى يطابق قصة موسى في يوم عاشوراء ، ...
وأما ما يعمل فيه فينبغي أن يقتصر فيه على ما يفهم الشكر لله تعالى من نحو ما تقدم ذكره من التلاوة والإطعام والصدقة وإنشاد شيء من المدائح النبوية والزهدية المحركة للقلوب إلى فعل الخير والعمل للآخرة
وأما ما يعمل فيه فينبغي أن يقتصر فيه على ما يفهم الشكر لله تعالى من نحو ما تقدم ذكره من التلاوة والإطعام والصدقة وإنشاد شيء من المدائح النبوية والزهدية المحركة للقلوب إلى فعل الخير والعمل للآخرة
เป็นที่กระจ่างสำหรับฉันว่า การจัดงาน มีหลักการที่มั่นคงอยู่ ซึ่ง มันถูกบันทึกในศอฮิฮทั้งสอง จากท่านนบี (ศ) ได้ย่างก้ายสู่มะดีนะฮ์ และท่านได้พบว่า มียาฮูดีย์ กลุ่มหนึ่ง ได้ถือศีลอดนวันอาชูรอ ท่าน(ศ) จึงถามพวกเขาถึงสาเหตุ พวกเขาตอบว่า เพราะวันนี้ คือ วันที่ พระองค์อัลลอฮ ได้ทำให้ฟิรอูนจมน้ำ และได้ช่วยเหลือมูซา ดังนั้น เราจึงถือศีลอด เพื่อทำการชูกูรต่ออัลลอฮ ตะอาลา”
อิบนุฮะญัร กล่าวต่อว่า ฮาดิษนี้ ให้ประโยชน์พิสูจน์ว่า ในวันที่พระองค์ได้กำหนดไว้อย่างเฉพาะ (เหตุการณ์ต่างๆ) เฉกเช่น การประทานเนียะมัต หรือ การขจัดภัยอันตราย คือ สิ่งจำเป็น ,และการชูโกรต่อเนียะมัต ของอัลลอฮ ในวันเฉพาะ ในทุกปี ครอบคลุม ประเภทต่างๆของการอิบาดัต เช่น การ ซูญูด ,การถือศีลอด, การศอดาเกาะฮ์ , การอ่านอัลกุรอ่าน เช่นเดียวกัน และจะมีเนียะมัตใด ทิ่ยิ่งใหญ่ไปกว่า เนียะมัต ของ รอซูลุลอฮ ในวันนั้น? และบนหลักการนี้ จึงสมควรที่ จะทำการชูกูร ในวันนั้น ซึ่งมันได้สอดคล้องกับ เรื่องราวของมูซา ในวันอาชูรอ
อิบนุฮะญัร กล่าวต่อว่า ฮาดิษนี้ ให้ประโยชน์พิสูจน์ว่า ในวันที่พระองค์ได้กำหนดไว้อย่างเฉพาะ (เหตุการณ์ต่างๆ) เฉกเช่น การประทานเนียะมัต หรือ การขจัดภัยอันตราย คือ สิ่งจำเป็น ,และการชูโกรต่อเนียะมัต ของอัลลอฮ ในวันเฉพาะ ในทุกปี ครอบคลุม ประเภทต่างๆของการอิบาดัต เช่น การ ซูญูด ,การถือศีลอด, การศอดาเกาะฮ์ , การอ่านอัลกุรอ่าน เช่นเดียวกัน และจะมีเนียะมัตใด ทิ่ยิ่งใหญ่ไปกว่า เนียะมัต ของ รอซูลุลอฮ ในวันนั้น? และบนหลักการนี้ จึงสมควรที่ จะทำการชูกูร ในวันนั้น ซึ่งมันได้สอดคล้องกับ เรื่องราวของมูซา ในวันอาชูรอ
@@@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นคือตรรกของคนทำบิดอะฮ ที่เอาเรื่อง การถือศีลอดวันอาชูรอ มาหมกเม็ดบิดเบือนว่าเป็นหลักฐานอนุญาตให้ทำเมาลิด นี่คือการบิดเบือนอัสสุนนะฮของอะฮลุลบิดอะฮนายตาชั่ง หรือนายฮัมดีสุหลงและคณะที่รวมหัวกัน คำสาบานไม่มีประโยชน์กับพวกนี้อีกต่อไป
อ้างหะดิษส่งเสริมให้ถือศีลอดวันอาชูรอ มาเป็นหลักฐานส่งเสริมการทำเมาลิดนบี จึงถามว่า "ถ้ามีหลักฐานจริง และถ้านี้คือหลักฐานเมาลิดนบี ทำไมอิหม่ามสะยูฏีย์จึงบอกว่า เป็นบิดอะฮที่ดี ทำไมไม่พูดว่า "เป็นสุนนะฮที่ดี
มาดูคำพูดอิหม่ามสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ได้อ้างถึงคำพูดอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ก่อนหน้าการให้ทัศนะที่นายตาชั่งอ้างข้างต้นคือ
มาดูคำพูดอิหม่ามสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ได้อ้างถึงคำพูดอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ก่อนหน้าการให้ทัศนะที่นายตาชั่งอ้างข้างต้นคือ
أَصْلُ عَمَلِ الْمَوْلِدِ بِدْعَةٌ لَمْ تُنْقَلْ عَنْ أَحَدٍ مِنَ السَّلَفِ الصَّالِحِ مِنَ الْقُرُونِ الثَّلَاثَةِ ، وَلَكِنَّهَا مَعَ ذَلِكَ قَدِ اشْتَمَلَتْ عَلَى مَحَاسِنَ وَضِدِّهَا ، فَمَنْ تَحَرَّى فِي عَمَلِهَا الْمَحَاسِنَ وَتَجَنَّبَ ضِدَّهَا كَانَ بِدْعَةً حَسَنَةً وَإِلَّا فَلَا ،
รากฐานของการทำเมาลิด เป็นบิดอะฮ์ ที่ไม่มีรายงานจากสะลัฟ ผู้ทรงธรรม คนหนึ่งคนใด จาก ศตวรรษ์ที่สาม แต่อย่างไรก็ตาม มันครอบคลุมทั้งสิ่งที่ดี และที่ตรงข้ามกัน ดังนั้น หากใคร กระทำในสิ่งที่ดี และหลีกเลี่ยง สิ่งที่ตรงข้าม อามั้ลของเขา คือ บิดอะฮ์ฮาซานะฮ์ หากไม่ใช่เช่นนี้ ก็ไม่ถือเป็นบิดอะฮ์ฮาซานะฮ์-“อัล-หาวีย์ ลิ้ล ฟะตาวีย” เล่มที่ 1 หน้า 292
..........
