วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หะดิษอาหาดใช้เป็นหลักฐานในเรื่องอะกีดะฮไม่ได้จริงหรือ






หะดิษอาหาดใช้เป็นหลักฐานในเรื่องอะกีดะฮไม่ได้จริงหรือ
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม กล่าวว่า
แล้วนายอานัสมั่นใจได้ไงว่า คำพูดคำว่า อัยนา เป็นคำพูดของท่านนบีครับ..Anas Samaae ในเมื่อฮาดิษญารียะห์มีสำนวนอื่นที่รายงานต่างกันหลายบท ที่ไม่สามารถรวมกันได้... อีกอย่างฮาดิษนี้เป็นคอบัรอาฮาด
……………..
@@@@@
ชี้แจง
พอท่าน ฮัมดี สุหลง พูดคำที่ป็นข้อความ ถามคุณอานัส สาแม ข้างต้น บรรดาขาเชียร์กดไลท์กันใหญ่ แถมโพสต์รูปหัวใจให้ด้วย
จึงเห็นว่าประเด็นนี้ต้องชี้แจง เพื่อไม่ให้ผู้อ่านที่มีสติปัญญาแสวงหาความจริงเข้าใจสับสน กับคำพูดของท่านมุหัดดิษ ฮัมดี สุหลง
ซึ่งเป็นอีกคนที่ผมรักอยากที่จะให้เข้าใจ เพราะเห็นว่า แก่มีความเป็นธรรมกับผมอยู่บ้างเล็กน้อย จึงขอชี้แจงดังนี้
หะดิษอาหาดในทางภาษาคือ
الآحاد جمع أحد بمعنى الواحد ،وخبر الواحد هو ما يرويه شخص واحد
อัลอาหาด เป็นพหุพจน์ของคำว่า อะหัด ด้วยความหมายว่า วาหิด (คนเดียว) และเคาะบัรอะหาดคือ สิ่งที่ บุคคลเพียงคนเดียวรายงาน
ส่วนความหมายในทางศาสนา คือ
الحديث الذي لم يجمع شروطا لمتواتر.
หะดิษที่ไม่ได้รวมบรรดาเงื่อนไข ของหะดิษมุตาวาตีร
กล่าวคือ หะดีษอาหาด آحاد คือหะดีษที่ไม่ถึงระดับมุตะวาติรนั้นเอง
ขอเรียนว่า หะดิษหรือเคาะบัรอาหาด หากเศาะเฮียะ ก็สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในทางศาสนา ไม่ว่า ในเรื่องอะกีดะฮหรือเรื่องอิบาดะฮเพราะมันคือคำสอนศาสนาเหมือนกัน
อิบนุกอ็ยยิม กล่าวว่า
ومعلوم مشهور استدلال أهل السنة بالأحاديث ورجوعهم إليها، فهذا إجماع منهم على القبول بأخبار الآحاد، وكذلك أجمع أهل الإسلام متقدموهم ومتأخروهم على رواية الأحاديث في صفات الله تعالى ومسائل القدر والرؤية وأصول الإيمان
และเป็นที่รู้กันแพร่หลายว่า อะฮลุสสุนนะฮ อ้างหลักฐานด้วยบรรดาหะดิษ และพวกเขากลับไปยังมัน ดังนั้นนี้คือ มติเอกฉันท์จากพวกเขา บนการรับรองเคาะบัรอะหาด (การบอกเล่าของคนๆเดียวหรือหะดิษไม่อยู่ในระดับมุตะวาตีร) และในทำนองเดียวกันนั้นชาวอิสลาม ยุคก่อนและยุคหลัง ของพวกเขา มีมติบนรายงานบรรดาหะดิษ ในเรื่องบรรดาสิฟาตอัลลอฮ ตาอาลา ,บรรดาประเด็นเรื่องอัลเกาะดัร ,เรื่องการเห็นอัลลอฮ และบรรดาหลักการศรัทธา....ดูมุคตะศอรอัศเศาะวาอิกอัลมุระละฮ 1/332
อิบนุอับดุลบัร ขออัลลอฮเมตตาต่อท่านกล่าวว่า
وكلهم يرون خبر الواحد العدل في الاعتقادات، ويعادي ويوالي عليها، ويجعلها شرعاً وحكماً وديناً في معتقده، على ذلك جماعة أهل السنة
พวกเขาทั้งหมด รายงานคำบอกเล่าของคนๆเดียว(หมายถึงหะดิษอะหาด) ที่อาดิล(ที่มีคุณธรรม) ในเรืองอะกีดะฮ และเป็นปฏิปักษ์และเป็นมิตรกันบนมัน (บนคำบอกเล่าของคนๆเดียวที่อาดิล(มีคุณธรรม) และได้กำหนดมัน ให้เป็นศาสนบัญญัติ ,เป็นหุกุมและ เป็นศาสนา ในอะกีดะฮของเขา บนดังกล่าวนั้น คือทัศนะของญะมาอะฮอะฮลุสสุนนะฮ – อัตตัมฮีด เล่ม 1 หน้า 8
........
