วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ชี้แจงกรณีวาทกรรมกล่าวหาว่าทำ 11 รอ็กอัตไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนบี






ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ




ชี้แจงกรณีวาทกรรมกล่าวหาว่าทำ 11 รอ็กอัตไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนบี
ปู่ หิน
3 มิถุนายน เวลา 17:58 น.
โพสนี้สำหรับมุสลิมที่ยอมรับคำสั่งของท่านนบี(ซล)
เมื่อแน่ชัดแล้วว่าตั้งแต่ยุค
سيدناعمر رضى الله عنه
ได้ทำการละหมาดตารอแวะห์ยามาอะห์20+3รอกาอัต
คนที่ทำการละหมาด20+3รอกาอัตนั้นตามท่านนบี(ซล)แน่นอนทั้งตามหะดิษที่ท่านกระทำและตามหะดิษที่ท่านใช้ให้ตามบรรดาคอลีฟะห์ของท่าน
ส่วนคนที่ละหมาด8+3รอกาอัตนั้นถ้าท่านชอบแค่นั้นก็กระทำไปแต่จงสำนึกไว้เสมอว่าท่านไม่ได้ทำตามคำสั่งของท่านนบี(ซล)ที่ใช้ให้ตามคอลีฟะห์ของท่าน
และเป็นการสมควรแล้วหรือที่จะทอดทิ้งส่วนของคำสั่งนี้
จงตรึกตรอง
@@@@@
การคิดจะเอาชนะบนความเท็จ มันเป็นสิ่งน่ากลัว สร้างเรื่อง เท็จและอุปโลกน์วาทกรรมเท็จโษณาชวนเชื่อทำลายคนที่เห็นต่าง โดยการนั่งเทียนเขียน โดยปราศจากหลักฐาน
เท่าที่อ่านมาบรรดาปราชญมุสลิม ที่ทรงธรรม ไม่มีใครบอกว่า คนทำละหมาดสุนัตกิยามเราะมะฎอน 11 รอ็กอัตรวมทั้งวิตร คือผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาสุนนะฮนะฮนบี แล้วความคิดนี้มาจากส่วนใหนของร่างกาย ส่วนใต้หรือส่วนบน มาจากความอิคลาศในศาสนาหรือมาจากอิทธิพลแห่งอคติฝังหุ่นที่อยู่ในหัวใจคน จึงมีวาทกรรมว่า ทำ 11 รอกอัตไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนบี
หลังจากที่ได้ รายงานคำพูดของบรรดานักปราชญ์ที่วิจารณ์ รายงาน จำนวน 20 รอ็กอัต ,อัศศอ็อนอานีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
إذا عرفت هذا علمت أنه ليس في العشرين رواية مرفوعة بل يأتي حديث عائشة المتفق عليه قريبا أنه صلى الله عليه وسلم ما كان يزيد في رمضان ولا غيره على إحدى عشرة ركعة فعرفت من هذا كله أن صلاة التراويح على هذا الأسلوب الذي اتفق عليه الأكثر بدعة )
เมื่อท่านได้รู้จักสิ่งนี้ ท่านก็จะได้รู้ว่า ใน 20 (รอ็กอัต)นั้นไม่มีรายงานใดสืบไปถึงท่านนบี(มัรฟัวะ) ยิ่งไปกว่านั้น หะดิษอาอีฉะฮ ที่มุตตะฟักอะลัยฮ(หมายถึงบรรทึกโดยบุคอรีและมุสลิม) จะมีมา(จะนำเสนอ)ในเวลาอันใกล้นี้ ว่า "แท้จริงท่านรอซูล ศอ็ลฯ ไม่เคยละหมาดในเดือนเราะมะฎอนและอื่นจากเดือนเราะมะฎอน เกิน 11 รอ็กอัต ท่านก็จะได้รู้จากทั้งหมดของมันว่า แท้จริง การละหมาดตารอเวียะ บนวิธีการนี้ที่คนส่วนมาก เห็นฟ้องบนมันนั้น คือบิดอะฮ ...ดู สุบุลุสสลาม ชัรหบุลูฆิลมุมะรอม เล่ม 2 หน้า 27 


 ในภาพอาจจะมี ข้อความ


 
..........
ข้างต้น อัศศอ็นอานีย์ ระบุว่า ละหมาด ตารอเวียะ 20 รอ็กอัต ไม่มีหะดิษที่สืบไปถึงหนยี(หะดิษมัรฟัวะ) ยิ่งไปกว่านั้น มีหะดิษบันทึกโดยอิหม่ามบุคอรรีและมุสลิม ว่า ท่านนบี ศอ็ลฯไม่เคยละหมาดในเดือนเราะมะฎอนและเดือนอื่นๆ เกิน 11 รอ็กอัต และได้กล่าวว่าวิธีการที่คนส่วนมากเห็นฟ้อง(หมายถึง 20รอ็อกอัต)นั้นคือบิดอะฮ.. 