ข้างต้นอิหม่ามสะยูฏีย์ ระบุว่า รายงานจากคำพูดอิบนุหะญัร ว่า การทำเมาลิดเป็นบิดอะฮ ที่บรรดาสะลัฟผู้ทรงธรรม ในยุคศตวรรษที่ประเสริฐ ไม่ได้ทำ จึงเกิดความสับสนว่า อิบนุหะญัรสนับสนุนเมาลิดนบีจริงหรือ มาดูคำพูดอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์เรื่อง บิดอะฮในศาสนา ดังนี้
..........
ข้างต้นอิหม่ามสะยูฏีย์ ระบุว่า รายงานจากคำพูดอิบนุหะญัร ว่า การทำเมาลิดเป็นบิดอะฮ ที่บรรดาสะลัฟผู้ทรงธรรม ในยุคศตวรรษที่ประเสริฐ ไม่ได้ทำ จึงเกิดความสับสนว่า อิบนุหะญัรสนับสนุนเมาลิดนบีจริงหรือ มาดูคำพูดอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์เรื่อง บิดอะฮในศาสนา ดังนี้
ท่านอิบนุ หะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวในหนังสือ “ฟัตหุ้ลบารีย์” เล่มที่ 17 หน้า 135 กิตาบอัลเอียะติศอม ว่า ..
فَالْبِدْعَةُ فِىْ عُرْفِ الشَّرْعِ مَذْمُوْمَةٌ ! بِخِلاَفِ اللُّغَةِ فَإِنَّ كُلَّ شَىْءٍ أُحْدِثَ عَلَى غَيْرِ مِثَالٍ سَابِقٍ يُسَمَّى بِدْعَةً، سَوَاءٌ كَانَ مَحْمُوْدًا أَوْ مَذْمُوْمًا ...
“ดังนั้น ความหมายของบิดอะฮ์ตามบทบัญญัติ (ทั้งหมด) จึงเป็นสิ่งที่ถูกประณาม, ต่างกับความหมายบิดอะฮ์ตามหลักภาษา, .. เพราะทุกๆสิ่งที่ถูกริเริ่มขึ้นมาโดยไม่มีแบบอย่างมาก่อน จะถูกเรียกว่า บิดอะฮ์ (ตามหลักภาษา) ทั้งสิ้น ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องเลว”...
.........
คำอธิบายนี้ ชัดเจนจนแทบจะไม่ต้องขยายความใดๆเพิ่มเติมอีกแล้ว .. เมื่อการทำเมาลิดนบี มีการอ้างว่าเป็นอิบาดะฮ ตกลงว่า บิดอะฮในอิบาดะฮ ซึ่งหมายถึงบิดอะฮในทางศาสนบัญญัติ เป็นสิ่งที่ถูกประนาม ถูกตำหนิ แล้วท่านอิบนุหะญัรจะส่งเสริมการทำเมาลิดนบีได้อย่างไร
.........
คำอธิบายนี้ ชัดเจนจนแทบจะไม่ต้องขยายความใดๆเพิ่มเติมอีกแล้ว .. เมื่อการทำเมาลิดนบี มีการอ้างว่าเป็นอิบาดะฮ ตกลงว่า บิดอะฮในอิบาดะฮ ซึ่งหมายถึงบิดอะฮในทางศาสนบัญญัติ เป็นสิ่งที่ถูกประนาม ถูกตำหนิ แล้วท่านอิบนุหะญัรจะส่งเสริมการทำเมาลิดนบีได้อย่างไร
อนึ่ง การอ้างหลักฐานจากหะดิษ แต่บอกว่าเป็นบิดอะฮ มันก็ขัดกันเองอยู่แล้ว เพราะถ้ามีหลักฐาน ใครเขาจะเรียกบิดอะฮ นอกจากคนโง่เขลาเบาปัญญาเท่านนั้นครับนายฮัมดี สุหลง การตักลิดแบบหูหนวกตาบอดนี้อันตรายแค่ใหน ผู้อ่านจงพิจารณา ผมไม่ตำหนินักปราชญ ในสิ่งที่เขาอิจญติฮาด แต่ตำหนิพวกปิดตาตาม
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
21/11/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
21/11/60
เอกสารเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น