วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

คำถามบิดอะฮดุนยาท่านได้แต่ใดมา


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
คำถามบิดอะฮดุนยาท่านได้แต่ใดมา
Abdulhaleem Matraksa 
แล้วแบ่งเป็นดุนยา ศาสนาท่านได้แต่ใดมา
@@@@@
ชี้แจง
ไม่น่าเชื่อว่าโต๊ะท่านนี้ ยังแยก เรื่องศาสนา เกี่ยวกับ ทางศาสนา(อิบาดะฮ) หรือ ดีนียะฮ และ ทางโลก(ดุนยะวียะฮ )ไม่ได้ 
มาดูครับ ท่านครูอับดุลฮาลีม มาตรรักษา คือ
عَنْ عَائِشَةَ رضي الله عنها، أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم سَمِعَ أَصْوَاتًا . فَقَالَ " مَا هَذَا الصَّوْتُ " . قَالُوا النَّخْلُ يُؤَبِّرُونَهُ فَقَالَ " لَوْ لَمْ يَفْعَلُوا لَصَلَحَ " . فَلَمْ يُؤَبِّرُوا عَامَئِذٍ فَصَارَ شِيصًا فَذَكَرُوا لِلنَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم فَقَالَ : 
" إِنْ كَانَ شَيْئًا مِنْ أَمْرِ دُنْيَاكُمْ فَشَأْنَكُمْ بِهِ وَإِنْ كَانَ شَيْئًا مِنْ أُمُورِ دِينِكُمْ فَإِلَىَّ "
صحيح-الألباني"صحيح ابن ماجه": 2019 , صحيح-الألباني"صحيح الجامع": 5601, صحيح ابن حبان: 22
จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เมื่อ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ได้ยินเสียงดังมาจากต้นอินผลัม ท่านได้กล่าวถามว่า " เสียงนี้คืออะไร? " พวกเขา(ชาวสวนอินทผลัม)กล่าวตอบว่า " พวกเรากำลังผสมเกสรอินทผลัม " ท่านนบีฯจึงกล่าวว่า " ถ้าพวกท่านไม่ทำอย่างนั้นมันอาจจะดีกว่านะ " ในปีนั้นอินทผลัมก็ไม่ได้รับการผสมเกสร และในปีนั้นอินทผลัมก็ไม่ติดผลอย่างที่เคย ชาวสวนจึงนำเรื่องดังกล่าวไปบอกท่านนบีฯ และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ได้กล่าวว่า ;
“หากว่ามีสิ่งใดก็ตามจากดุนยาของพวกเจ้า มันก็เป็นหน้าที่ของพวกเจ้าในเรื่องนั้น และแท้จริงหากมีสิ่งใดก็ตามจากของศาสนาของพวกเจ้า ก็จงกลับมาที่ฉัน”
เศาะฮีหฺ–อัลบานียฺ "เศาะฮีหฺ อิบนุ มาญะฮฺ" : 2019 , เศาะฮีหฺ–อัลบานียฺ "เศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ" : 5601 , เศาะฮีหฺ อิบนุ ฮิบบาน : 22
และมีรายงานอีกว่าท่านนบี ศอ็ลฯกล่าวว่า
إنما أنا بشر، إذا أمرتكم بشيء من دينكم فخذوا به، وإذا أمرتكم بشيء من رأي فإنما أنا بشر». رواه مسلم
ความจริงฉันคือมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง เมื่อฉันสั่งพวกท่านด้วยสิ่งใด ที่เกี่ยวกับศาสนาของพวกท่าน พวกท่านจงเอามัน และเมื่อฉันสั่งพวกท่านด้วยสิ่งใด เกี่ยวกับความเห็น ความจริงฉันก็คือมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง -รายงานโดยมุสลิม
ชัยค์อาลี บิน สุลฏอน มุหัมหมัด อัลกอรีย์ กล่าวว่า
مِنْ أَمْرِ دِينِكِمْ أَيْ مِمَّا يَنْفَعُكُمْ فِي أَمْرِ دِينِكُمْ ( فَخُذُوا بِهِ ) : أَيِ افْعَلُوهُ فَإِنِّي إِنَّمَا نَطَقْتُ بِهِ عَنِ الْوَحْيِ ( وَإِذَا أَمَرْتُكُمْ بِشَيْءٍ مِنْ رَأْيِي ) . وَفِي نُسْخَةٍ : مِنْ رَأْيٍ أَيْ مُتَعَلِّقٍ بِالدُّنْيَا الَّتِي لَا ارْتِبَاطَ لَهَا بِالدِّينِ وَأَخْطَأْتُ فَلَا تَسْتَبْعِدُوا ، وَقِيلَ : فَمَنْ شَاءَ فَعَلَهُ وَمَنْ شَاءَ لَمْ يَفْعَلْهُ ( فَإِنَّمَا أَنَا بَشَرٌ ) ، أَيْ : فَإِنِّي بَشَرٌ أُخْطِئُ وَأُصِيبُ كَمَا جَاءَ فِي خَبَرِ أَحْمَدَ
(เกี่ยวกับศาสนาของพวกท่าน) หมายถึง จากสิ่งที่มีประโยชน์กับพวกท่าน ในเรื่องศาสนาของพวกท่าน(พวกท่านจงเอามัน) หมายถึงพวกท่านจงปฏิบัติมัน เพราะความจริงฉัน พูดด้วยมันจากวะหยู ( และเมื่อฉันสั่งพวกท่านด้วยสิ่งใด เกี่ยวกับความเห็น ของฉัน) และในสำเนาหนึ่ง ระบุว่า "จากความเห็น หมายถึง เกี่ยวกับทางดุนยา ที่ ไม่ผูกมัดมันกับเรื่องศาสนา และฉันผิดพลาด พวกท่านอย่าได้ออกห่าง และถูกกล่าวว่า ผู้ใดประสงค์จะทำก็ทำ ผู้ใดประสงค์(จะไม่ทำ)เขาก็ไม่ต้องทำมัน (เพราะความจริงฉันคือมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง )หมายถึง แท้จริงฉันเป็นมนุษย์ มีผิดพลาดและถูกต้อง ดังหะดิษที่มีมาในการบอกเล่าของอะหมัด - มิรกอตุลมะฟาเตียะ ชัรหมิซกาติลมะศอเบียะ 1/346 อธิบายหะดิษหมายเลข 147 เรื่อง باب الاعتصام بالكتاب والسنة 
..........
