ทุกบิดอะฮในศาสนาคือการหลงผิดไม่มีข้อยกเว้น
ท่านนบี ศอ็ลฯ กล่าวว่า
ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
وإياكم ومحدثات الأمور فإن كل محدثة بدعة وكل بدعة ضلالة
ความว่า : “และพวกเจ้าจงระวังสิ่งที่ถูกประดิษฐขึ้นใหม่ในศาสนา เพราะว่าทุกๆบิดอะฮฺนั้นคือความหลงผิด”-(รางานโดย อะบูดาวุด: 4607 และติรมีซีย์ : 2676)
ท่านอิบนุอุมัร (ร.ฎ) กล่าวว่า
ท่านอิบนุอุมัร (ร.ฎ) กล่าวว่า
كل بدعة ضلالة وإن رآها الناس حسنة
ทุกบิดอะฮคือการหลงผิด และแม้ว่ามนุษย์จะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดีก็ตาม –ดูที่มาข้างล่าง
رواه اللالكائي (رقم126)،وابن بطة (205)،والبيهقي في "المدخل إلى السنن"(191)،وابن نصر في "السنة" (رقم70) بسند صحيح كما في "علم أصول البدع" لعلي الحلبي (ص92).،
กลุ่มอนุรักษ์บิดอะฮ มักจะอ้างว่า บิดอะฮไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวทั้งหมด มีสิ่งดีด้วย เรื่องนี
อิหม่ามอัชชาฏิบีย(ร.ฮ)กล่าวว่า
رواه اللالكائي (رقم126)،وابن بطة (205)،والبيهقي في "المدخل إلى السنن"(191)،وابن نصر في "السنة" (رقم70) بسند صحيح كما في "علم أصول البدع" لعلي الحلبي (ص92).،
กลุ่มอนุรักษ์บิดอะฮ มักจะอ้างว่า บิดอะฮไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวทั้งหมด มีสิ่งดีด้วย เรื่องนี
อิหม่ามอัชชาฏิบีย(ร.ฮ)กล่าวว่า
قول النبيِّ صلى الله عليه وسلم: ((كل بدعة ضلالة)) محمولٌ عند العلماء على عمومه، لا يُستثنى منه شيء ألبتة، وليس فيها ما هو حسنٌ أصلاً؛ إذ لا حسن إلا ما حسَّنه الشرع، ولا قبيح إلا ما قبَّحه الشرع، فالعقل لا يحسِّن ولا يقبِّح؛ وإنما يقول بتحسين العقل وتقبيحه أهلُ الضلال.
คำพูดของนบี ศอ็ลฯ ที่ว่า (ทุกบิดอะฮ คือการหลงผิด) ในทัศนะบรรดาอุลามาอฺ ได้ถูกถือตามความหมายกว้างๆของมัน ไม่มีสิ่งใดยกเว้นเลย และในบิดอะฮนั้น ไม่มีสิ่งที่ดีในมัน มาแต่เดิม ยกเว้น สิ่งที่ศาสนบัญญัติได้ระบุว่ามันดี และไม่มีสิ่งใดเลว นอกจากสิ่งที่ศาสนบัญญัติระบุว่ามันเลว ดังนั้น สติปัญญา (เหตุผลทางปัญญา) จะไม่ตัดสินว่าดีหรือเลว ความจริง ผู้ที่กล่าวด้วยการเห็นว่าดีและเห็นว่าเลวของสติปัญญา (หมายถึงด้วยเหตุผลทางปัญญา) นั้นคือ ชาวหลงผิด
-ฟะตาวาอิหม่ามอัชชาฏิบีย์ 180-181
........................
จากรายละเอียดข้างต้น จึงสรุปได้ว่า ในศาสนบัญญัติ ไม่มีบิดอะฮที่ดี และ ผู้ที่ตัดสินว่าดีและเลวในเรื่องศาสนาด้วยเหตุผลทางปัญญา นั้น คือชาวบิดอะฮ
ชัยค์อัรรูมีย์ อัลหะนะฟีย์ ฮ.ศ 834 (ร.ฮ) กล่าวว่า
-ฟะตาวาอิหม่ามอัชชาฏิบีย์ 180-181
........................
จากรายละเอียดข้างต้น จึงสรุปได้ว่า ในศาสนบัญญัติ ไม่มีบิดอะฮที่ดี และ ผู้ที่ตัดสินว่าดีและเลวในเรื่องศาสนาด้วยเหตุผลทางปัญญา นั้น คือชาวบิดอะฮ
ชัยค์อัรรูมีย์ อัลหะนะฟีย์ ฮ.ศ 834 (ร.ฮ) กล่าวว่า
فَمَنْ اَحْدَثَ شَيْئًا يَتَقَرَّبُ بِهِ اِلَى اللهِ تَعَالَى مِنْ قَوْلٍ اَوْ فِعْلٍ ، فَقَدْ شَرَعَ مِنَ الدِّيْنِ مَا لَمْ يَاْذَنْ بِهِ اللهُ فَعُلِمَ اَنَّ كُلَّ بِدْعَةٍ مَنَ الْعِبَادَةِ الدِّيْنِيَّةِ لاَ تُكُوْنُ اِلاَّ سَيِّئَةً
แล้วผู้ใดประดิษฐ์สิ่งใดขึ้นมาใหม่ นำมันไปแสดงการใกล้ชิด(อิบาดะฮ) ต่ออัลลอฮ จากคำพูดหรือการกระทำ แน่นอนเขาได้บัญญัติศาสนา สิ่งซึ่งอัลลอฮไม่ทรงอนุมัติด้วยมัน ,เขาก็จะรู้ว่า ทุกบิดอะฮจากอิบาดะฮที่เกี่ยวกับศาสนา มันจะไม่เป็นอย่างอื่นนอกจาก เป็นสิ่งที่เลว - อิลมุอุศูลิลบิดอีของ อาลี บิน หะซัน อัลหัมบะลีย อัลอะษะรีย หน้า 101

والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
5/9/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น