
หลักฐานที่ถูกนำมาอ้างรับรองบิดอะฮหะสะนะฮ
อิจมาอีย์ บินกิยะซีย์
จาก อัลหะกัม บิน อะอฺร๊อจฐฺ จากท่านอัลอะอฺร๊อจญฺ เขากล่าวว่า
سألت ابن عمرعن صلاة الضحى ؟ فقال : بدعة ونعمت البدعة
" ฉันได้ถาม ท่านอิบนุอุมัร จากเรื่องละหมาด ดุฮา ท่านอิบนุอุมัรกล่าวว่า มันเป็นบิดอะฮ์ และเป็นบิดอะฮ์ที่ดี"
รายงานโดย อิบนุอบีชัยบะฮ์ ด้วยสายรายงานที่ซอฮิหฺ
@@@@@@@@
ชี้แจง
งงกับ อิจมาอีย์ บินกิยะซีย์ อาชาอิเราะฮ คณะใหม่ เพราะ แกนนำอาชาอิเราะฮ ชื่อนามแฝง Sunnah Core Salafussalah บิดเบือนว่า
อาสัน อ้างหลักอะกีดะฮ์โดยเก็บมาจากเว็บวะฮ์ฮาบีย์ และอ้างอิงของสะลัฟตามทัศนะของพวกเขา คืออบู ญะฟัร มุฮัมมัด บิน อุษมาน อิบ อะบีชัยบะฮ์
ซึ่งอบู ญะฟัร บิน อะบีชัยบะฮ์ สะลัฟของวะฮ์ฮาบีย์นี้ นักปราชญ์หะดีษบอกว่า อบู ญะฟัร บิน อะบีชัยบะฮ์ เป็น “จอมโกหก”
..............
วันนี้ ก็เอารายงานของอิบนุอบีชัยบะะฮมาอ้าง แล้วบอกว่า เศาะเฮียะ....ลิ้นพันอีกแล้ว
ตักลิดตาบอดไม่ยอมศึกษาความเป็นมาของหะดิษ
ท่านหาฟิซอิบนุหะญัร กล่าวว่า
وَفِي الْجُمْلَةِ لَيْسَ فِي أَحَادِيثِ ابْنِ عُمَرَ هَذِهِ مَا يَدْفَعُ مَشْرُوعِيَّةَ صَلَاةِ الضُّحَى ، لِأَنَّ نَفْيَهُ مَحْمُولٌ عَلَى عَدَمِ رُؤْيَتِهِ ، لَا عَلَى عَدَمِ الْوُقُوعِ فِي نَفْسِ الْأَمْرِ ، أَوِ الَّذِي نَفَاهُ صِفَةٌ مَخْصُوصَةٌ .
สรุปแล้ว ในบรรดาหะดิษอิบนุอุมัร ไม่ใช่สิ่งที่มาคัดค้าน การบัญญัติใช้ให้ละหมาดฎุหา เพราะการปฏิเสธของเขา(อิบนุอุมัร) นั้น เป็นไปได้ว่า ท่านไม่เคยเห็น ไม่ใช่ไม่มีจริง หรือ(เป็นไปได้ว่า)ที่ท่านปฏิเสธมัน(ละหมาดฎุหา) คือ ทำในลักษณะรูปแบบที่เฉพาะ.....
قَالَ عِيَاضٌ وَغَيْرُهُ : إِنَّمَا أَنْكَرَ ابْنُ عُمَرَ مُلَازَمَتَهَا وَإِظْهَارَهَا فِي الْمَسَاجِدِ وَصَلَاتَهَا جَمَاعَةً ، لَا أَنَّهَا مُخَالِفَةٌ لِلسُّنَّةِ . وَيُؤَيِّدُهُ مَا رَوَاهُ ابْنُ أَبِي شَيْبَةَ ، عَنِ ابْنِ مَسْعُودٍ أَنَّهُ رَأَى قَوْمًا يُصَلُّونَهَا فَأَنْكَرَ عَلَيْهِمْ ، وَقَالَ : إِنْ كَانَ وَلَا بُدَّ فَفِي بُيُوتِكُمْ .
อัลยาฎและคนอื่นจากเขา ได้กล่าวว่า " ความจริงที่ท่านอุมัร คัดค้านนั้น คือ การละหมาดเป็นประจำและกระทำโดยเปิดเผยในมัสญิดและละหมาดฎุหาในรูปแบบของการละหมาดญะมาอะฮ เพราะขัดกับอัสสุนนะฮ และสิ่งที่มาสนับสนุนมัน(คำพูดนี้)คือ สิ่งที่อิบนุอบีชัยบะฮได้รายงานจากอิบนิมัสอูดว่า เขาได้เห็นคนกลุ่มหนึ่ง ละหมาดฎุหา แล้วเขาได้ห้ามพวกนั้น และกล่าวว่า "ถ้าหากอดไม่ได้จริงๆก็ให้ละหมาดในบ้านของพวกท่าน" - ดูฟัตหุ้ลบารีย์ เล่ม 3 หน้า 52-53
รายงานจากมุญาฮิดกล่าวว่า
دخلت أنا وعروة بن الزبير المسجد , فاذا عبد الله بن عمر جالس الى حجرة عائشة ,واذا ناس يصلون فى المسجد صلاة الضحى , فسألناه عن صلاتهم , فقال بدعة
ฉันเองและอุรวะฮ บิน อัซซุบัยร์ เข้าไปในมัสญิด ขณะนั้น อับดุลลอฮ บิน อุมัร กำลังนั่งอยู่ที่ห้องของท่านหญิงอาอีฉะฮ และทันใดนั้น บรรดาผู้คน กำลังละหมาดฎุหาในมัสญิด เราจึงถามเขา(อิบนุอุมัร) เกี่ยวกับการละหมาดของพวกนั้น เขาตอบว่า "เป็นบิดอะฮ" - บันทึกโดย บุคอรี เล่ม 2 หน้า 630 และ มุสลิม เล่ม 2 หน้า 917
..........