ท่านนบี ศอ็ลฯ ได้แยกระหว่างกิจการทางศาสนาและกิจการทางโลกไว้เรียกร้อยแล้ว คือ ถ้าเป็นเรื่อง ศาสนา ก็จงปฏิบัติตามเพราะท่านนบีพูดมาจากวะหยู แต่ถ้าเป็นความเห็นของท่านนบีเกี่ยวกับทางดุนยา ที่ไม่ผูกมัดกับเรื่องศาสนา และ ผิดพลาด ก็อย่าออกห่าง หมายถึง ให้ปฏิบัติได้ แม้ท่านนบีจะไม่เห็นด้วย เช่นกรณี การผสมเกสรอินทผลัม
มาดูนักปราชญที่เข้าใจศาสนากล่าวไว้
การประดิษฐ์สิ่งใหม่ในทางดุนยานั้น ท่านอิบนุอับดิลบัร(ร.ฎ)ได้ชี้แจงชัดเจนว่า
وَأَمَّا ابْتِدَاعُ الْأَشْيَاءِ مِنْ أَعْمَالِ الدُّنْيَا فَهَذَا لَا حَرَجَ فِيهِ وَلَا عَيْبَ عَلَى فَاعِلِهِ
สำหรับ การประดิษฐสิ่งต่างๆ ขึ้นมาใหม่ ที่เกี่ยวกับบรรดาการกระทำ ทางดุนยา(หรือทางโลก)นั้น ไม่มีความผิดใดๆ ในมัน และไม่มีการตำหนิใดๆแก่ผู้ที่กระทำมัน - ดู อัลอิสติซกาซ เล่ม 2 หน้า 67
เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ที่ผู้ที่รู้จริงในเรื่องบิดอะฮคือการหลงผิดนั้นคือ บิดอะฮที่เกี่ยวกับศาสนบัญญัติ
ดอะฮเกี่ยวกับศาสนบัญญัติ คือ การหลงผิด
อิบนุหะญัร อัลหัยตะมีย์ (ร.ฮ) กล่าวว่า
فَإِن الْبِدْعَة الشَّرْعِيَّة ضَلَالَة كَمَا قَالَ – صلى الله عليه وسلم – وَمن قسمهَا من الْعلمَاء إِلَى حسن وَغير حسن فَإِنَّمَا قسم الْبِدْعَة اللُّغَوِيَّة وَمن قَالَ كل بِدعَة ضَلَالَة فَمَعْنَاه الْبِدْعَة الشَّرْعِيَّة
เพราะแท้จริง บิดอะฮเกี่ยวกับศาสนบัญญัตินั้น คือ การหลงผิด ดังสิ่งที่นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวไว้ และ ผู้ใดก็ตามจากบรรดาอุลามาอฺ ได้แบ่งมัน เป็น บิดอะฮที่ดี และ บิดอะฮที่ไม่ดี นั้น ความจริง เขาแบ่งบิดอะฮ เกี่ยวกับด้านภาษา และผู้ใดกล่าวว่า “ทุกๆบิดอะฮ คือการหลงผิด ความหมายของมันคือ บิดอะฮ เกี่ยวกับศาสนบัญญัติ- ดูฟะตาวาอัลหะดีษียะฮ 1/655
สรุปคือ
1. บิดอะฮเกี่ยวกับศาสนบัญญัตินั้นหลงผิด ดังที่นบี ศอ็ลฯกล่าวไว้คือ
كل بدعة ضلالة
ทุกบิดอะฮคือการหลงผิด
2. สำหรับบรรดาอุลาลามาอฺ ที่แบ่งเป็น บิดอะฮที่ดี และ บิดอะฮที่ไม่ดีนั้น หมายถึง บิดอะฮเกี่ยวกับความหมายทางภาษา 
3. ผู้ที่กล่าวว่า ทุกบิดอะฮคือการหลงผิดนั้น ความหมายของมันคือ บิดอะฮ เกี่ยวกับศาสนบัญญัติ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
29/6/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น