ขอเรียนว่า นี่คือทัศนะอัศศอ็นอานีย์ ซึ่งก็เป็นทัศนะปราชญท่านหนึ่ง แต่ที่ผู้เขียนต้องการ จะสือให้ผู้อ่านทราบคือ "ละหมาด 11 รอ็กอัตเกี่ยวข้องกับเรื่องละหมาดตารอเวียะ และเป็นสุนนะฮของท่านนบี ศอ็ลฯ
ในทำนองเดียวกัน ส่วนหนึ่งจากนักวิชาการที่ยืนยันว่านบีศอ็ลฯละหมาด 11 รอ็กอัตคือ
1. อิหม่ามกะมาลุดดีน บิน ฮุมาม อัลหะนะฟีย์ กล่าวว่า
فَتَحْصُلُ مِنْ هَذَا كُلِّهِ أَنَّ قِيَامَ رَمَضَانَ سُنَّةٌ إحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً بِالْوِتْرِ فِي جَمَاعَةٍ فَعَلَهُ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ثُمَّ تَرَكَهُ لِعُذْرٍ ، أَفَادَ أَنَّهُ لَوْلَا خَشْيَةَ ذَلِكَ لَوَاظَبْت بِكُمْ ، وَلَا شَكَّ فِي تَحَقُّقِ الْأَمْنِ مِنْ ذَلِكَ بِوَفَاتِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَيَكُونُ سُنَّةً ،
สรุปจากนี้ทั้งหมดของมันว่า แท้จริง การละหมาดกิยามเราะมะฎอน นั้น คือ 11 รอ็กอัต พร้อมกับละหมาดวิตร ในรูปแบบญะมาอะฮ ท่านรอซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ได้ปฏิบัติมัน ต่อมาท่านได้ละทิ้ง มัน เพราะมีอุปสรรค(คือกลัวว่าจะถูกกำหนดให้เป็นฟัรดู) ,มีความหมายว่า ถ้าไม่กลัวดังกล่าวนั้น แน่นอนฉัน(หมายถึงท่านนบี) ก็จะปฏิบัติกับพวกท่าน และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในการยืนยันถึงความปลอดภัยจากดังกล่าวนั้น ด้วยการเสียชีวิตของท่านนบี ศอ็ลฯ มัน(ละหมาดตารอเวียะในรูปแแบญะมาอะฮ)จึงเป็นสุนนะฮ .. -ฟัตหุลเกาะดีร 1/486
.....
อินุฮุมามยืนยันว่า ละหมายกิยามุเราะมะฎอนที่นบีปฏิบัตินั้น 11 รอ็กอัต
2.อิบนุลอะเราะบีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
وَالصَّحِيْحُ : أَنْ يُصَلَّى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً، صَلاَةُ النَّبِىِّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ وَقِيَامُهُ، فَأَمَّا غَيْرُذَلِكَ مِنَ اْلأَعْدَادِ فَلاَ أَصْلَ لَهُ وَلاَ حَدَّ فِيْهِ، فَإِذَا لَمْ يَكُنْ بُدَّ مِنَ الْحَدِّ فَمَا كَانَ النَّبِىُّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ يُصَلِّىْ، مَا زَادَ النَّبِىُّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ فِىْ رَمَضَانَ وَلاَ فِىْ غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً، وَهَذِهِ الصَّلاَةُ هِىَ قِيَامُ اللَّيْلِ، فَوَجَبَ أَنْ يُقْتَدَى فِيْهَا بِالنَّبِىِّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ ...
