แนวทางสะลัฟเกี่ยวกับการอิษบาตอายาตและหะดิษสิฟาต
กอฎีอบูยะอลา (ร.อ) ฮ.ศ 380 -458 ปราชญ์มัซฮับหัมบะลีย์ กล่าวว่า
أَعْلَمُ أَنَّهُ لا يَجُوزُ رَدُّ هَذِهِ الأَخْبَارِ عَلَى مَا ذَهَبَ إِلَيْهِ جَمَاعَةٌ مِنَ الْمُعْتَزِلَةِ ، وَلا التَّشَاغُلُ بِتَأْوِيلِهَا عَلَى مَا ذَهَبَ إِلَيْهِ الأَشْعَرِيَّةُ.
وَالْوَاجِبُ حَمْلُهَا عَلَى ظَاهِرِهَا ، وَأَنَّهَا صِفَاتٌ لِلَّهِ تَعَالَى لا تُشْبِهُ سَائِرَ الْمَوْصُوفِينَ بِهَا مِنَ الْخَلْقِ ، وَلا نَعْتَقِدُ التَّشْبِيهَ فِيهَا ، لَكِنْ عَلَى مَا رُوِيَ عَنْ شَيْخِنَا وَإِمَامِنَا أَبِي عَبْدِ اللَّهِ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدِ بْنِ حَنْبَلٍ ، وَغَيْرِهِ مِنْ أَئِمَّةِ أَصْحَابِ الْحَدِيثِ ، أَنَّهُمْ قَالُوا فِي هَذِهِ الأَخْبَارِ : أَمِرُّوهَا كَمَا جَاءَتْ ، فَحَمَلُوهَا عَلَى
ظَاهِرِهَا فِي أَنَّهَا صِفَاتٌ لِلَّهِ تَعَالَى لا تُشْبِهُ سَائِرَ الْمَوْصُوفِينَ
โปรดทราบไว้เถิดว่า ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธบรรดาหะดิษเหล่านี้ (หมายถึงบรรดาหะดิษสิฟาต) ตามสิ่งที่ คณะหนึ่งจากมุอตะซิละฮ ได้มีทัศนะไปสู่มัน และ ไม่สาละวน กับการตีความมัน บนสิ่งที่อะชาอิเราะฮมีทัศนะไปสู่มัน และ วาญิบจะต้องถือมันบนความหมายที่ปรากฏของมัน และแท้จริง มันคือบรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮ ตาอาลา มันจะไม่ถูกเปรียบเทียบกับบรรดาผู้ที่ถูกอธิบายลักษณะอื่นๆด้วยมันจากบรรดามัคลูค และเราะจะไม่เชื่อว่า มีความคล้ายคลึงในมัน แต่ว่า (เรา)จะอยู่บน สิ่งที่ถูกรายงานจากครูของเราและอิหม่ามของเรา คือ อบีอับดุลลอฮ อะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน หัมบัล และคนอื่นจากเขา จากบรรดานักปราชญที่เป็นนักหะดิษ แท้จริงพวกเขากล่าว เกี่ยวกับบรรดาหะดิษเหล่านี้ (หมายถึงหะดิษสิฟาต) ว่า ปล่อยมันให้ผ่านไป เช่นที่มันได้มีมา แล้วพวกเขาได้ถือมัน บน ความหมาย(ของถ้อยคำ)ที่ปรากฏของมัน ว่า แท้จริงมันคือ บรรดาสิฟาต ของอัลลอฮ ตาอาลา ไม่ถูกเปรียบเทียบกับบรรดาผู้ที่ถูกอธิบายลักษณะอื่นๆ- อิบฏอลุลตะวีล 1/43
คำว่า "حَمْلُهَا عَلَى ظَاهِرِهَا " หมายถึง ถือบรรดาหะดิษสิฟาต บนความหมายจริงๆที่ปรากฏของถ้อยคำตามตัวบท
ดังที่อบูบักร์ อิบนิ อบี อาศิม ฮ.ศ 287 (ร.ฮ) กล่าวว่า
وجميع ما في كتابنا كتاب السنة الكبير الذي فيه الأبواب من الأخبار التي ذكرنا أنها توجب العلم، فنحن نؤمن بها لصحتها، وعدالة ناقليها، ويجب التسليم لها على ظاهرها، وترك تكلف الكلام في كيفيتها
และบรรดา สิ่ง ที่อยู่ในหนังสือของเรา คือ กิตาบอัสสุนนะฮอัลกะบีร ซึ่งในนั้นระบุ บรรดาเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับบรรดาหะดิษ ที่เราได้ระบุไว้ว่า "แท้จริง มัน จะถูกให้จำเป็นต้องรู้ ดังนั้นเรา ศรัทธาด้วยมัน เพราะมันเป็นหะดิษเศาะเฮียะ และบรรดาผู้รายงานมันมีความยุติธรรม และจำเป็นจะต้องยอมรับมัน บนความหมายที่ปรากฏของมัน และละทิ้งความพยายามการวิภาษ ในรูปแบบวิธีการของมัน -
كتاب العرش للذهبي (ج2 ص273) والعلو للعلي الغفار (ص 197)
...
