วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561

อะกีดะฮพระเจ้าอยู่บนฟ้าเป็นอะกีดะฮมุสลิม ไม่ใช่ อะกีดะฮศาสนากาเฟร



ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


อะกีดะฮพระเจ้าอยู่บนฟ้าเป็นอะกีดะฮมุสลิม ไม่ใช่ อะกีดะฮศาสนากาเฟรอย่างที่แกนนำอาชาอิเราะสายฏอรีกัตอ้าง
เรื่อง อะกีดะฮพระเเจ้าอยู่บนฟ้าหรือการอยู่เบื้องสูง ได้ชี้แจงด้วยหลักฐาน ทั้งอัลกุรอ่าน อัสสุนนะฮ ทัศนะสะลัฟ และเคาะลัฟ มามากมาย แต่อาชาอิเราะฮแนวคิดญะฮมียะฮ และมุอตะซิละฮ พยายามเอาเหตุผลตรรกทางปัญญาตามแนวคิดอะฮลุลกาลาม มาโต้แย้งปฏิเสธ แถมด่าทอ ใส่ร้ายและปั้นเรืองเท็จมาดิสเครดิตตลอดเวลา ไม่ทราบว่าคนพวกนี้นับถือศาสนาของอัลลอฮหรือนับถือศาสนาชัยฏอน
หลักฐานมากมายจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ แสดงการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ เช่น
หลักฐานจากอัลกุรอ่าน ยืนยันโดย อิหม่ามอะหมัด บิน หัมบัล
อิหม่ามอะหมัด (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
وَقَدْ أَخْبَرَنَا أَنَّهُ فِي السَّمَاءِ فَقَالَ: "ءَأَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يَخْسِفَ بِكُمُ الأَرْضَ"، "أَمْ أَمِنتُم مَّن فِي السَّمَاء أَن يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حَاصِبًا"، وقال: "إِلَيْهِ يَصْعَدُ الْكَلِمُ الطَّيِّبُ" وقال: "إِنِّي مُتَوَفِّيكَ وَرَافِعُكَ إِلَيَّ" وقال: "بَل رَّفَعَهُ اللّهُ إِلَيْهِ"
และแท้จริง พระองค์ทรงบอกเราว่าแท้จริงพระองค์ทรงอยู่บนฟ้า เพราะพระองค์ ตรัสว่า(พวกเจ้าจะปลอดภัยละหรือ จากผู้ทรงอยู่ ณ ฟากฟ้าจะให้แผ่นดินสูบพวกเจ้า) (หรือว่าพวกเจ้าจะปลอดภัยจากผู้ทรงอยู่ ณ ฟากฟ้า จะทรงส่งลมหอบก้อนกรวดให้กระหน่ำมายัง พวกเจ้า) พระองค์ตรัสว่า (บรรดาถ้อยคำที่ดี ขึ้นไปยังพระองค์)พระองค์ ตรัสว่า (ข้าจะเป็นผู้รับเจ้าไปพร้อมด้วยชีวิตและร่างกายของเจ้า และจะเป็นผู้ยกเจ้าขึ้นไปยังข้า)และพระองค์ตรัสว่า(หามิได้ อัลลอฮฺได้ทรงยกเขา (อีซา) ขึ้นไปยังพระองค์ต่างหาก)- ดู อัรร็อดอะลัลญะฮมียะฮวัซซะนาดิก หน้า 146
ที่นี้มาดู คำอธิบายของนักตัฟสีร
จากอายะฮข้างต้น อิหม่ามอัฏเฏาะบะรีย์ อธิบายว่า
( أَمْ أَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ ) وَهُوَ اللَّهُ ( أَنْ يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حَاصِبًا ) وَهُوَ التُّرَابُ فِيهِ الْحَصْبَاءُ الصِّغَارُ
“หรือพวกเจ้าปลอดภัย(จาก)ผู้อยู่บนชั้นฟ้า และพระองค์คือ อัลลอฮฺ (ที่จะส่งลมหอบหินลงมาทับถมเหนือพวกเจ้า) มันคือดิน ที่มี ก้อนกรวดเล็กๆอยู่ในนั้น "
- ดูตัฟสีร อัฏเฏาะบะรีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 17 ซูเราะฮอัลมุ้ลกิ . 
อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
تَعْرُجُ ٱلْمَلاَئِكَةُ وَٱلرُّوحُ إِلَيْهِ فِي يَوْمٍ كَانَ مِقْدَارُهُ خَمْسِينَ أَلْفَ سَنَةٍ
มะลาอิกะฮฺและอัรรูหฺ (ญิบริล) จะขึ้นไปหาพระองค์ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับห้าหมื่นปี (ของโลกดุนยานี้)
อิหม่ามอิบนุญะรีร อธิบายว่า
يَقُول تَعَالَى ذِكْره : تَصْعَد الْمَلَائِكَة وَالرُّوح , وَهُوَ جِبْرِيل عَلَيْهِ السَّلَام إِلَيْهِ , يَعْنِي إِلَى اللَّه جَلَّ وَعَزَّ ; وَالْهَاء فِي قَوْله : { إِلَيْهِ } عَائِدَة عَلَى اسْم اللَّه { فِي يَوْم كَانَ مِقْدَاره خَمْسِينَ أَلْف سَنَة } يَقُول : كَانَ مِقْدَار صُعُودهمْ ذَلِكَ فِي يَوْم لِغَيْرِهِمْ مِنَ الْخَلْق خَمْسِينَ أَلْف سَنَة , وَذَلِكَ أَنَّهَا تَصْعَد مِنْ مُنْتَهَى أَمْره مِنْ أَسْفَل الْأَرْض السَّابِعَة إِلَى مُنْتَهَى أَمْره مِنْ فَوْق السَّمَوَات السَّبْع
อัลลอฮผู้ซึ่ง การสดุดีพระองค์นั้น ทรงสูงส่ง ตรัสว่า มลาอิกะฮ และอัรรูหฺ คือ ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ขึ้นไปยังพระองค์ หมายถึง ขึ้นไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง และอักษรฮา ในคำว่า "อิลัยฮิ " นั้น เป็นสรรพนามแทนชื่อของอัลลอฮ , ในคำตรัสที่ว่า (ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับห้าหมื่นปี ) พระองค์ตรัสว่า กำหนดระยะทางการขึ้นของพวกเขา นั้น ในวันหนึ่ง สำหรับมัคลูคอื่นๆจากพวกเขานั้น เป็นเวลาห้าหมื่นปี และดังกล่าวนั้น พวกเขา(บรรดามลาอิกะฮ)ได้ขึ้นจาก จุดสิ้นสุด จากชั้นล่างสุดของแผ่นดินชั้นที่เจ็ด ไปยังจุดสิ้นสุด จาก เบื้องบนชั้นฟ้าที่เจ็ด – ดูตัฟสีรอัฏเฏาะบะรีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 4 ซูเราะฮอัลมะอาริจญ 
หลักฐานจากอัสสุนนะอ
ท่านนบี ศอ็ลฯ กล่าวว่า
ألا تأمنوني وأنا أمين من في السماء، يأتيني خبر السماء صباحا ومساء
พวกท่านไม่ไว้วางใจฉันอย่างนั้นหรือ ทั้งๆที่ฉันคือ ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจของผู้ที่อยู่ในฟากฟ้า,ข่าวคราวแห่งฟากฟ้า ได้ถึงมายังฉัน ในยามเช้าและยามบ่าย (1)
---------------------------
(1) البخاري : المغازي (4351) , ومسلم : الزكاة (1064) , والنسائي : الزكاة (2578) , وأبو داود : السنة (4764) , وأحمد (3/68).
ในตอนหนึ่งของหะดิษเมียะรอจญ์ ระบุว่า
قَالَ - فَلَمْ أَزَلْ أَرْجِعُ بَيْنَ رَبِّي تَبَارَكَ وَتَعَالَى وَبَيْنَ مُوسَى - عَلَيْهِ السَّلاَمُ - حَتَّى قَالَ يَا مُحَمَّدُ إِنَّهُنَّ خَمْسُ صَلَوَاتٍ كُلَّ يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ لِكُلِّ صَلاَةٍ عَشْرٌ فَذَلِكَ خَمْسُونَ صَلاَةً ‏.‏ وَمَنْ هَمَّ بِحَسَنَةٍ فَلَمْ يَعْمَلْهَا كُتِبَتْ لَهُ حَسَنَةً فَإِنْ عَمِلَهَا كُتِبَتْ لَهُ عَشْرًا وَمَنْ هَمَّ بِسَيِّئَةٍ فَلَمْ يَعْمَلْهَا لَمْ تُكْتَبْ شَيْئًا فَإِنْ عَمِلَهَا كُتِبَتْ سَيِّئَةً وَاحِدَةً -