อิบนุอับดุลบีร ระบุว่า ทัศนะของนักวิชาการคณะหนึ่งที่เป็นชาวอะฮลุสสุนนะฮ นำหะดิษอาหาดที่เศาะเฮียะมาใช้เป็นหลักฐานในเรื่อง อะกีดะฮและเรื่อง หุกุม ศาสนา
อิบนุดะฮียะฮ กล่าวว่า
وعلى قبول خبر الواحد الصحابة والتابعون وفقهاء المسلمين وجماعة أهل السنة، يؤمنون بخبر الواحد ويدينون به في الاعتقاد"
และบนการรับรองเคาะบัรวาฮิด(คำบอกเล่าของคนๆเดียว)นั้น, บรรดาเศาะหาบะฮ,บรรดาตาบิอีน, บรรดานักวิชาการฟิกฮของบรรดามุสลิม และคณะหนึ่งจากอะฮลิสสุนนะฮ และพวกเขาเชื่อด้วยคำบอกเล่าของคนๆเดียว และพวกเขายึดถือศาสนาด้วยมันในเรื่องหลักศรัทธา- อัลอิบติฮาจญ ฟี อะหาดิษ มินฮาจญ หน้า 78
เพราะฉะนั้นการอ้างว่าหะดิษอาหาดมาอ้างเป็นหลักฐานไม่ได้เป็นคำพูดที่ไร้น้ำหนัก เพราะแม้แต่อิหม่ามชาฟิอีและอิหม่ามบุคอรีก็ยังอนุญาตให้ใช้หะดิษเป็นหลักฐาน โดยไม่ได้แยกว่า เรื่องอะกีดะฮหรือเรื่องอิบาดะฮแต่อย่างใด ดู อัรริสาละฮ หน้า 457 และฟัตหุ้ลบารีย เล่ม 13 หน้า 233
.........................
จึงไม่ทราบว่า ท่านมุหัษดิษ ฮัมดี สุหลง ท่านใช้อะไรเป็นมาตรฐานว่า ถ้าหะดิษอาหาดใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ ถึงขนาด ไม่ยอมรับหะดิษญารียะฮ
อีกข้ออ้างหนึ่ง ท่านมุหัษดิษ ฮัมดี สุหลง บอกว่า สำนวนอื่นที่รายงานต่างกันหลายบท ที่ไม่สามารถรวมกันได้
........................
ขอตอบว่า นั้นคือตรรกของพวกญะฮมียะฮเช่น หะซัน อาลีย์ อัสสักกอฟ เพราะหะดิษญารียะฮ ที่นางกล่าวว่า อัลลอฮอยู่บนฟ้า เป็นหะดิษเศาะเฮียะ แม้แต่อิหม่ามชาฟิอีก็นำเป็นหลักฐาน และปราชญ์คนสำคัญในมัซฮับชาฟิอี คือ อัลหาฟิซ อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ก็ยืนยันว่า เศาะเฮียะ
อิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์กล่าวว่า
قِصَّةِ الْجَارِيَةِ الَّتِي سَأَلَهَا النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنْتِ مُؤْمِنَةٌ؟ قَالَتْ نَعَمْ ، قَالَ فَأَيْنَ اللَّهُ ؟ قَالَتْ فِي السَّمَاءِ ، فَقَالَ أَعْتِقْهَا فَإِنَّهَا مُؤْمِنَةٌ ، وَهُوَ حَدِيثٌ صَحِيحٌ أَخْرَجَهُ مُسْلِمٌ
เรื่องราวของทาสหญิง ที่นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ถามนางว่า เธอเป็นผู้ศรัทธาใช่ไหม ? นางกล่าวว่า “ค่ะ ,ท่านนบีถามว่า “อัลลอฮอยู่ใหน?นางตอบว่า อยู่บนฟากฟ้า ,แล้วท่านนบีกล่าวว่า “จงปล่อยนางให้เป็นอิสระ เพราะแท้จริงนาง เป็นผู้ศรัทธา ,โดยที่มันเป็นหะดิษเศาะเฮียะ บันทึกโดย มุสลิม – ดูฟัตหุลบารีย์ เล่ม ๑๓ หน้า ๓๕๙
.......................
หาฟิซอิบนุหะญัร ซึ่งอะชาอีเราะฮอ้างว่า เป็นอะชาอีเราะฮ ยอมรับหะดิษนี้ แต่ อะชาอีเราะฮในเว็บสะติวเด้นบอกว่า เฎาะอีฟ แล้วนำเสนอหะดิษ อีกบทหนึ่งซึ่งเฏาะอีฟ มาค้าน
………………………
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
23/8/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น