แนวทางสะลัฟเกี่ยวกับการอิษบาต(รับรอง)สิฟาตคือ ยืนยันความหมาย มอบหมายรูปแบบวิธีการ
ดังเช็คอับดุรรอซซาก อัลอะฟีฟีย์ กล่าวว่า
مذهب السلف هو التفويض في كيفية الصفات لا في المعنى
มัซฮับสะลัฟ คือ การมอบหมาย ในเรื่องรูปแบบวิธีการของบรรดาสิฟาต ไม่ได้มอบหมายในความหมาย – ฟะตะวาเช็คอะฟีฟีย หน้า 104
อบูบักร์ บิน อัลอะเราะบีย์ อัลอัชอะรีย์ กล่าวว่า
وذهب مالك رحمه الله أن كل حديث منها معلوم المعنى ولذلك قال للذي سأله الاستواء معلوم والكيفية مجهولة
มาลิก ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้ให้ทัศนะว่า “ทุกหะดิษจากมัน (จากหะดิษที่เกี่ยวกับสิฟัตอัลลอฮ) ความหมายเป็นที่รู้กัน เพราะเหตุนั้น เขา(มาลิก) กล่าวแก่ผู้ที่ถามเขา ว่า “การประทับนั้นเป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน – ดู อาริเฎาะฮอัลอะหวะซีย์ เล่ม 3 หน้า 166
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
20/9/60
เอกสารประกอบ

กอฎีอบูยะอลา (ร.อ) ฮ.ศ 380 -458 ปราชญ์มัซฮับหัมบะลีย์ กล่าวว่า
أَعْلَمُ أَنَّهُ لا يَجُوزُ رَدُّ هَذِهِ الأَخْبَارِ عَلَى مَا ذَهَبَ إِلَيْهِ جَمَاعَةٌ مِنَ الْمُعْتَزِلَةِ ، وَلا التَّشَاغُلُ بِتَأْوِيلِهَا عَلَى مَا ذَهَبَ إِلَيْهِ الأَشْعَرِيَّةُ.
وَالْوَاجِبُ حَمْلُهَا عَلَى ظَاهِرِهَا ، وَأَنَّهَا صِفَاتٌ لِلَّهِ تَعَالَى لا تُشْبِهُ سَائِرَ الْمَوْصُوفِينَ بِهَا مِنَ الْخَلْقِ ، وَلا نَعْتَقِدُ التَّشْبِيهَ فِيهَا ، لَكِنْ عَلَى مَا رُوِيَ عَنْ شَيْخِنَا وَإِمَامِنَا أَبِي عَبْدِ اللَّهِ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدِ بْنِ حَنْبَلٍ ، وَغَيْرِهِ مِنْ أَئِمَّةِ أَصْحَابِ الْحَدِيثِ ، أَنَّهُمْ قَالُوا فِي هَذِهِ الأَخْبَارِ : أَمِرُّوهَا كَمَا جَاءَتْ ، فَحَمَلُوهَا عَلَى
ظَاهِرِهَا فِي أَنَّهَا صِفَاتٌ لِلَّهِ تَعَالَى لا تُشْبِهُ سَائِرَ الْمَوْصُوفِينَ
โปรดทราบไว้เถิดว่า ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธบรรดาหะดิษเหล่านี้ (หมายถึงบรรดาหะดิษสิฟาต) ตามสิ่งที่ คณะหนึ่งจากมุอตะซิละฮ ได้มีทัศนะไปสู่มัน และ ไม่สาละวน กับการตีความมัน บนสิ่งที่อะชาอิเราะฮมีทัศนะไปสู่มัน และ วาญิบจะต้องถือมันบนความหมายที่ปรากฏของมัน และแท้จริง มันคือบรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮ ตาอาลา มันจะไม่ถูกเปรียบเทียบกับบรรดาผู้ที่ถูกอธิบายลักษณะอื่นๆด้วยมันจากบรรดามัคลูค และเราะจะไม่เชื่อว่า มีความคล้ายคลึงในมัน แต่ว่า (เรา)จะอยู่บน สิ่งที่ถูกรายงานจากครูของเราและอิหม่ามของเรา คือ อบีอับดุลลอฮ อะหมัด บิน มุหัมหมัด บิน หัมบัล และคนอื่นจากเขา จากบรรดานักปราชญที่เป็นนักหะดิษ แท้จริงพวกเขากล่าว เกี่ยวกับบรรดาหะดิษเหล่านี้ (หมายถึงหะดิษสิฟาต) ว่า ปล่อยมันให้ผ่านไป เช่นที่มันได้มีมา แล้วพวกเขาได้ถือมัน บน ความหมาย(ของถ้อยคำ)ที่ปรากฏของมัน ว่า แท้จริงมันคือ บรรดาสิฟาต ของอัลลอฮ ตาอาลา ไม่ถูกเปรียบเทียบกับบรรดาผู้ที่ถูกอธิบายลักษณะอื่นๆ- อิบฏอลุลตะวีล 1/43
คำว่า "حَمْلُهَا عَلَى ظَاهِرِهَا " หมายถึง ถือบรรดาหะดิษสิฟาต บนความหมายจริงๆที่ปรากฏของถ้อยคำตามตัวบท
ดังที่อบูบักร์ อิบนิ อบี อาศิม ฮ.ศ 287 (ร.ฮ) กล่าวว่า
وجميع ما في كتابنا كتاب السنة الكبير الذي فيه الأبواب من الأخبار التي ذكرنا أنها توجب العلم، فنحن نؤمن بها لصحتها، وعدالة ناقليها، ويجب التسليم لها على ظاهرها، وترك تكلف الكلام في كيفيتها
และบรรดา สิ่ง ที่อยู่ในหนังสือของเรา คือ กิตาบอัสสุนนะฮอัลกะบีร ซึ่งในนั้นระบุ บรรดาเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับบรรดาหะดิษ ที่เราได้ระบุไว้ว่า "แท้จริง มัน จะถูกให้จำเป็นต้องรู้ ดังนั้นเรา ศรัทธาด้วยมัน เพราะมันเป็นหะดิษเศาะเฮียะ และบรรดาผู้รายงานมันมีความยุติธรรม และจำเป็นจะต้องยอมรับมัน บนความหมายที่ปรากฏของมัน และละทิ้งความพยายามการวิภาษ ในรูปแบบวิธีการของมัน -
كتاب العرش للذهبي (ج2 ص273) والعلو للعلي الغفار (ص 197)
...
แนวทางสะลัฟเกี่ยวกับการอิษบาต(รับรอง)สิฟาตคือ ยืนยันความหมาย มอบหมายรูปแบบวิธีการ
ดังเช็คอับดุรรอซซาก อัลอะฟีฟีย์ กล่าวว่า
مذهب السلف هو التفويض في كيفية الصفات لا في المعنى
มัซฮับสะลัฟ คือ การมอบหมาย ในเรื่องรูปแบบวิธีการของบรรดาสิฟาต ไม่ได้มอบหมายในความหมาย – ฟะตะวาเช็คอะฟีฟีย หน้า 104
อบูบักร์ บิน อัลอะเราะบีย์ อัลอัชอะรีย์ กล่าวว่า
وذهب مالك رحمه الله أن كل حديث منها معلوم المعنى ولذلك قال للذي سأله الاستواء معلوم والكيفية مجهولة
มาลิก ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้ให้ทัศนะว่า “ทุกหะดิษจากมัน (จากหะดิษที่เกี่ยวกับสิฟัตอัลลอฮ) ความหมายเป็นที่รู้กัน เพราะเหตุนั้น เขา(มาลิก) กล่าวแก่ผู้ที่ถามเขา ว่า “การประทับนั้นเป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน – ดู อาริเฎาะฮอัลอะหวะซีย์ เล่ม 3 หน้า 166
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
20/9/60
เอกสารประกอบ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น