ดังนั้นฉันจึงเทียวไปเทียวมาระหว่างองค์อภิบาลของฉันผู้ทรงจำเริญและสูงส่ง กับนบีมูซา อลัยฮิสสลาม จนกระทั่งพระองค์ทรงตรัสว่า โอ้มูฮัมหมัดเอ๋ย การละหมาดห้าเวลาในวันหนึ่งกับคืนหนึ่งนั้น แต่ละเวลาละหมาดเทียบเท่ากับสิบ ดังนั้น (การละหมาดห้าเวลา) จึงเท่ากับการละหมาดห้าสิบเวลา และผู้ใดตั้งใจกระทำความดีโดยที่ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติ ก็จะถูกบันทึกให้กับเขาหนึ่งความดี แต่หากเขาได้กระทำความดีนั้น ก็จะถูกบันทึกให้กับเขาสิบเท่าตัว และผู้ใดตั้งใจกระทำความชั่ว แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ ความชั่วนั้นก็จะยังไม่ถูกบันทึก แต่หากเขาลงมือกระทำมัน ก็จะถูกบันทึกเพียงความชั่วเดียว
قَالَ - فَنَزَلْتُ حَتَّى انْتَهَيْتُ إِلَى مُوسَى صلى الله عليه وسلم فَأَخْبَرْتُهُ فَقَالَ ارْجِعْ إِلَى رَبِّكَ فَاسْأَلْهُ التَّخْفِيفَ ‏.‏ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم فَقُلْتُ قَدْ رَجَعْتُ إِلَى رَبِّي حَتَّى اسْتَحْيَيْتُ مِنْهُ ‏"‏
แล้วฉันก็กลับมาจนกระทั่งมาถึงท่านนบีมูซา ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และแจ้งข่าวให้ท่านทราบ แต่ท่านก็ยังกล่าวอีกว่า จงกลับไปยังองค์อภิบาลของเจ้า และขอลดหย่อนต่อพระองค์อีก ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ฉันตอบกับท่านนบีมูซาว่า ฉันกลับไปหาองค์อภิบาลของฉัน (หลายครั้งเพื่อขอลดหย่อน) จนกระทั่งฉันละอายต่อพระองค์
มุสลิม/หมวดที่1/บทที่76/ฮะดีษเลขที่ 0309
.............
จากหะดิษข้างต้น
1.คำว่า
فَلَمْ أَزَلْ أَرْجِعُ بَيْنَ رَبِّي تَبَارَكَ وَتَعَالَى وَبَيْنَ مُوسَى - عَلَيْهِ السَّلاَمُ
ดังนั้นฉันจึงเทียวไปเทียวมาระหว่างองค์อภิบาลของฉันผู้ทรงจำเริญและสูงส่ง กับนบีมูซา อลัยฮิสสลาม
............
ข้างต้นแสดงว่า นบีมุหัมหมัด ศ็อลฯรู้ว่าอัลลอฮอยู่ใหน เพราะนบีขึ้นไปยังอัลลอฮ และลงมาพบกับมูซา อะลัยฮิสสลาม
2. คำว่า
قَدْ رَجَعْتُ إِلَى رَبِّي حَتَّى اسْتَحْيَيْتُ مِنْهُ ‏"‏
ฉันกลับไปหาองค์อภิบาลของฉัน (หลายครั้งเพื่อขอลดหย่อน) จนกระทั่งฉันละอายต่อพระองค์
........
ข้อความข้างต้น ที่นบี ศอ็ลฯ กลับไปยังอัลลอฮ แสดงว่าท่านรู้ว่าอัลลอฮอยู่ใหน และแสดงว่า คำพูดของแกนนำที่ว่า อัลลอฮ อยู่บนฟ้า คือสูงด้านฐานะ เป็นการอ้างอันเป็นเท็จ เพราะหากความสูงด้านฐานะ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะขึ้นไปหาฐานะสูงส่งของพระเจ้า เพราะความสูงส่งเป็นนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม และการขึ้นไปยังพระเจ้า แสดงว่าพระเจ้าอยู่เบื้องสูงที่เป็นรูปธรรม คือ อยู่เบื้องสูงด้วยซาตของพระองค์
...........
จากส่วนหนึ่งจากหลักฐานข้างต้น ขอสาบานด้วยนามอัลลอฮว่า "อัลลอฮอยู่บนฟ้าคืออะกีดะฮอิสลาม ไม่ใช่อะกีดะฮศาสนากาเฟร อย่างที่แกนนำอาชาอิเราะฮอ้าง และขอท้าสาบานมุบาฮะละฮกับแกนนำอาชาอิเราะฮทุกท่าน ในเรื่องนี้ได้ทุกเวลา ดีกว่าปล่อยหมาให้มากัดคนที่เห็นต่าง เพราะวิธีแบบนี้มนุษย์ที่มีศาสนาเขาไม่ทำกัน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
29/3/61

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น