“ที่ถูกต้องนั้น ให้ทำนมาซ(ในเดือนรอมะฎอน) 11 ร็อกอะฮ์, ซึ่งเป็นนมาซของท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม, อนึ่งจำนวน(ร็อกอะฮ์)ที่อื่นจากนี้ ถือเป็นสิ่งที่ไม่มีพื้นฐานใดๆและไม่มีการกำหนดใดๆในเรื่องนี้ เพราะหากจำเป็นจะต้องมีการกำหนดกันแล้วก็ต้องยึดถือการนมาซของท่านนบีย์เป็นหลัก (นั่นคือ) ท่านนบีย์จะไม่เคยนมาซ – ไม่ว่าในเดือนรอมะฎอนหรือมิใช่รอมะฎอน -- เกินกว่า 11 ร็อกอะฮ์, และนมาซนี้คือนมาซในยามค่ำคืน ดังนั้นจึง “วาญิบ” จะต้องปฏิบัติตามในเรื่องนี้ต่อท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม” ... - อาริเฎาะตุลอะหวะซีย์ เล่ม 4 หน้า 19
รายงานจากอัสสาอิบ บุตร ยะซีดกล่าวว่า
ن السائب بن يزيد أنه قال : ((أَمَرَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ أُبَيَّ بْنَ كَعْبٍ وَتَمِيم الدَّارِيَّ أَنْ يَقُومَا لِلنَّاسِ بِإِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً قال : وقد كَانَ الْقَارِئُ يَقْرَأُ بِالْمِئِينَ ، حَتَّى كُنَّا نَعْتَمِدُ عَلَى الْعِصِيِّ مِنْ طُولِ الْقِيَامِ ، وَمَا كُنَّا نَنْصَرِفُ إِلاَّ فِي فُرُوعِ الْفَجْرِ)
ท่านอุมัร บุตร อัลคอฏฏอ็บ (ร.ฎ) ได้สั่งให้อุบัย บุตร กะอับ และตะมีม อัดดารีย์ (ขออัลลอฮโปรดประทานความโปรดปราณต่อท่านทั้งสอง) ให้ท่านทั้งสองละหมาดนำผู้คน จำนวน 11 รอกะอัต, ท่านสาอิบกล่าวว่า “ แท้จริงปรากฏว่าผู้อ่าน(อิหม่าม)อ่านสองร้อยๆอายะฮ จนกระทั้งเราต้องพิงไม้เท้ากัน (เวลายืนละหมาด)เนื่องจาก ยืนนานๆ และปรากฏพวกเรายังละหมาดไม่เสร็จ จนกระทั้ง ใกล้ถึงเวลาละหมาดฟัจญริ - อัลมุวัฏฏอ บทที่ 6 บาบที่ 2 และ เศาะลาตุตตะรอเวียะ ของอัลบานีย์ หน้า 45
ท่านอบุลวะลิด อัลบาญีย์ (ร.ฮ) กล่าวว่า
لَعَلَّ عُمَرَ إنَّمَا امْتَثَلَ فِي ذَلِكَ صَلَاةَ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم مِنْ اللَّيْلِ عَلَى مَا رَوَتْهُ عَائِشَةُ أَنَّهُ كَانَ يُصَلِّي مِنْ اللَّيْلِ إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً
บางที่ ในดังกล่าวนั้น ท่านอุมัร ได้เลียนแบบละหมาดของท่านนบี ศอ็ลฯ ในยามคำคืน ตามสิ่งที่ท่านหญิงอาอีฉะฮได้รายงานมัน ว่า แท้จริง ปรากฏว่าท่านนบี ได้ละหมาดในยามค่ำคืน 11 รอ็กอัต - ดู อันมุนตะกอ 1/265
.........
เพราะฉะนั้น ใครจะทำเท่าไหร่ก็เป็นเรื่องของคนทำ เราไม่ขัดข้อง แต่ สิ่งที่นบี ศอ็ลฯทำคือ จำนวน 11 รอ็กอัต และ 11 รอ็กอัตก็มี รายงานที่เป็นคำสั่งท่านเคาะลิฟะฮอมัร (ร.ฎ) เช่นกันคือ
ท่านอิหม่ามมาลิก ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-มุวัฎเฎาะอ์” เล่มที่ 1 หน้า 105 หรือหะดีษที่ 249, โดยรายงานมาจากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ ซึ่งรายงานมาจากน้าชายของท่านคือท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ.ว่า ...
أَمَرَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ أُبَّىَ بْنَ كَعْبٍ وَتَمِيمًا الدَّارِىَّ أَنْ يَقُوْمَا لِلنَّاسِ بِإِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً
“ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบได้ใช้ท่านอุบัยย์ บินกะอฺบ์ และท่านตะมีม อัด-ดารีย์ให้ทั้งสองนำนมาซ (ตะรอเวี๊ยะห์)แก่ประชาชน 11 ร็อกอะฮ์” ...
ท่านอิบนุอบีย์ชัยบะฮ์ได้บันทึกหะดีษ โดยสืบสายรายงานไปถึงท่านยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอน, จากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ, จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีดซึ่งกล่าวว่า ...
إِنَّ عُمَرَ جَمَعَ النَّاسَ عَلَى اُبَىٍّ وَتَمِيْمٍ فَكَانَا يُصَلِّيَانِ إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً ..............
"แท้จริง ท่านอุมัรฺ ได้รวมประชาชนให้นมาซตามท่านอุบัยย์ บิน กะอฺบ์และท่านตะมีม แล้วทั้งสองท่านนั้นก็ละหมาด 11 ร็อกอะฮ์ 
(จากหนังสือ "อัล-มุศ็อนนัฟ" ของท่านอิบนุอบีย์ชัยบะฮ์ เล่มที่ 2 หน้า 248) 
..............
เพราะฉะนั้น การอ้างและกล่าวหา ว่า คนทำละหมาดกิยามุเราะมะฎอน 11 รอ็กอัต ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนบีนั้น คือการโกหกมุสา ให้ร้ายผู้อื่นโดยปราศจากหลักฐาน 
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดัม
6/6/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น