หุกุมศาสนา ได้สมบูรณ์แล้วหลังจากที่ท่านนบีได้สิ้นชีวิต และละหมาดฎุหานั้นท่านนบี เคยทำและใช้ให้ทำ จึงไม่ใช่บิดอะฮ และคำพูดของท่านอิบนุอุมัร ที่ท่านได้กล่าวข้างต้น เพราะสาเหตุดังที่กล่าวมา และ คำพูดของท่านไม่ใช่หลักฐานที่นำไปรับรองบิดอะฮ และคำพูดที่ว่า "ละหมาดฎุหา เป็นบิดอะฮนั้น ตกไป เมื่อมีสุนนะฮอยู่แล้วในเรื่องนี้
ท่านอิหม่ามอัชเชากานีย์กล่าวว่า
..........
หุกุมศาสนา ได้สมบูรณ์แล้วหลังจากที่ท่านนบีได้สิ้นชีวิต และละหมาดฎุหานั้นท่านนบี เคยทำและใช้ให้ทำ จึงไม่ใช่บิดอะฮ และคำพูดของท่านอิบนุอุมัร ที่ท่านได้กล่าวข้างต้น เพราะสาเหตุดังที่กล่าวมา และ คำพูดของท่านไม่ใช่หลักฐานที่นำไปรับรองบิดอะฮ และคำพูดที่ว่า "ละหมาดฎุหา เป็นบิดอะฮนั้น ตกไป เมื่อมีสุนนะฮอยู่แล้วในเรื่องนี้
ท่านอิหม่ามอัชเชากานีย์กล่าวว่า
الحقّ أنّ قول الصحابي ليس بحجّة، فإنّ الله سبحانه وتعالى لم يبعث إلى هذه الأُمة إلاّ نبيّنا محمّد(صلى الله عليه وآله وسلم) وليس لنا إلاّ رسول واحد، والصحابة ومن بعدهم مكلّفون على السواء بإتباع شرعه في الكتاب والسنة، فمن قال بأنّه تقوم الحجّة في دين الله بغيرهما، فقد قال في دين الله بما لا يثبت، وأثبت شرعاً لم يأمر الله به
ความจริง คำพูดของเศาหาบะฮนั้น ไม่ใช่หลักฐาน เพราะอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ได้ส่งผู้ใดมายังอุมมะฮนี้ นอกจากนบีของเราเท่านั้น และไม่มีสำหรับเรา นอกจากท่านรซูลผู้เดียวเท่านั้นโดยที่ เหล่าเศาะหาบะฮและผู้ที่อยู่ในยุคหลังจากพวกเขา เป็นมุกัลลัฟ(เป็นผู้ที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของศาสนา) เหมือนๆกัน ด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ ในอัลกิตาบ(อัลกุรอ่าน)และอัสสุนนะฮ ดังนั้น ผู้ใดอ้างหลักฐาน ในเรื่อง ศาสนาของอัลลอฮ อื่นจากทั้งสอง(อื่นจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ) แน่นอนเขากล่าวในเรื่อง ศาสนาอัลลอฮ ด้วยสิ่งที่ไม่ได้ถูกรับรอง และเขารับรองบทบัญญัติ ที่อัลลอฮไม่ได้สั่งให้ปฏิบัติ - ดู มะฟาฮิมุลกุรอ่าน เล่ม 1 หน้า 631และ อิรชาดุลฟุหูล หน้า 214
........
อิหม่ามอัชเชากานีย์ บอกว่า ใครอ้างว่า คำว่าบิดอะฮคือการหลงผิด นั้นมีข้อยกเว้นไม่ใข่ทั้งหมด ก็ให้เขานำหลักฐานมา ถ้ามีหลักฐานก็ให้ยอมรับ แต่ถ้าไม่มี ก็ให้เอาก้อนหินยัดปากมัน
อิหม่ามอัชเชากานีย์ บอกว่า ใครอ้างว่า คำว่าบิดอะฮคือการหลงผิด นั้นมีข้อยกเว้นไม่ใข่ทั้งหมด ก็ให้เขานำหลักฐานมา ถ้ามีหลักฐานก็ให้ยอมรับ แต่ถ้าไม่มี ก็ให้เอาก้อนหินยัดปากมัน
فإن جاءك به قبلته وإن كاع كنت قد ألقمته حجرا واسترحت من المجادلة
ดังนั้น หากเขานำหลักฐานมาได้ ก็ให้ท่านยอมรับ และถ้าหากเขาไม่สามารถนำหลักฐานมาได้ ท่านก็จงเอาก้อนหินยัดปากเขาผู้นั้น และให้ท่านพักจากการโต้แย้งนั้นเสีย - นัยลุลเอาฏอร เล่ม 2 หน้า 69-70
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
12/4/60
12/4/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น