วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560

การเห็นต่างในเรื่องศาสนาที่นำไปสู่การแตกแยก


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
การเห็นต่างในเรื่องศาสนาที่นำไปสู่การแตกแยก
การเห็นต่างในเรื่องศาสนา นั้น ไม่ควรจะนำมาเป็นประเด็นให้เกิดการแตกแยก เพราะการเห็นต่างนั้นมันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่สาเหตุที่นำมาซึ่งความแตกแยกคือ การไม่ยอมรับความจริง เมื่อสิ่งที่ตนเชื่อและปฏิบัติอยู่ ได้ปรากฏหลักฐานชัดเจนแล้วว่า ไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ซึ่งเป็นตาชั่งเป็นมาตรฐานวัดความถุกต้อง(الحق ) และ ความไม่ถูกต้อง(الباطل ْ)
การไม่ยอมรับความจริง สาเหตุเพราะ :
1.กลัวเสียประโยชน์
2.กลัวเสียหน้า
3.กลัวเสียคะแนนนิยม
4. การยึดติดกับผู้รู้จนเลยเถิด
เมื่อไม่ยอมรับความจริง ด้วยเหตุผลข้างต้น คนที่ไร้ซึ่งอิคลาศในการนับถือศาสนา ก็จะหาเหตุผลโต้แย้ง และหากลยุทธต่างๆ เพื่อต่อต้าน ,ทำลายและดิสเครดิต คนที่เห็นต่าง นี่คือ จุดที่ทำให้เกิดการแตกแยกในสังคม
การขัดแย้งในเรื่องศาสนานั้น ได้ถูกกำหนดกติกาไว้แล้ว ในอัลกุรอ่าน หากไม่นำกติการมาใช้ สังคมก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวังวนของการขัดแย้งต่อไปไม่มีวันจบสิน
อิบนุ อบิลอิซ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
مَسَائِلُ النِّزَاعِ الَّتِي تَتَنَازَعُ فِيهَا الْأُمَّةُ ، فِي الْأُصُولِ وَالْفُرُوعِ - إِذَا لَمْ تُرَدَّ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ - لَمْ يَتَبَيَّنْ فِيهَا الْحَقُّ ، بَلْ يَصِيرُ فِيهَا الْمُتَنَازِعُونَ عَلَى غَيْرِ بَيِّنَةٍ مِنْ أَمْرِهِمْ
บรรดาประเด็นขัดแย้ง ที่อุมมะฮขัดแย้งกันในมัน ในเรื่อง อุศูล(หลักศรัทธา)และฟุรูอฺ(หมายหลักปฏิบัติ) เมื่อมันไม่ถูกนำกลับไปยังอัลลอฮ(อัลกุรอ่าน)และรอซูล(อัสสุนนะฮ) ความจริงก็จะไม่ปรากฏในมัน 
ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาผู้ที่ขัดแย้งกัน ก็จะอยู่บนความไม่ชัดเจนจากกิจการ(ศาสนา)ของพวกเขา-..ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฏาะหาวียะฮ เล่ม 2 หน้า 778 
กล่าวคือ
หากประเด็นขัดแย้ง ไม่ว่าในเรืองอะกีดะฮ หรือเรื่อง อิบาดะฮ หากไม่นำกลับไปให้อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ตัดสิน ความจริงก็จะไมปรากฏ
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
" فَلْيَحْذَرِ الَّذِينَ يُخَالِفُونَ عَنْ أَمْرِهِ أَن تُصِيبَهُمْ فِتْنَةٌ أَوْ يُصِيبَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ "
“ ดังนั้น บรรดาผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเขา(ท่านนบี ) จงระวังตัวเถิดว่า เคราะห์กรรมจะเกิดขึ้นแก่พวกเขา หรือว่าการลงโทษอันเจ็บปวดจะเกิดขึ้นแก่พวกเขาเช่นกัน “ 
(สูเราะฮฺอันนูร อายะฮฺที่ 63)
ท่านอิบนุกะษีร(ร.ฮ) อธิบายว่า
وَقَوْلُهُ : ( فَلْيَحْذَرِ الَّذِينَ يُخَالِفُونَ عَنْ أَمْرِهِ ) أَيْ : عَنْ أَمْرِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَهُوَ سَبِيلُهُ وَمِنْهَاجُهُ وَطَرِيقَتُهُ [ وَسُنَّتُهُ ] وَشَرِيعَتُهُ ، فَتُوزَنُ الْأَقْوَالُ وَالْأَعْمَالُ بِأَقْوَالِهِ وَأَعْمَالِهِ ، فَمَا وَافَقَ ذَلِكَ قُبِلَ ، وَمَا خَالَفَهُ فَهُوَ مَرْدُودٌ عَلَى قَائِلِهِ وَفَاعِلِهِ ، كَائِنًا مَا كَانَ ، كَمَا ثَبَتَ فِي الصَّحِيحَيْنِ وَغَيْرِهِمَا ، عَنْ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهُ قَالَ : " مَنْ عَمِلَ عَمَلًا لَيْسَ عَلَيْهِ أَمْرُنَا فَهُوَ رَدٌّ " .
และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า(ดังนั้น บรรดาผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเขา) หมายถึง จากคำสั่งของรซูลุลลอฮ สอ็ลฯ และมมันคือแนวทางของท่านรอซูล ,คือสุนนะฮของท่านรอซูลและ ชะรีอัตของท่านรอซูล ดังนั้น บรรดาคำพูด และการกระทำ จะถูกนำไปชั่งกับบรรดาคำพูดและการกระทำของท่านรอซูล ดังนั้นสิ่งใด สอดคล้องกับดังกล่าว ก็จะถูกรับรอง และสิ่งใดขัดแย้งกับมัน มันคือสิ่งที่ถูกปฏิเสธ บนผู้ที่พูดและปฏิบัติมัน ไม่ว่าสิ่งใดก็ตาม ดังเช่น สิ่งที่ปรากฏยืนยันในเศาะเฮียะบุคอรีและมุสลิม และอื่นจากทั้งสอง จากท่านรอซูล ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสะลลัมว่า "ผู้ใดประกอบการงานใด ซึ่งกิจการศาสนาของเราไม่ได้อยู่บนมัน มันถูกปฏิเสธ - ดูตัฟสีรอิบนุกระษีร เล่ม 6 หน้า 90
............
เพราะฉะนั้น หากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ไม่ถูกนำมาตัดสินในประเด็นขัดแย้ง ความแตกแยกก็จะยังคงวนเวียนอยู่ในสังคม อย่างไม่มีวันจบ เพราะ อารมณ์และความอคติ ความเห็น การยึดติดกับบุคคล ถูกนำมาตัดสินโดยทิ้งคำสอนอัลลอฮและรอซูล ศอ็ลฯไว้เบื้องหลัง
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
15/4/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น